"ล็อกดาวน์" กลางวัน ตำรวจ-ทหาร พรึบด่านตรวจ 9 จังหวัดแดงเข้ม สกัดคนเพ่นพ่าน | คมชัดลึก

นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. กล่าวถึงสถานการณ์โควิดว่า สำหรับข้อกำหนดที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่ง พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 ฉบับที่ 28 ประกาศวันที่ 17 กรกฎาคม 2564 ได้มีการประกาศ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดเป็น 13 จังหวัด พื้นที่ควบคุมสูงสุด เป็น 53 จังหวัด พื้นที่ควบคุม 10 จังหวัด พื้นที่เฝ้าระวังสูง 1 จังหวัด คือ ภูเก็ต และพื้นที่เฝ้าระวัง สีเขียว 0 จังหวัด ทั้งนี้ สืบเนื่องจากประเทศไทย มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นจำนวนมาก โดยในวันนี้พบผู้ติดเชื้อถึง 11,784 ราย และผู้เสียชีวิต 81 คน รวมเสียชีวิตสะสม 3,422 คน ทำให้ต้องดำเนินการจำกัดพื้นที่ เพื่อป้องกัรการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 

"ล็อกดาวน์" กลางวัน

 

 

           

โดยสาระสำคัญของประกาศครั้งนี้ เพื่อให้มีการดูแล 13 จังหวัด โดยเฉพาะ 9 จังหวัดหลักในโซนภาคกลาง (ยกเว้น 4 จว.ใต้) ในที่ประชุมเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา เน้นย้ำให้งดภารกิจการเดินทางออกนอกเคหสถาน หรือที่พำนักโดยไม่จำเป็น โดยเฉพาะในช่วงกลางวัน "ล็อกดาวน์" กลางวัน"

 

 

ซึ่งฝ่ายความมั่นคงมีการพูดคุยกันว่า จะมีการตั้งด่านตรวจอย่างเข้มงวด ในเวลากลางวัน และจะทำให้คนที่อยู่พื้นที่สีแดงเข้ม จะได้รับความไม่สะดวก หากออกมาข้างนอก เพราะจะมีการตั้งด่านรอบอยู่ตามชายขอบอย่างเข้มข้น 

 

 

ส่วนในจังหวัดยังมีด่านภายใน ซึ่งมี 3 แนวทาง โดยจะขอตรวจหลักฐานการอนุญาตจากเจ้าพนักงานในพื้นที่ เช่น ผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายอำเภอ ผู้อำนวยการเขต หัวหน้าสถานีตำรวจ พร้อมแสดงแอพพลิเคชั่นไทยชนะ และต้อง ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ covid-19.in.th ซึ่งจะได้คิวอาร์โค้ดออกมา เพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ที่ด่านตรวจ

 

    

ซึ่งขณะนี้ทางด่านกำลังทดสอบระบบนี้อยู่ ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ควรเดินทาง และมาตรการเหล่านี้ฝ่ายความมั่นคงทั้งตำรวจ ทหาร จะช่วยกันทำงานเข้มข้นมากขึ้น เพราะฉะนั้นในช่วงระหว่างวันทั้ง 13 จังหวัด จะมีความยุ่งยากในการเดินทางในช่วง 14 วันนี้ ซึ่งคาดว่าความเข้มข้นที่เกิดขึ้น จะมีโอกาสทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงได้

 

"ล็อกดาวน์" กลางวัน