ข่าว

"โควิด"ระบาดหนัก "สาธารณสุข" เตือนป้องกันสูงสุด งดออกนอกบ้าน

"โควิด"ระบาดหนัก "สาธารณสุข" เตือนป้องกันสูงสุด งดออกนอกบ้าน

28 ก.ค. 2564

"สาธารณสุข" เผยสถานการณ์ "โควิด" ทั่วโลกเข้าขั้นวิกฤต เตือนงดออกนอกบ้าน เสี่ยงติดเชื้อ แนะลดเดินทางข้ามจังหวัด และป้องกันตนเองสูงสุด

วันนี้ (28 ก.ค.) นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวง"สาธารณสุข" กล่าวว่า วันนี้ ประเทศไทยมีผู้ติดเชื้อโควิด 19 รายใหม่จำนวน 16,533 ราย หายกลับบ้าน 10,051 ราย เสียชีวิต 133 ราย ซึ่งขณะนี้สถานการณ์โรค"โควิด"-19 มีแนวโน้มผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นทั่วโลก ไม่เพียงเฉพาะประเทศไทย ที่สายพันธุ์เดลตา ได้แพร่กระจายอย่างรวดเร็ว ทำให้หลายประเทศมีผู้ติดเชื้อสูงขึ้น เช่น อินโดนีเซีย มาเลเซีย เมียนมา กัมพูชา เวียดนาม ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย รัสเซีย อังกฤษ สเปน อิสราเอล เป็นต้น

 

\"โควิด\"ระบาดหนัก \"สาธารณสุข\" เตือนป้องกันสูงสุด งดออกนอกบ้าน

 

   

สำหรับประเทศไทยจำนวนผู้ติดเชื้อ "โควิด" ที่สูงขึ้น เกิดจากการแพร่ระบาดใน กทม. ช่วงเมษายน 2564 และต่อมามีการเดินทางไปยังจังหวัดต่างๆ ทำให้มีผู้ติดเชื้อจำนวนมากขึ้นตามจังหวัดต่างๆ ปลายทาง หากผู้ติดเชื้อประสงค์เดินทางกลับภูมิลำเนาขอให้ลงทะเบียนเพื่อจัดบริการรับส่งผู้ป่วยกลับภูมิลำเนาอย่างปลอดภัย ลดความเสี่ยงการติดเชื้อในครอบครัวและชุมชนปลายทาง

 

\"โควิด\"ระบาดหนัก \"สาธารณสุข\" เตือนป้องกันสูงสุด งดออกนอกบ้าน

  

นายแพทย์โอภาส กล่าวอีกว่า ขณะนี้เชื้อแพร่กระจายเร็ว การติดเชื้อเป็นวงกว้าง การออกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้านอาจทำให้เกิดการติดเชื้อโดยไม่รู้ตัว และนำเชื้อกลับมาติดต่อสู่คนในครอบครัวได้ การควบคุมสถานการณ์การระบาดยังต้องอาศัยความร่วมมือร่วมใจจากประชาชนในทุกจังหวัด เพื่อลดตัวเลขการติดเชื้อลง

 

โดยขอให้อยู่บ้านมากที่สุด ลดการออกจากบ้าน ลดการเดินทางข้ามจังหวัด เน้นการทำงานที่บ้าน (Work From Home) ออกจากบ้านเท่าที่จำเป็น เช่น ไปซื้ออาหาร ไปโรงพยาบาล หรือไปฉีดวัคซีน เป็นต้น

 

โดยขอให้ป้องกันตนเองสูงสุด เสมือนคนรอบข้างเป็นผู้ติดเชื้อ"โควิด" เพื่อป้องกันเชื้อมาสู่ตนเอง และไม่ให้เชื้อแพร่สู่ผู้อื่น ด้วยการใส่หน้ากาก ล้างมือ เว้นระยะห่าง กลับถึงบ้านต้องอาบน้ำชำระกายทันที ส่วนการอยู่อาศัยร่วมกันในบ้านยังต้องสวมหน้ากากเว้นระยะห่างระหว่างกัน แยกกันรับประทานอาหาร ทำความสะอาดจุดสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ "โควิด" ภายในบ้านด้วย

 

สำหรับการฉีดวัคซีนโควิด 19 มีวัตถุประสงค์สำคัญ เพื่อลดความรุนแรง และการเสียชีวิตจากการติดเชื้อ  จึงเร่งดำเนินการฉีดวัคซีนในกลุ่มผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป กลุ่ม 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้ออาการรุนแรงและเสียชีวิต รวมถึงเน้นการกระตุ้นเข็มสามในบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า เพื่อให้ระบบสาธารณสุขเดินหน้าดูแลรักษาผู้ป่วยได้

 

โดยสถานการณ์ฉีดวัคซีนภาพรวมของประเทศ วันที่ 27 กรกฎาคม 2564 ฉีดได้ 327,389 โดส ฉีดสะสมรวม 16,427,059 โดส เฉพาะพื้นที่ กทม. ฉีดวัคซีนแล้ว 5,553,406 โดส โดยเป็นการฉีดเข็ม 1 จำนวน 4,540,215 คน คิดเป็นร้อยละ 58.97 ของจำนวนประชากร กทม.ที่มี 7,699,174 คน โดยในกลุ่มผู้สูงอายุมากกว่า 60 ปีขึ้นไป มีเป้าหมาย 1,041,828 คน ฉีดเข็ม 1 แล้ว 798,745 คน คิดเป็นร้อยละ 76.67 ส่วนผู้ที่มีโรคประจำตัวมีเป้าหมาย 659,380 คน ฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 แล้ว 491,514 คน คิดเป็นร้อยละ 74.54

 

ทั้งนี้ กระทรวง "สาธารณสุข" จัดสรรวัคซีนให้แก่ กทม.ได้ตามเป้าหมาย โดยช่วงมิถุนายน 2564 จัดสรรวัคซีนให้ 1.1 ล้านโดส เดือนกรกฎาคม 1.6 ล้านโดส รวม 2 เดือนจำนวน 2.7 ล้านโดส โดย กทม.เป็นผู้ดำเนินการบริหารจัดการกระจายวัคซีนลงจุดฉีดต่างๆ