โรงพยาบาล 'ธงฟ้า'ความฝันหรือความจริง?
คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]
ระยะนี้มีผู้แสดงความคิดเห็น เรื่องโรงพยาบาลเอกชนคิดค่ารักษาพยาบาล และค่ายาแพงมาก จนมีการสอบสวน และให้ดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.เรื่องราคาสินค้าและบริการเกินจริง
วันนี้มีจดหมายจากคุณ ‘อนุพล’ ลำพูน ที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับโครงการนโยบายใหม่เรื่อง ‘โรงพยาบาลธงฟ้า’ โดยการริเริ่มของกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ ซึ่งหากทำได้จะเป็นทางเลือกของประชาชนซึ่งดีมากๆ
โครงการ ‘รพ.ธงฟ้า’ นี้จะให้กรมการค้าภายในดำเนินการหน่วยงานเดียว ยังไม่พอ แต่ต้องร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุขด้วย
ณ เวลานี้กำลังจะมีรัฐ ครม.ใหม่ และต้องรอนโยบายของรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ และสาธารณสุข ว่าจะไปทิศทางใด และจะสานต่อโครงการ ‘รพ.ธงฟ้า’ หรือไม่?
‘รพ.ธงฟ้า’ จึงอาจจะเป็นเพียงความฝันแทนที่จะเป็นความจริง – ประชาชนก็ต้องทนรอกันต่อไป
อ๊อด เทอร์โบ
‘โรงพยาบาลธงฟ้า’ ทำได้หรือ?
เรียน คุณอ๊อด เทอร์โบ
ผมเขียนจดหมายฉบับนี้ส่งมาในวันประชุมสภาเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็ได้นายกฯ คนเดิม ‘พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา’ แบบสบายๆ เพราะดูแล้วหลายๆ พรรคที่ทำท่ายึกยักแล้วในที่สุดก็เข้าร่วมรัฐบาลดังเป็นที่ทราบกันอยู่
ขอฝากถึงผู้ที่จะมาเป็นรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ ให้สานต่อนโยบายที่ดีมากๆ ของกรมการค้าภายใน เกี่ยวกับเรื่องโรงพยาบาลธงฟ้า ซึ่งผมสารภาพว่า เพิ่งเคยได้ยินเป็นครั้งแรก และเห็นว่าเป็นเรื่องดีมากๆ ซึ่งขอสรุปย่อๆ ให้เป็นข้อมูลพอสังเขปว่า
โครงการ “โรงพยาบาลธงฟ้า” ร่วมมือกับ โรงพยาบาลเอกชน ที่คิดค่ายาและค่ารักษาพยาบาลไม่แพงจนเกินไป ให้เข้าร่วมโครงการ เพื่อให้เป็นทางเลือกของประชาชนที่ต้องการใช้บริการรักษาในโรงพยาบาลเอกชน ปัจจุบันยังมีโรงพยาบาลเอกชนกว่า 100 แห่ง หรือประมาณ 30-40% ของโรงพยาบาลเอกชนทั้งหมด คิดค่ายา และค่ารักษาไม่แพงมากนักเมื่อเทียบกับโรงพยาบาลเอกชนด้วยกัน โดยโรงพยาบาลเอกชนรายใดเข้าร่วม กรมจะมอบตราสัญลักษณ์ให้ เพื่อให้ประชาชนได้รับทราบ และมาใช้บริการ
ทั้งนี้จะสำรวจเรื่องราคาซื้อ และขายยา เวชภัณฑ์ บริการทางการแพทย์ จากโรงพยาบาลเอกชนครบถ้วนทุกรายก่อน การส่งข้อมูลดังกล่าว เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) ฉบับที่ 52 พ.ศ.2562
