"เดลตา" ครองจบทุกจังหวัด เบียด"อัลฟา"ขึ้นแท่นสายพันธุ์หลักในไทย
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เผยผลการตรวจสายพันธุ์โควิด-19 "เดลตา"มาแรง 95% ครบจบทุกจังหวัด เบียดสายพันธุ์"อัลฟา" ขึ้นเป็นสายพันธุ์หลัก ด้าน"เบตา"ยังคงนิ่งไม่น่ากังวล แต่ยังคงเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง
นายแพทย์ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข้อมูลจำแนกตามสถานการณ์ตามสายพันธุ์ที่เฝ้าระวังประจำสัปดาห์พบว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจผู้ติดเชื้อเพื่อค้นหาสายพันธุ์ โควิด-19 จำนวน 1,632 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า เป็นสายพันธุ์เดลตา หรือสายพันธุ์อินเดีย จำนวน 1,499 รายหรือคิดเป็น 91.9% สายพันธุ์อัลฟา หรือสายพันธุ์อังกฤษ จำนวน 129 รายหรือคิดเป็น 7.9% สายพันธุ์เบตา หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้จำนวน 4 รายหรือคิดเป็น 0.2%
หากแยกเป็นพื้นที่ในกรุงเทพมหานครมีการสุ่มตรวจใน 1,157 ตัวอย่างพบว่า 95.4% เป็นสายพันธุ์เดลตา 4.6% เป็นสายพันธุ์อัลฟา ซึ่งเป็นยอดรวมของการติดเชื้อในกรุงเทพมหานคร ขณะที่ส่วนภูมิภาคมีการสุ่มตรวจจำนวน 475 ตัวอย่าง พบเดลตา 83.2% และอัลฟา 16.0%
อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กล่าวด้วยว่า ขณะนี้สถานการณ์ในปัจจุบันเดลตากำลังเบียดสายพันธุ์อัลฟาไปเรื่อย ๆ จนสุดท้ายอัลฟาจะหมดไป และผู้ป่วยโควิด-19 ทุกรายในประเทศจะกลายเป็นสายพันธุ์เดลตาเป็นหลัก ซึ่งตอนนี้แนวโน้มพบว่าสายพันธุ์เดลตากระจายไปทั่วทุกจังหวัดของประเทศไทยแล้ว แม้ในจังหวัดสุพรรณบุรีจะ ยังไม่ตรวจพบสายพันธุ์เดลตาแต่ไม่ได้หมายความว่าไม่มี
ขนาดที่สายพันธุ์เบตา หรือสายพันธุ์แอฟริกาใต้ในวันนี้มีเพิ่มขึ้นมา 4 รายในจังหวัดพัทลุง 1ราย จังหวัดภูเก็ต 4 ราย และยังไม่พบการระบาดเพิ่มในจังหวัดอื่น ภาพรวมของสายพันธุ์เบตาตอนนี้อยู่ที่จังหวัดนราธิวาสจำนวน 354 ราย
ส่วนกรณีที่เคยเจอในพื้นที่จังหวัดบึงกาฬ 5 รายแต่ยุติไป แล้วสำหรับใน กทม. 3 รายก็ยุติไปแล้วไม่มีการระบาดต่อ ในจังหวัด สมุทรปราการ 3 รายอยู่ในสเตทควอรันธีนเบตาในภาพรวมขณะนี้มีทั้งสิ้น 488 รายซึ่งถือว่าไม่น่าเป็นห่วงเนื่องจากสายพันธุ์เบตาเป็นสายพันธุ์ที่มีอำนาจการแพร่มีน้อย แต่ก็จะต้องเฝ้าระวัง
นอกจากนี้สายพันธุ์อื่นที่นอกเหนือจาก 3 สายพันธุ์นี้ยังไม่มีการพบในประเทศไทยแต่ก็ยังต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง