ข่าว

“วราวุธ” ลั่นคนไทย แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันยิ่งชีพ

“วราวุธ” ลั่นคนไทย แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันยิ่งชีพ

15 ก.พ. 2567

"วราวุธ ศิลปอาชา" ลั่นคนไทยร่วมแสดงความจงรักภักดีแด่ กรมสมเด็จพระเทพฯ ผนึกพลังถวายกำลังใจ ด้วยความหวงแหน ปกป้อง รักษา เทิดทูนสถาบันยิ่งชีพ

เมื่อวันที่ 15 ก.พ. 2567 ที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) สะพานขาว กรุงเทพมหานคร(กทม.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) และหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.) กล่าวแถลงการณ์กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรื่องขอพระราชทานน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 

นายวราวุธ  ศิลปอาชา รมว.พม. นำข้าราชการ พม. กว่า 700 ชีวิต อ่านแถลงการณ์ แสดงความจงรักภักดีแด่กรมสมเด็จพระเทพฯ

“วราวุธ” ลั่นคนไทย แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันยิ่งชีพ

โดยมี นายธเนศพล ธนบุณยวัฒน์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. นายนิกร จำนง ประธานคณะที่ปรึกษาติดตามและเร่งรัดการขับเคลื่อนนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวง พม. คณะที่ปรึกษารมว.พม. นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวง พม. พร้อมคณะผู้บริหาร ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่กระทรวง พม. จำนวนกว่า 700 คน เข้าร่วมพิธี

 

 

นายวราวุธ อ่านแถลงการณ์ฯ ว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ถือเป็นสถาบันหลักของชาติ เป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของประชาชนชาวไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน การรักษาความมั่นคงสถาบันหลักของชาติ ถือเป็นหน้าที่ของคนไทยทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการพิทักษ์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นศูนย์รวมจิตใจของคนไทยทั้งชาติ ให้ดำรงอยู่คู่ประเทศชาติอย่างมั่นคงตลอดไป 

 

 

ทั้งนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี ได้ทรงสละความสุขส่วนพระองค์ และทรงมุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนในด้านต่าง ๆ อาทิ ด้านการศึกษา ด้านการอนุรักษ์-ศิลปวัฒนธรรมไทย ด้านการพัฒนาสังคม ด้านการต่างประเทศ ด้านการสาธารณสุข ด้านการศาสนา รวมถึงโครงการตามพระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร

 

 

นอกจากนี้ ยังทรงพระกรุณารับสมาคม สถาบัน และองค์กรต่าง ๆ ที่จัดตั้งขึ้นตามแนวพระราชดำริ หรือองค์กรต่าง ๆ ที่ช่วยเหลือและพัฒนาประชาชนไว้ในพระราชูปถัมภ์จำนวนมาก โดยทรงให้การสนับสนุนสมทบทุนจัดตั้งเป็น “กองทุนการกุศลสมเด็จพระเทพฯ” เพื่อให้การสงเคราะห์ช่วยเหลือประชาชนผู้ทุกข์ยากเดือดร้อน ผู้ด้อยโอกาส ผู้ขาดแคลน และสาธารณประโยชน์ต่าง ๆ แก่ประชาชนคนไทยและประเทศเพื่อนบ้านจนเป็นที่ประจักษ์

 

“วราวุธ” ลั่นคนไทย แสดงความจงรักภักดี เทิดทูนสถาบันยิ่งชีพ

นายวราวุธ กล่าวว่า กระทรวง พม. ได้น้อมนำพระราชจริยาวัตรของพระองค์ คือ พระเมตตาและความเอาพระทัยใส่ในชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และพระราชปณิธานที่มุ่งมั่นในการช่วยเหลือประชาชนและผู้ที่เดือดร้อนทุกคน นำมาขับเคลื่อนการทำงานของกระทรวงร่วมกับภาคีเครือข่ายในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ในโอกาสนี้ จึงขอพระราชทานน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วทั้งประเทศรวมพลังแสดงความจงรักภักดี ถวายแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย

 

 

นายวราวุธ กล่าวว่า พม.ได้จัดพิธีถวายความเคารพและการแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เพื่อเป็นการแสดงความระลึกถึงและถือเป็นพระมหากรุณาที่คุณที่พระองค์ท่านมีต่อกระทรวง พม. สำคัญที่สุดเป็นสิ่งที่ปวงชนชาวไทยทุกคนพึงตระหนักและพึงหวงแหน ปกป้อง และรักษาเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นสถาบันที่อยู่เคียงข้างกับพี่น้องประชาชนคนไทยและอยู่คู่กับประเทศชาติมาอย่างยาวนาน การแสดงพลังในเช้าวันนี้ เป็นการแสดงให้ทุกคนได้เห็นว่าจะตราบใด เวลาจะเปลี่ยนไป จะอย่างไรก็แล้วแต่ พี่น้องประชาชนคนไทยทุกคนส่วนใหญ่พวกเราให้ความเคารพให้ความนับถือและพร้อมที่จะปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทย และพวกเราจะไม่ยอมให้ใครไม่ว่าจะเป็นบุคคลใด กลุ่มบุคคลใด หรือใครก็แล้วแต่ จะมาลบหลู่ดูหมิ่นหรือพูดในสิ่งที่ไม่ดีถึงสถาบันพระมหากษัตริย์

