มีแค่ “ตู่” ขอโทษ
ยุครัฐบาลยิ่งลักษณ์ แกนนำ นปช. และแนวร่วมเฟื่องฟู “เฮียหวัง” ก็ได้ตำแหน่งที่ปรึกษารัฐมนตรีพาณิชย์ (กิตติรัตน์ ณ ระนอง เมื่อ 30 สิงหาคม 2554) ปีถัดมา เฮียหวังเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยเกษตรและสหกรณ์(ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ) และเป็นผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีช่วยพาณิชย์ (ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ)
จตุพร พรหมพันธุ์
กรณีเฮียหวังล้มละลาย “ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” หนึ่งในสามเกลอมิได้แสดงความเห็นใดๆ ต่างจาก “จตุพร พรหมพันธุ์” ประธาน นปช.ที่ได้ใช้เวทีงานวันเกิด 5 ตุลาคมที่ผ่านมา กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า รู้สึกเห็นใจ เสียใจ และขอโทษที่ทำให้เดือดร้อน
ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ
แรกที่ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ, วีระกานต์ มุสิกพงศ์, ธิดา ถาวรเศรษฐ และเหวง โตจิราการ ได้เปิดสำนักข่าว “ยูดีดีนิวส์” ที่อาคารเอเวอรี่ มอลล์ถ.รัตนาธิเบศร์ ใกล้สี่แยกแคราย อ.เมือง จ.นนทบุรี หลายคนแอบคิดว่า เฮียหวังอาจอยู่เบื้องหลัง แต่ก็ไม่ใช่ เมื่อเฮียหวังวางระเบิดภาษีย้อนหลัง
วีระกานต์ มุสิกพงศ์
“สามเกลอ” หมายถึงวีระกานต์ มุสิกพงศ์ ,จตุพร พรหมพันธุ์ และณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ปรากฏว่า จตุพรขอโทษเฮียหวังแล้ว แต่สองเกลอ “นายหัวไข่มุกดำ-เสี่ยเต้น” กลับนิ่ง
เหมือนสองเกลอ ได้ที่พึ่งพิงใหม่ ไม่จำเป็นต้องอาศัยเฮียหวัง
มีคำตอบ..เฮียสู้เพื่อใคร?
"เฮียหวัง" สมหวัง อัสราษี ประธานบริษัท สแกนเนอร์ อิเลคทริค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อมิตซูชิต้า เปิดตัวครั้งแรกในฐานะผู้สนับสนุนรายการ “ความจริงวันนี้” เมื่อ 29 พฤศจิกายน 2551 ซึ่งรายการทีวีของสามเกลอ “วีระกานต์-ตู่-เต้น”
ต้นปี 2552 “สามเกลอ” ในฐานะแกนนำ นปช. แลถงเปิดตัวสถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม “ดีทีวี” โดยณัฐวุฒิแถลงว่า ไม่เกี่ยวข้องกับทักษิณ และเงินทุนส่วนหนึ่งจากรายได้ของการจำหน่ายเครื่องดื่มชูกำลัง“ความจริงวันนี้” ที่มอบหมายให้บริษัทของ “เฮียหวัง” ดำเนินการ
สมหวัง อัสราษี
เฮียหวังทำเครื่องดื่มชูกำลัง “ความจริงวันนี้” พร้อมกับหม้อหุงข้าวไฟฟ้า และพัดลมสีแดง แต่เขาบอกว่าไม่ได้ทำเครื่องดื่มชูกำลัง “ทักษิณสู้” เป็นเรื่องของนายทุนอีกกลุ่มหนึ่งร่วมกับหมู่บ้านเสื้อแดง
เฮียหวังเอาบริษัท สแกนเนอร์ อิเลคทริค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ายี่ห้อมิตซูชิต้า มาเดิมพันกับการเมืองนอกสภา เฮียหวังจะได้อะไร กับการเล่นเกมเสี่ยง
ปี 2551 "มติชนออนไลน์" ได้เปิดเผยข้อมูลว่า บริษัทสแกนเนอร์ฯ ของเฮียหวัง แม้จะมีรายได้จากการประกอบกิจการกว่า 200 ล้านบาทต่อปี แต่มีกำไรเพียงเล็กน้อย 2-3 ล้านบาท นอกจากนั้นผลประกอบกิจการในปี 2550 ยังลดลงเหลือไม่ถึง 200 ล้านบาท และขาดทุนถึง 26 ล้านบาท โดยมีขาดทุนสะสมเกือบ 20 ล้านบาท
ธุรกิจมีกำไรไม่มาก แต่ยอมเสี่ยง..เพื่ออะไร? วันนี้ก็มีคำตอบแล้ว