คอลัมนิสต์

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 

 

          รายการเนชั่นสุดสัปดาห์กับ 3 บก. ออกอากาศทุกวันเสาร์เวลาห้าโมงเย็นทางเนชั่นทีวีช่อง 22 “สมชาย มีเสน” ซีอีโอเครือเนชั่น ”วีระศักดิ์ พงษ์อักษร“ บรรณาธิการบริหาร นสพ.กรุงเทพธุรกิจและ ”บากบั่น บุญเลิศ“ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร นสพ.ฐานเศรษฐกิจ ร่วมวิเคราะห์ประเด็น ”ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึก!” กับอนาคตของอนาคตใหม่

 

 

          “สมชาย" กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่กำลังลุ้นชะตาของตัวเองกับการตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญ

 

 

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 


          โดย พล.อ.ประยุทธ์ จะโดนวินิจฉัยเรื่องการเป็นเจ้าหน้าที่อื่นของรัฐ (หัวหน้าคสช.) ตามที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นไป และวันที่ 18 กันยายน ศาลรัฐธรรมนูญจะมีการวินิจฉัย หากสถานะนายกฯของพล.อ.ประยุทธ์ สิ้นสุด ครม.ก็จะพ้นไปด้วย
 

          และเรื่องการถวายสัตย์ปฏิญาณตนของครม. แม้การประชุมครม.ครั้งล่าสุด ครม.มีการรับพระราชทานพระราชดำรัสและพระราชหัตถเลขาในการถวายสัตย์ปฏิญาณตนเมื่อวันที่ 16 กรกฎาคม ที่ผ่านมา เพราะนายกฯ กราบบังคมทูลขอพระราชทานเพื่อเป็นสิริมงคล


          และสมัยรัฐบาลบรรหาร ศิลปอาชา ก็เคยมีการรับพระราชทานพระราชดำรัสและพระราชหัตถเลขาในการถวายสัตย์ปฏิญาณตนเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก

 

 

 

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 


          แม้นายกฯ บอกว่า กรณีนี้ไม่ทราบว่าจบหรือไม่ เพราะฝ่ายค้านยืนยันยังยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปในเรื่องนี้รวมทั้งผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องนี้ให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยด้วย
  

          “วีระศักดิ์” ประเมินว่า แกนนำพรรคอนาคตใหม่บอกว่าปัญหานี้และคำตอบควรอยู่ที่นายกฯ ในเรื่องดังกล่าวนั้น แต่ความจริงคำตอบเรื่องนี้น่าจะมาจากศาลรัฐธรรมนูญและนายกฯ อาจตอบญัตติว่าเรื่องนี้ศาลรัฐธรรรมนูญกำลังพิจารณา
  



          “บากบั่น” สรุปว่า พล.อ.ประยุทธ์ บอกว่าจะไปตอบญัตตินี้ด้วยตัวเองและอาจบอกว่าเรื่องนี้อยู่ในขั้นตอนของศาลรัฐธรรมนูญ

 

 

 

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 


          ส่วนคดีของธนาธรที่ยังไม่มีการวินิจฉัยแม้คดีจะดำเนินการก่อนกรณีของ พล.อ.ประยุทธ์ นั้น


          "บากบั่น” กล่าวว่า กรณีหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่เรื่องการถือหุ้นสื่อ (วี-ลัค มีเดีย) นั้น เรื่องนี้อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญตั้งแต่เดือนพฤษภาคม รัฐธรรมนูญและกฎหมายเลือกตั้งกำหนดคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส. ว่าห้ามถือหุ้นสื่อ แบบนี้ว่าอ้างไม่รู้กฎหมายไม่ได้ แม้จะอ้างว่าบริษัทกำลังจะปิดกิจการจึงโอนหุ้นก็ตาม
  

          “สมชาย" กล่าวว่า นอกจากคดีถือหุ้นสื่อนั้น ธนาธรยังมีห้าคดีติดตัวคือ คดีอาญาสามคดี และคดีการเลือกตั้งสองคดี โดยคดีการถือหุ้นสื่อนั้น ศาลรัฐธรรมนูญกำลังวางกรอบดำเนินการเรื่องนี้ แม้ธนาธรบอกว่าโอนหุ้นสื่อไปก่อนลงสมัคร ส.ส. (วันที่ 6 ก.พ.) แต่ข้อมูลของกรมพัฒนาธูรกิจการค้าระบุในวันที่ 21 มีนาคม โดยระบุว่ามีการโอนหุ้นตัวนี้ในวันดังกล่าวซึ่งเป็นหลักฐานทางราชการ แม้ธนาธรอ้างว่าโอนหุ้นไปตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม ก็ตาม
  

 

 

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 

 

          และช่วงนั้นผู้สมัคร ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ โดนตัดสิทธิลงสมัคร ส.ส. เพราะถือหุ้นสื่อ (วันที่ 19 มี.ค.) ตอนนั้นมีการพูดกันว่าหัวหน้าพรรคทราบเรื่องนี้และอาจไปโอนหุ้นย้อนหลัง


          กฎหมายระบุว่าผู้สมัคร ส.ส.ห้ามมีหุ้นสื่อ แต่หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ที่ถือหุ้นบริษัทนี้และบริษัทนี้ตีพิมพ์นิตยสารหลายเล่ม ถามว่าแม้ธนาธรจะอ้างว่าบริษัทกำลังจะปิดกิจการก็ตามจึงโอนหุ้นให้มารดา ถามว่ามารดาของธนาธรจะซื้อบริษัทที่กำลังจะปิดกิจการแบบนี้หรือ