 

 

“วันนี้เป็นอีกวันหนึ่งที่ผมเชื่อว่าพี่น้องประชาชนชาวไทยทั่วประเทศ ไม่ใช่เฉพาะเพียงแค่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ แต่ทราบว่ามีหลายหน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน ได้ร่วมแสดงพลังกันในวันนี้ และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงทุกคน ว่าสถาบันพระมหากษัตริย์เป็นสถาบันที่อยู่คู่กับประเทศชาติ อยู่คู่กับคนไทย และไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นพวกเราจะปกป้องและเทิดทูนไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเราตลอดไป” นายวราวุธ กล่าว

 

 

นายวราวุธ ยังให้สัมภาษณ์ภายหลังนำข้าราชการ พม.ขอพระราชทานน้อมแสดงความจงรักภักดีแด่สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ว่า การทำเช่นนี้ไม่ได้แปลว่าดึงสถาบันพระมหากษัตริย์ลงมาเกี่ยวข้องกับการเมือง แต่การที่พวกเราทุกคนล้วนเป็นพสกนิกรชาวไทยภายใต้พระบรมโพธิสมภารแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ทั้งนั้น แต่ละคนพึงกระทำหน้าที่ของแต่ละคนพึงกระทำหน้าที่ตามอำนาจที่ตัวเองมีอยู่ในมือ เช่น สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ได้เสนอญัตติด่วนในสภา ก็เป็นการใช้อำนาจหน้าที่ของตนเอง เป็นการแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดี และความรักในสถาบัน และที่สำคัญที่สุดเราจะไม่ยอมให้ใครมาลบหลู่ดูหมิ่นในสถาบันอันเป็นที่รักของเราเด็ดขาด พวกเราทุกคนทำหน้าที่อย่างเต็มที่เพื่อแสดงให้เห็นถึงความจงรักภักดี และความรักที่เรามีในสถาบัน

 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีมีการเสนอให้นิรโทษฏรรม ม.112 นายวราวุธ กล่าวว่า วันนี้คนทั่งประเทศได้แสดงพลังให้เห็นแล้วว่าพวกเราจะไม่ยอมเด็ดขาดที่จะให้ใครมาลบหลู่ดูหมิ่น ไม่ว่าจะเป็นใคร เพศใด อายุเท่าไหร่ คนชาติไหน ถ้าจะมาดูหมิ่นหรือปองร้ายหรือทำอะไรที่เป็นที่เสื่อมเสียต่อสถาบันพระมหากษัตริย์อันเป็นที่รักยิ่งของพวกเรา เราไม่ยอมเด็ดขาด ไม่ได้เป็นการท้าทาย ไม่ได้เป็นการสู้รบตบมือ แต่เป็นการปกป้องสถาบันที่เรามี

 

 

นายวราวุธ กล่าวว่า ประเทศไทยของเราการที่จะเดินไปข้างหน้าได้จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องอาศัยวิสัย พลังของคนรุ่น แต่ต้องไม่ลืมว่าการที่ประเทศเราเดินหน้ามาถึงวันนี้ได้เป็นเพราะคนรุ่นก่อนๆ บรรพบุรุษของพวกเรา และที่สำคัญที่สุดภายใต้พระบรมโพธิสมภารแห่งพระบรมราชจักรีวงศ์ สถาบันพระมหากษัตริย์ได้สร้างคุณูปการให้กับแผ่นดินไทย มาตั้งแต่เป็นสยามประเทศจนถึงวันนี้ ตนเชื่อว่าหากไม่มีสถาบันพระมหากษัตริย์ประเทศไทยจะไม่เป็นเช่นนี้เด็ดขาด ดังนั้น การที่จะจะเดินไปข้างหน้าแน่นอนว่าเราต้องใช้พลังของคนรุ่นใหม่ แต่ขอให้พึงตระหนักว่าเรามาถึงตรงนี้ได้อย่างไร เพราะถ้าไม่ดี ไม่สมบูรณ์ เป็นอย่างที่คนกลุ่มหนึ่งคิด ประเทศไทยไม่เป็นอย่างนี้แน่นอน สิ่งที่อยู่กับแผ่นดินไทยมาช้านาน คือ สถาบันพระมหากษัตริย์ที่พวกเราจะหวงแหน และรักษายิ่งเท่าชีวิต