สนว. เชิญ ลงนามถวายพระพร 'กรมสมเด็จพระเทพฯ' ในโอกาส วันคล้ายวันพระราชสมภพ
สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วม ลงนาม ถวายพระพร 'กรมสมเด็จพระเทพฯ' เนื่องในโอกาส วันคล้ายวันพระราชสมภพ 2 เมษายน 2567 ผ่านระบบออนไลน์
สำนักพระราชวัง ขอเชิญชวนประชาชนร่วมลงนามถวายพระพร 'กรมสมเด็จพระเทพฯ' เนื่องในโอกาสวันคล้ายวันพระราชสมภพ วันที่ 2 เมษายน 2567 ผ่านระบบออนไลน์ ที่เว็บไซต์หน่วยราชการในพระองค์ www.royaloffice.th ระหว่างวันที่ 1 – 3 เมษายน 2567
สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พระราชสมภพเมื่อวันเสาร์ที่ 2 เมษายน 2498 (ตรงกับวันขึ้น 10 ค่ำ เดือน 5 ปีมะแม สัปตศก) ณ พระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต เป็นสมเด็จพระเจ้าลูกเธอพระองค์ที่ 3 ในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยได้รับการถวายพระนามจากสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ ว่า สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิรินธรเทพรัตนสุดา กิติวัฒนาดุลโสภาคย์ พร้อมทั้งประทานคำแปลว่า นางแก้ว อันหมายถึง หญิงผู้ประเสริฐ และมีพระนามที่ข้าราชบริพาร เรียกทั่วไปว่า "ทูลกระหม่อมน้อย"
ในการพระราชพิธีบรมราชาภิเษก พุทธศักราช 2562 พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มีพระราชดำริว่า สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เป็นพระโสทรกนิษฐภคินีที่ได้ทรงร่วมสุขร่วมทุกข์ มาแต่ทรงพระเยาว์ เมื่อทรงเจริญพระชนมายุ ก็ได้ทรงปฏิบัติบำเพ็ญพระราชกรณียกิจสนองพระเดชพระคุณสมเด็จพระบรมชนกนาถและสมเด็จพระบรมราชชนนีด้วยพระวิริย อุตสาหะ เป็นคุณูปการแก่ประเทศชาติและอาณาประชาราษฎร์อย่างใหญ่หลวง เป็นอเนกประการ ครั้นในรัชกาลปัจจุบัน ก็ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจแทนพระองค์ ในหลายวาระ และช่วยแบ่งเบาพระราชภารกิจน้อยใหญ่ที่สืบเนื่องมาแต่ครั้งรัชสมัยสมเด็จพระบรมชนกนาถ ให้ดำเนินลุล่วงไปด้วยความเรียบร้อย เป็นที่ไว้วางพระราชหฤทัย สมควรจะยกย่องพระเกียรติยศตามฐานะแห่งพระบรมราชวงศ์ จึงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้เฉลิมพระนามาภิไธยตามที่จารึกในพระสุพรรณบัฏว่า สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี
นับเป็นเจ้านายพระองค์แรกที่ได้รับพระราชทานพระเกียรติยศที่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า โดยยังทรงพระอิสริยยศ กรมสมเด็จพระ และ สยามบรมราชกุมารี ตามที่ได้รับพระราชทานจากสมเด็จพระบรมชนกนาถ
ในที่นี้เป็นการเฉลิมพระนามาภิไธย ให้วิเศษยิ่งขึ้นจาก “สมเด็จพระ” เป็น “กรมสมเด็จพระ” เหมือนในอดีต แต่ “กรมสมเด็จพระ” ในที่นี้ไม่ใช่การสถาปนาเจ้าต่างกรมแบบโบราณ เพราะพระเกียรติยศที่มีอยู่เดิมสูงกว่าเจ้าต่างกรมไปแล้ว พระองค์ยังทรงพระอิสริยยศเป็น "สยามบรมราชกุมารี" ตามเดิม นอกจากนี้ยังทรงได้รับพระราชทานเกียรติยศเป็นที่ "สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า" ซึ่งไม่เคยปรากฏในอดีตเพิ่มเติมด้วยอีกประการหนึ่ง