เปิดเกณฑ์เยียวยา "แคมป์ก่อสร้าง" เช็กเงื่อนไขรับร้อยละ 50 จ่ายสดทุก 5 วัน
เปิดเกณฑ์เยียวยากรณีปิด "แคมป์ก่อสร้าง" เช็กเงื่อนไขถ้าอยากรับร้อยละ 50 จ่ายสดทุก 5 วัน จนครบ 1 เดือน
26 มิถุนายน 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในฐานะผู้อำนวยการ ศบค. ได้มีการประชุมคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 เมื่อวานนี้ และได้รับฟังรายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดในครั้งนี้ โดยที่ประชุมฯ มีความห่วงใย "คลัสเตอร์" ที่เกิดขึ้นใน "แคมป์ก่อสร้าง" ต่างๆ ที่มีคนงานเดินทางจากแคมป์ที่พักอาศัยไปสู่สถานที่ก่อสร้าง โดยเฉพาะในพื้นที่ กทม. และ ปริมณฑล รวมถึง 4 จังหวัดภาคใต้ คือ ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และ สงขลา จึงได้มีมติให้ปิด "แคมป์ก่อสร้าง" เหล่านี้เป็นการชั่วคราว เพื่อระงับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยมอบหมายให้กระทรวงแรงงานดูแลค่าใช้จ่าย เงินค่าจ้างชดเชยให้แก่ลูกจ้างแทนผู้ประกอบการ ในช่วงที่มีการประกาศปิด 1 เดือน
คนงานต้องอยู่ในพื้นที่จำกัด
ทั้งนี้ คนงานจะต้องอยู่ในพื้นที่ที่จำกัดไว้ เนื่องจากที่ผ่านมา "แคมป์ก่อสร้าง" เป็นแหล่งแพร่กระจายเชื้อที่พิสูจน์ทราบได้ โดยกระทรวงแรงงานจะเข้าตรวจสอบเช็กชื่อคนงานทุกวันเพื่อทำบัญชีค่าจ้างร่วมกับตัวแทนนายจ้าง หากลูกจ้างคนใดไม่อยู่ในแคมป์ ก็จะพิจารณาอีกทีเป็นรายๆ ไป เพราะการจ่ายค่าจ้างนั้นอยู่ที่นายจ้างต้องรับรองด้วย
นอกจากนี้ กระทรวงแรงงาน จะประสานกับ กระทรวงมหาดไทย เพื่อลงไปในพื้นที่และพบกับผู้ประกอบการ เพื่อทำความเข้าใจและชี้แจงมาตรการช่วยเหลือจากรัฐบาล พร้อมกับขอความร่วมมือในการงดเคลื่อนย้ายแรงงานทั้งหมดในเวลานี้
เยียวยา ร้อยละ 50
นายอนุชา กล่าวว่า โดยในช่วงที่ปิดแคมป์ก่อสร้าง กระทรวงแรงงานจะมีมาตรการเยียวยาให้ร้อยละ 50 ของค่าจ้าง ซึ่งเป็นการชดเชยเยียวยากรณีว่างงาน เพราะเหตุสุดวิสัย เนื่องจากถูกปิดตามคำสั่ง ศบค. ซึ่งในเบื้องต้น กระทรวงแรงงานมีแผนที่จะทำรายการจ่ายเงินสดให้คนงานที่แคมป์ก่อสร้างทุกๆ 5 วัน ตลอดช่วง 1 เดือน ตามรายชื่อที่นายจ้างรับรองวันต่อวัน ตลอดระยะเวลาที่มีการปิดแคมป์ก่อสร้างดังกล่าว ซึ่งกระทรวงแรงงานจะมีระบบตรวจสอบว่าแรงงานที่จะได้รับการเยียวยานั้น จะต้องอยู่ในแคมป์ก่อสร้างจริงๆ
ทั้งนี้ กระทรวงแรงงานจะลงไปตรวจ โควิด-19 เชิงรุกทุกแคมป์ก่อสร้างที่ปิด และหากแคมป์ก่อสร้างใดถือว่าปลอดภัย และได้รับวัคซีนในส่วน ม.33 แล้ว รวมถึงคณะกรรมการร่วมระหว่างกระทรวงแรงงาน ผู้ว่าราชการจังหวัด และสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) ตรวจสอบแล้วว่า ปลอดภัย จะดำเนินการปลดล็อกให้แคมป์ก่อสร้างนั้นกลับมาเปิดได้โดยเร็วที่สุด และอาจไม่ต้องรอให้ครบ 1 เดือน ขณะที่โครงการใดที่มีสัญญากับรัฐหรือเอกชน จะมีการขยายระยะเวลาสัญญาให้ในช่วงที่แรงงานต้องหยุดการทำงานทั้งหมด
ขอความร่วมมืองดเคลื่อนย้ายแรงงาน
นอกจากนี้ ในช่วงที่ปิด "แคมป์ก่อสร้าง" ขอความร่วมมือผู้ประกอบการหลีกเลี่ยงการเคลื่อนย้ายแรงงานโดยเด็ดขาด และไม่ให้คนงานเดินทางกลับต่างจังหวัด โดยหน่วยงานของรัฐจะเข้าไปดูแลเรื่องอาหาร และความเป็นอยู่ให้เรียบร้อย อย่างไรก็ตาม เพื่อความมั่นใจของพี่น้องประชาชน กระทรวงแรงงานและผู้ว่าราชการจังหวัดดังกล่าวจะทำการขอกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคงเข้าไปดูแล เฝ้าระวังพร้อมทั้งดูแลความปลอดภัยเพิ่มเติมในแต่ละแคมป์ก่อสร้างเพื่อดูความเรียบร้อยในช่วงเวลา 1 เดือนนี้ด้วย
บับเบิลแอนด์ซีล (Bubble & Seal) โรงงาน
จากสถานการณ์การติดเชื้อ โควิด-19 ใน กทม. และ ปริมณฑล มีการแพร่ระบาดอย่างต่อเนื่อง รัฐบาลโดย ศบค. จึงขอให้แต่ละจังหวัดเตรียมการเฝ้าระวังป้องกัน และมุ่งเน้นการควบคุมโรคในระดับสูง รวมถึงแจ้งเตือนให้อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) และเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่เฝ้าระวังบุคคลที่ไปจาก กทม. และจังหวัดที่มีการแพร่ระบาดสูง โดยพิจารณาเรื่องการ Quarantine อย่างเหมาะสม และเน้นการคัดกรองในกลุ่มเสี่ยง และคนที่มาจากจังหวัดอื่น หากพบการติดเชื้อให้เร่งคัดกรอง ควบคุม และรักษาโดยเร็ว
"ส่วนของโรงงานในพื้นที่ กทม. ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ ปัตตานี ยะลา สงขลา นราธิวาส ยังคงสามารถประกอบการได้ตามปกติ แต่ต้องมีการบับเบิลแอนด์ซีล รวมทั้งจะพิจารณากิจการที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค โควิด-19 ซึ่งไม่เป็นการปิดทั้งหมด แต่จะมีมาตรการเฉพาะออกมาเป็นการชั่วคราว โดยรัฐบาลจะดูแลเป็นพิเศษทั้งหมด ทุกกิจการ ทุกพื้นที่ และทุกคลัสเตอร์"
อ่านข่าว - ด่วน จองคิวฉีด "วัคซีน โควิด-19" เพิ่มเติม ศิริราช เปิดลงทะเบียนแล้วผ่านแอปฯ