          ธนาธรยื่นศาลรัฐธรรมนูญว่าอยากให้ไต่สวนเพราะเตรียมพยานไว้หลายคนคือตัวเอง มารดา ทนายความที่เป็นพยานในการโอนหุ้น และอาจมีภริยารวมทั้งหลานของธนาธรไปชี้แจง
  

          “วีระศักดิ์” ประเมินว่า แม้ธนาธรจะอ้างว่าโอนหุ้นไปตั้งแต่วันที่ 8 มกราคม เพราะมีการตั้งข้อสังเกตว่าตอนนั้นธนาธรไปหาเสียงที่ต่างจังหวัดแม้จะมีหลักฐาน (อาทิ ภาพถ่ายและใบเสร็จค่าทางด่วนกลับเข้ากทม.) มายืนยันก็ตาม ส่วนการนำพยานไปไต่สวนคือการชี้ชะตาของธนาธรเพราะเป็นเกมสำคัญ

 

 

 

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 


          "บากบั่น“ กล่าวว่า การขึ้นศาลต้องสาบานตนก่อนเบิกความ หากเบิกความเท็จจะมีความผิด ดังนั้นการตัดสินคุณสมบัติผู้สมัคร ส.ส.ครั้งนี้ของหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่นั้น ศาลรัฐธรรมนูญจะไต่สวนเพิ่มเติมหรือพิจารณาจากเอกสารและตัดสินเลยก็ได้ตามดุลพินิจของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ


          ส่วนประเด็นอนาคตของพรรคอนาคตใหม่ที่มีกระแสข่าวว่าอาจจะโดนยุบพรรคตามที่แกนนำพรรคเพื่อไทยระบุไว้จนแกนนำพรรคอนาคตใหม่แสดงความไม่พอใจนั้น


          “วีระศักดิ์” กล่าวว่า ตรงนี้คือรอยปริของพันธมิตรการเมืองคือพรรคเพื่อไทยกับพรรคอนาคตใหม่


          “บากบั่น” ประเมินว่า แบบนี้แสดงว่าท่าทีของแกนนำพรรคอนาคตใหม่โกรธแกนนำพรรคเพื่อไทย

 

 

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 


           "สมชาย” วิเคราะห์ว่า คำร้องที่ส่งให้กกต.วินิจฉัยให้ยุบพรรคอนาคตใหม่มีห้ากรณี โดยเรื่องธนาธรให้เงินกู้กับพรรคอนาคตใหม่นั้นน่าจะหนักที่สุด เพราะกฎหมายเลือกตั้งไม่เคยเขียนไว้ว่าให้พรรคการเมืองกู้เงินได้ เจตนาของกฎหมายมองว่าหากมีการให้กู้เงิน ผู้ให้กู้จะควบคุมบริหารจัดการพรรคนั้นๆ ได้ กฎหมายจึงเขียนห้ามไว้


          และสิ่งที่แกนนำพรรคเพื่อไทยพูดเรื่องของพรรคอนาคตใหม่ว่าอาจจะโดนยุบพรรคหลังพรรคประชาชนปฏิรูปนำร่องการยุบพรรคนั้น ประเด็นนี้ไม่เคยโดนเปิดมาก่อนจนแกนนำพรรคเพื่อไทยนำมาเปิดเผย ประวัติศาสตร์การเมืองนั้นระบุว่ามีการยุบพรรคการเมืองไปแล้วหนึ่งร้อยสามสิบสามพรรค และแบ่งเป็นพรรคขนาดใหญ่แปดพรรค

 

 

 

ลุงตู่-ธนาธร ลุ้นระทึกกับอนาคตของอนาคตใหม่

 


          โดยฐานความผิดของการยุบพรรคตามที่รัฐธรรมนูญระบุไว้ว่ามีสิบสองมูลฐานที่จะยุบพรรคได้ ตอนนี้พรรคอนาคตใหม่เข้าข่ายหลายมูลฐาน แต่สิ่งที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่บอกว่าไม่มีเหตุนำไปสู่การยุบพรรคนั้น หากพิจารณาตามนี้จะพบว่ามีเหตุยุบพรรค ดังนั้นสิ่งที่แกนนำพรรคอนาคตใหม่ระบุไว้อาจจะทำไปแบบปากกล้าขาสั่นและพูดปลุกใจคนในพรรค


          หากพรรคโดนยุบนั้น กฎหมายระบุว่า ส.ส.ทั้งสองระบบ สามารถหาพรรคใหม่สังกัดได้ เพราะมีตัวอย่างมาแล้ว (กรณีอดีตส.ส.พรรคพลังประชาชนย้ายเข้าพรรคภูมิใจไทย เพราะพรรคพลังประชาชนโดนยุบ) ยกเว้นกรรมการบริหารพรรคที่โดนตัดสิทธิทางการเมือง

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-เจาะทีมไซเบอร์อนาคตใหม่...ความสำเร็จที่ "ล็อกผลได้" ของธนาธร
-ลอกคราบ "อนาคตใหม่" ซ้ายซ่อนรูป
-พล.อ.ประยุทธ์ รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งเป็นนายกฯ
-นายกฯ ต้อนรับ ผู้นำโสมขาว นำตรวจแถวกองเกียรติยศ
 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