โดยให้การแจ้งราคา การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไขเกี่ยวกับการจำหน่ายยารักษาโรค เวชภัณฑ์ ค่าบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์ และบริการอื่นของสถานพยาบาล โดยโรงพยาบาลต้องแจ้งราคามาที่กรม ภายใน 45 วัน หรือภายในกลางเดือนกรกฎาคม 2562
ขณะนี้เห็นรัฐบาลเอาจริงเอาจังเรื่องโรงพยาบาลเอกชนคิดค่ารักษาแพงมาก ทำให้เจ้าของโรงพยาบาลรวยเอาๆ เป็นมหาเศรษฐีประเทศไทย
อนุพล (ลำพูน)
คุ้งบางกระเจ้า
ปอดของกรุงเทพ
(เรียน คุณอ๊อด เทอร์โบ)
ผมเพิ่งไปเที่ยวบางกระเจ้ามาเมื่อต้นเดือนครับ หลังจากทราบจากเพื่อนที่ชอบขี่จักรยาน และอีกคนชอบวิ่งออกกำลังว่า หากมีเวลาควรจะไปสัมผัสกับแหล่งโอโซนของ กทม. ซึ่งไปมาสะดวกมาก
ก็เป็นจริงสมคำเล่าลือครับ เพราะบางกระเจ้ามีต้นไม้ มีความร่มรื่น เงียบสงบมากๆ ซึ่งผมเองก็ไม่ทราบว่าบางกระเจ้านี่เป็นของใคร หรือหน่วยงานใด แต่อยากให้มีหน่วยงานพิเศษอนุรักษ์บางกระเจ้า และจัดระเบียบให้ดีก่อนจะมีปัญหาตามมา หากคนไปเยอะๆ แบบตลาดน้ำ หรือ สถานที่ท่องเที่ยวหลายๆ แห่งทั่วประเทศ
ผมไปค้นข้อมูลมาแจ้งให้ทราบเพื่อจะได้เห็นถึงความสำคัญและเรื่องดีๆ ของบางกระเจ้าว่า
คุ้งบางกระเจ้าถือเป็นเหมือนกับปอดใกล้กรุงเทพฯ ปัจจุบันยังมีสภาพเป็นป่าธรรมชาติที่มีความหลากหลายทางชีวภาพ และถือเป็นแหล่งผลิตโอโซนลำดับ 7 ของโลก
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประกาศให้คุ้งบางกระเจ้ารวมพื้นที่ทั้งสิ้น 11,819 ไร่ เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม ประกอบด้วย 6 ตำบล ได้แก่ บางกระเจ้า บางน้ำผึ้ง บางกอบัว บางกระสอบ บางยอ และบางคนอง
จึงขอเชิญชวนให้ไปสัมผัสกับความสุขในชีวิตที่คุ้งบางกระเจ้า ซึ่งไม่ต้องไปไกลถึงต่างประเทศหรือต่างๆ จังหวัด แล้วจะพบว่าการอยู่กับธรรมชาติเป็นเรื่องดีจริงๆ
อาทร (พญาไท)
เรียน คุณ ‘อาทร’ พญาไท
ผมมีข่าวดีมาแจ้งเพิ่มเติมให้ทราบว่าทาง ปตท., ผวจ.สมุทรปราการ และมูลนิธิชัยพัฒนา ได้ร่วมมือร่วมใจกันพัฒนาคุ้มบางกระเจ้าให้เป็นสีเขียว โดยจะมีการปลูกต้นไม้ และมีองค์กร และเอกชนต่างๆ ร่วมด้วย
สำหรับรายละเอียดต่างๆ นั้น มีมากมาย ขอเรียนให้ทราบว่าจะมีการจัดระบบใหม่คุ้งบางกระเจ้า ซึ่งทางกรมป่าไม้จะให้ผู้ชำนาญการวางท่อระบายน้ำ และจัดเตรียมพื้นที่ปลูกต้นไม้ และหาพันธุ์ไม้ให้ด้วย
เชื่อว่าหากมีหน่วยงานร่วมด้วยช่วยกันสนับสนุนเช่นนี้ คุ้งบางกระเจ้าจะเป็นแหล่งโอโซนที่เหมือนกับปอดของกรุงเทพฯ และบริเวณใกล้เคียง
อ๊อด เทอร์โบ