แดงสายบู๊“เอนก ซานฟราน”เชื่อมใต้ดินลาว..?
แดงสายบู๊“เอนก ซานฟราน”เชื่อมใต้ดินลาว..?
สืบเนื่องจากสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ได้ส่งประกาศรายชื่อบุคคลเฝ้าระวังให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) โดยหนังสือดังกล่าว ระบุว่า “ผู้ที่มีการกระทำอันเป็นการก่อการร้าย ตามมติของคณะรัฐมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ หรือ UNSC ซึ่งบุคคลเหล่านี้ ถูกกำหนดตามข้อห้าม มาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย และการเผยแพร่ขยายอาวุธ ที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง พ.ศ.2555 จำนวน 254 ราย นิติบุคคล 75 ราย รวมทั้งสิ้น 329 ราย ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคมที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ปปง.ยังกำหนดเพิ่มเติม ให้ 6 คนไทย เป็นบุคคล ตามมาตรา 7 ของพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว ซึ่งระบุว่า เป็นบุคคลที่มีเหตุอันสงสัย และมีหลักฐานอันสมควรว่า มีพฤติกรรมเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย หรือสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้าย ซึ่งในนั้นมี มนูญ ชัยชนะ หรือ ”เอนก ซานฟราน” ที่มีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดทางการเมืองเมื่อสองปีก่อน
สำหรับ ”เอนก ซานฟราน” เมื่อช่วงปี 2558 ทางการไทย เคยประสานขอส่งตัวผู้ร้ายข้ามแดนกับทางการสหรัฐฯ มาแล้ว
ใครที่ได้ติดตามข่าวสารการเคลื่อนไหวของ “แดงใต้ดิน” ที่ใช้สื่อใหม่เผยแพร่แนวคิดล้มล้างสถาบันมาอย่างต่อเนื่อง จะคุ้นชื่อเหล่านี้ อาทิเอนก ซานฟราน, ดร.เพียงดิน รักไทย, อาคม ซิดนีย์, ชูพงศ์ เปลี่ยนระบอบ และ วู๊ดไซด์ นิวยอร์ค
เอนก หรือ มนูญ ชัยชนะ หรือ แอนโทนี่ ซานฟราน หรือ “อาต๋อย” เป็นเจ้าของร้าน King of Thai noodle ในซานฟรานซิสโก สหรัฐฯ และเขาให้ร้านก๋วยเตี๋ยวแห่งนี้ เป็นศูนย์กลางในการเคลื่อนไหวของ นปช.ยูเอสเอ
เมื่อ 10 ปีที่แล้ว “เอนก ซานฟราน” หรือ “แอนโทนี ซานฟราน” ปรากฏตัวต่อสังคมคนไทยในอเมริกาในฐานะ “คนรักทักษิณ” ผ่านทางรายการ“ประชาธิปไตยทูเดย์”ของสถานีโทรทัศน์ไอพีทีวี ซึ่งปัจจุบันเลิกราไปแล้ว
ปี 2555 เอนก ซานฟราน ได้จัดตั้งองค์กรเอ็นจีโอด้านสิทธิมนุษยชนชื่อ“ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน” (Thai Alliance for Human Rights) โดยเขานั่งตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร และมี ดร.เพียงดิน รักไทย (เสน่ห์ ถิ่นแสน) เป็นประธาน พร้อมกับดึง “ริชาร์ด ไซสมมอน” ชาวลาวที่มีสื่อทีวีเป็นของตัวเอง
เหตุที่เอนกทำแนวร่วมกับ “คนลาว” ที่อาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เพราะคนไทยในซานฟรานซิสโก และลอสแอนเจลิสโดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มพันธมิตรฯ เอนกจึงดึงคนลาวบางกลุ่มมาเป็นสมาชิก นปช.ยูเอสเอ ทำการเคลื่อนไหวต่อต้าน“ระบอบอำมาตยาธิปไตย” ในเมืองไทย
หลังการรัฐประหาร 2557 เอนก ซานฟราน มีรายชื่ออยู่หนึ่งใน 33 คดีพิเศษ ที่เข้าข่ายหมิ่นเบื้องสูงของกรมสอบสวนคดีพิเศษถึง 2 คดี และมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 10 ตามประกาศคำสั่งให้มารายงานตัวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ฉบับที่ 49/2557
เดือน มิ.ย.2557 เอนกให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวอิศราว่า จะไม่เดินทางกลับมารายงานตัวต่อ คสช.เด็ดขาด และขู่ที่จะฟ้ององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ถึงการกระทำของ คสช.ในกรณีนี้ด้วย
“พวกเขามีสิทธิอะไรกับผมซึ่งเป็นพลเมืองประเทศอื่น เขากำลังจะเอากฎหมายแบบนี้มาใช้กับคนชาติอื่นอย่างนั้นหรือ”
ปีที่แล้ว “เอนก ซานฟราน” กับ “ดร.เพียงดิน รักไทย” ยังจัดรายการผ่านยูทู้ปวิพากษ์วิจารณ์สถาบันพระมหากษัตริย์
มีรายงานข่าวว่า หลังจาก “กลุ่มโกตี๋” ถูกกดดันจากทาง คสช.อย่างหนักเมื่อต้นปีที่ผ่านมา จึงทำให้ “เครือข่ายคนแดนไกล” ทำท่าว่า จะตัดหางปล่อยวัด อันส่งผลให้ ดร.เพียงดิน รักไทย พยายามยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือด้านเงินทุน
ดังที่ทราบกัน ดร.เพียงดิน เป็นมิตรร่วมรบของเอนก ซานฟราน ที่ได้ก่อตั้งขบวนการ “ภาคีไทยเพื่อสิทธิมนุษยชน” ในสหรัฐมานานแล้ว
ปี 2558 เกิดเหตุระเบิดหน้าศาลอาญา รัชดา ปรากฏว่า มือระเบิดถูกจับ และซัดทอดคนชื่อ “เดียร์” ที่เป็นเครือข่ายของ เอนก ซานฟราน เป็นผู้ประสานงานและจ่ายเงินในการก่อเหตุปาระเบิดศาลอาญา
หน่วยงานความมั่นคง ตั้งข้อสังเกตว่า กลุ่มโกตี๋ที่อยู่ในลาว พักหลังมีเงินทองใช้ฟุ่มเฟือย และมีการใช้เงินบางส่วนจ่ายใต้โต๊ะให้เจ้าหน้าที่ท้องถิ่น เพื่ออำนวยความสะดวกในการเคลื่อนไหวใต้ดิน
กล่าวถึงที่สุด กลุ่มเอนก ซานฟราน กับกลุ่มโกตี๋ ก็มีแนวทางเดียวกันคือ พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน