รู้จัก "Chula-Cov19" วัคซีนฝีมือคนไทย เทคโนโลยีเดียวกับไฟเซอร์-โมเดอร์นา
ทำความรู้จัก "Chula-Cov19" วัคซีนฝีมือคนไทย ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกับ "ไฟเซอร์-โมเดอร์นา"
ทำความรู้จักกับ "วัคซีน Chula-Cov19" วัคซีนที่คนไทยผลิต โดยทีมงาน รพ.จุฬาลงกรณ์ และเดือนมิถุนายนนี้ เริ่มทดลองในมนุษย์ คุณสมบัติพิเศษคือ สามารถเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้อย่างน้อย 3 เดือน และสามารถเก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ได้อย่างน้อย 2 อาทิตย์ จึงสะดวกในการขนส่งและการใช้งานในต่างจังหวัด หากสำเร็จเราจะมีวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่มีประสิทธิภาพที่คิดค้นโดยฝีมือคนไทย
โดยข้อมูลระบุ "วัคซีน Chula-Cov19" เป็นวัคซีนชนิด mRNA ที่ใช้เทคโนโลยีการผลิตเช่นเดียวกับวัคซีนไฟเซอร์ (Pfizer-BioNTech) และวัคซีนโมเดอร์นา (Moderna) ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการศึกษาการใช้งานในมนุษย์ระยะที่ 1 จากกลุ่มอาสาสมัคร 100 คน โดยจะทำการศึกษาทั้งสิ้น 3 ระยะ
เทคโนโลยีการผลิตวัคซีน Chula-Cov19
เป็นการสังเคราะห์รหัสคำสั่งโดยใช้ชิ้นส่วนพันธุกรรมของเชื้อโควิด-19 ส่วนที่เป็นปุ่มหนามของโปรตีน เมื่อฉีดวัคซีนเข้าสู่ร่างกาย เซลล์จะทำการสร้างโปรตีนส่วนที่เป็นปุ่มหนามของเชื้อโควิด-19 ขึ้น เพื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อจดจำและตอบโต้เชื้อโควิด-19 รหัสคำสั่งที่เรียกว่า mRNA (messenger Ribonucleic Acid นี้จะเป็นคำสั่งชั่วคราว เมื่อทำหน้าที่เรียบร้อยจะสลายไปภายในไม่กี่วัน จึงไม่มีการสะสมในระยะยาวแต่อย่างใด
คุณสมบัติพิเศษของวัคซีน Chula-Cov19
สามารถเก็บที่อุณหภูมิ 2-8 องศาเซลเซียส ได้อย่างน้อย 3 เดือน และสามารถเก็บที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ได้อย่างน้อย 2 อาทิตย์ จึงสะดวกในการขนส่งและการใช้งานในต่างจังหวัด
ความคืบหน้าในการผลิตวัคซีน Chula-Cov19
-จากการศึกษาโดยการใช้หนูทดลองพบว่า วัคซีน Chula-Cov19 มีผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ
-เดือน มิถุนายน พ.ศ. 2564 จะเริ่มทดลองใช้วัคซีน Chula-Cov19 ในมนุษย์
-วัคซีน Chula-Cov 19 ต่อไปกำลังถูกพัฒนาเพื่อป้องกันและลดความรุนแรงจากการติดเชื้อโรคโควิด-19 สายพันธุ์ B.1.351 (แอฟริกาใต้) และสายพันธุ์ B.1.1.7 (อังกฤษ)
ที่มา : ศ. นพ.เกียรติ รักษ์รุ่งธรรม
โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย
ข้อมูล ณ วันที่ 14 มิถุนายน 2564