คอลัมนิสต์

อย่าดื่มเหล้าแก้หนาว อันตรายถึงชีวิต

อย่าดื่มเหล้าแก้หนาว อันตรายถึงชีวิต

16 ธ.ค. 2562

อย่าดื่มเหล้าแก้หนาว อันตรายถึงชีวิต คอลัมน์... อ๊อด เทอร์โบ..ดับเครื่องชน [email protected]

 

 

  
          ‘ดับเครื่องชน’ มีเรื่องเกี่ยวกับอากาศหนาวในบางพื้นที่มาแจ้งให้ทราบด้วยความปรารถนาดีโดยมีการเข้าใจผิดว่าดื่มเหล้าหรือดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์แก้หนาวได้เพราะกรณีนี้อันตรายมากถึงแก่ชีวิตได้

 

 

          ข้อมูลจากอธิบดีกรมควบคุมโรค ‘นพ.สุวรรณชัย วัฒนายิ่งเจริญชัย’ ซึ่งขอให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวบางคนที่จะไปในท้องที่อากาศหนาวเย็นมากๆ ว่า

          การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในช่วงอากาศหนาวเย็นทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้ ประชาชนบางส่วนดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เพราะมีความเชื่อว่าจะทำให้ร่างกายอบอุ่น คลายหนาวได้และช่วยลดความปวดเมื่อย
  
          แท้จริงแล้วเป็นความเชื่อและความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์จะทำให้ผู้ดื่มมีความรู้สึกอบอุ่นขึ้นเพียงชั่วครู่ นั่นเป็นผลมาจากการที่หลอดเลือดฝอยขยายตัวและเป็นช่องทางระบายความร้อนออกจากร่างกาย
  
          ยิ่งดื่มแอลกอฮอล์มากขึ้นเท่าไหร่ ความร้อนก็จะถูกระบายออกจากร่างกายมากขึ้น ทำให้อุณหภูมิในร่างกายลดต่ำลงกว่าปกติ เกิดภาวะอุณหภูมิกายต่ำหรือไฮโปเทอร์เมีย เมื่อหลับร่างกายสัมผัสอากาศเย็นเป็นเวลานานจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เสียชีวิต

          กรมควบคุมโรคแนะนำ 6 วิธีปฏิบัติกับอากาศหนาวสำหรับประชาชนและคนใกล้ชิดโดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยงได้แก่ ผู้สูงอายุที่มีโรคประจำตัว ผู้พิการ เด็กเล็ก ผู้ใช้แรงงานที่พักผ่อนไม่เพียงพอ

          1.ดูแลสุขภาพร่างกายให้แข็งแรงด้วยการออกกำลังกาย รับประทานอาหารครบ 5 หมู่และดื่มเครื่องดื่มที่ให้ความอบอุ่นแก่ร่างกายและทาผลิตภัณฑ์รักษาความชุ่มชื่นของผิวหนัง 2.เตรียมเครื่องนุ่มห่มกันหนาวให้พร้อมและทำความสะอาดเสื้อผ้าหรือผ้าห่มโดยเฉพาะเสื้อผ้ามือสอง


  
          3.งดการดื่มสุราหรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วงภาวะอากาศหนาว 4.ระมัดระวังและสังเกตอาการป่วยที่กินยาบางชนิด เช่น ยากล่อมประสาท ยารักษาอาการชัก และอื่นๆ ที่มีผลทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง 5.ในช่วงอากาศหนาวอาจทำให้เกิดโรคติดเชื้อได้ง่ายโดยเฉพาะโรคไข้หวัดใหญ่ 6.หมั่นดูแลร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ
  
          จึงขอเป็นสื่อกลางแจ้งให้ทราบและขอบคุณ ‘กรมควบคุมโรค’ มา ณ โอกาสนี้
อ๊อด เทอร์โบ



 ประเทศไทยอย่าเหมือนฮ่องกง
          จดหมายจากคุณ ‘ปรารถนา’ กทม.ต่อไปนี้ ยกตัวอย่างม็อบฮ่องกงที่มีมาแบบมาราธอน ก่อความเสียหายเป็นผลกระทบในวงกว้างว่าเป็นอย่างไร

          เวลานี้ไทยกำลังอยู่ปากเหวความหวาดผวาโดยเฉพาะการเมืองที่มีแต่การตามหามาตรฐานว่าอยู่ตรงไหน?
  
          ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเค้าแห่งการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ที่เรียกร้องต่อรัฐบาล ซึ่งหลายฝ่ายมองว่าเป็นเรื่องการเมืองไม่ใช่การเรียกร้องอย่างบริสุทธิ์ใจซึ่งขอให้รัฐบาลพิจารณา ประชาชนจะได้อบอุ่น
อ๊อด เทอร์โบ



 ฮ่องกงประท้วงมาราธอน
 ธุรกิจเจ๊งพังพาบ

          เพื่อนผมคนหนึ่งสนใจเรื่องการประท้วงมาราธอนกว่าครึ่งปีในฮ่องกงและส่งไลน์มาบอกว่าม็อบฮ่องกงนี้ไม่เป็นผลดีเลยเหมือนกับประเทศไทยบ้านเราประท้วงเป็นสีๆจนทหารออกมาปฏิวัติ
  
          ม็อบฮ่องกงนี่ดูแล้วจีนทำแบบปล่อยให้เหี่ยวแห้งตายเพราะนสพ.ยักษ์ใหญ่ของฮ่องกงฉบับหนึ่งรายงานข่าวว่าธุรกิจร้านค้าต่างๆ เกือบหมื่นแห่งเตรียมวางแผนปิดกิจการและลดจ้างคนลงอีกเกือบหกพันตำแหน่ง ยอดขายหายไปเกือบ 15% และตุลาคมที่ผ่านมานักท่องเที่ยวหายไปราวเกือบ 44%
  
          ฮ่องกงตกอยู่ในสภาพวุ่นวายจากการปะทะรุนแรงนับจากมีการประท้วงใหญ่โดยขณะนี้ยังไม่เห็นจุดจบสิ้น การประท้วงขยายวงเป็นแคมเปญต่อต้านรัฐบาลที่โหมความรุนแรงและสร้างโกลาหลไปทั่วดินแดนจากการปิดถนน ปิดเส้นทางคมนาคม ทำลายทรัพย์สินกลุ่มธุรกิจ พังร้านค้า ภัตตาคาร และธนาคารที่มีสายสัมพันธ์กับจีน

          การป่วนเมืองอุบัติขึ้นตามช็อปปิ้งมอลล์ ศูนย์กลางพาณิชย์ แหล่งท่องเที่ยว และเขตที่อยู่อาศัย เช่น คอสเวย์เบย์, จิมซาจุ่ย, มงก๊ก, ชาทิน และเจิ้งกวนโอ การเดินทางมาฮ่องกงของนักท่องเที่ยวซึ่งเป็นเสาหลักกระตุ้นการบริโภคตกฮวบในเดือนตุลาคม นับเป็นการตกอย่างแรงที่สุด
  
          ผมจึงยกตัวอย่างม็อบฮ่องกงมาเพราะไม่อยากให้ประเทศไทยมีที่ม็อบหลายๆ อย่างกำลังก่อตัวตามสภาพการเมืองและเศรษฐกิจ มีอะไรก็พูดจากันให้รู้เรื่องอย่าให้เกิดม็อบหรือชุมนุมประท้วงอะไรอีกเลย
ปรารถนา (กทม.)
