"บิ๊กแดง"คอนเฟิร์ม 22 พ.ค."เขาเอาแน่"
"บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. คอนเฟิร์มไว้ ครบรอบรัฐประหาร 22 พ.ค. "เขาเอาแน่นอน"
ที่เวปไซต์ เนชั่นสุดสัปดาห์ ได้เผยแพร่ รายงานพิเศษ ในการจับตาสถานการณ์สำคัญในบ้านเมืองในห้วงเหตุการณ์สำคัญทางการเมืองในเดือนพฤษภาคม เพราะฝ่ายที่อยู่ตรงข้ามรัฐบาล ก็เดินเกมส์เคลื่อนไหว ฝ่ายการ ฉายเลเซอร์ ตามหาความจริง ในสถานที่สำคัญที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ในอดีต หลายฝ่ายจับตาท่าทีของ ฝ่ายความมั่นคงจะมีท่าทีอย่างไร
มีไม่กี่เหตุผล "บิ๊กตู่" พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ปล่อยผ่าน กิจกรรมยิงเลเซอร์ #ตามหาความจริง สถานที่สัญลักษณ์การชุมนุม ปี 2553 ของ "คณะก้าวหน้า" และหนึ่งในนั้นคือ "กระทรวงกลาโหม" ที่มีระบบการรักษาความปลอดภัยอย่างเคร่งครัด ทั้งกองรักษาการณ์หน้ากระทรวง , ทหารลาดตระเวนพร้อมสุนัขทหาร 24 ชั่วโมง และกล้องวงจรปิดอีกหลายจุด
อ่านข่าว... ก้าวหน้ารุก "ตามหาความจริง" ศึกชิงอุดมการณ์
ระบบรักษาความปลอดภัย "กระทรวงกลาโหม" ไม่ได้หละหลวม เพราะจากการเช็กกล้องวงจรปิดพบว่า ทีม "คณะก้าวหน้า" ขับรถตู้ชะลอตรงสัญญาณไฟจราจร แยกศาลหลักเมือง ก่อนเปิดกระจก คนหนึ่งทำหน้าที่ยิงเลเซอร์ข้อความ อีกคนถ่ายภาพ
โดยจุดแรก ตรงกับห้องทำงาน "บิ๊กณัฐ" พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ ปลัดกระทรวงกลาโหม ก่อนจะขับรถไปยิงเลเซอร์จุดที่สอง ตรงกับห้องเก็บเอกสาร บริเวณกรมแผนที่เก่า โดยใช้เวลาดำเนินการจุดละ 3 -5 วินาที ก่อนเผยแพร่ลงโซเชียล
ฝ่ายกฎหมาย "กระทรวงกลาโหม" กางตำราตรวจสอบข้อกฎหมาย พบว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และไม่เข้าข่ายกระทำความผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ เนื่องจากข้อความที่ระบุ เช่น ทหารขับไล่เสื้อแดงทั้งหมดออกจาก CTW , ทหารควบคุมพื้นที่CTW , เกิดเพลิงไหม้ตอนทหารคุม CTW และ ทหารไม่ยอมให้ดับเพลิงเข้าไปดับไฟ คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในขณะนั้น
แต่ความผิดที่เด่นชัดคือ เจตนาก่อความเดือดร้อนรำคาญ โทษจำคุกไม่เกินหนึ่งเดือน ปรับไม่เกินหนึ่งหมื่นบาท และ กระทำเสี่ยงต่อการเกิดอันตรายกับยานพาหนะบนท้องถนน ตาม พ.ร.บ.การจราจร ซึ่งโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท ทั้งสองข้อหา เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถดำเนินการได้ทันที โดยเรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ไม่จำเป็นต้องมีคนมาแจ้งความ
คดีนี้ไม่ได้ซับซ้อน "ทีมยิงเลเซอร์" ตั้งใจเปิดเผยตัวตน'โจ่งครึ่ม แต่เพราะเหตุใดตำรวจยังไม่เรียกมารับทราบข้อกล่าวหา ทั้งๆ ที่หลักฐานในมือมีครบถ้วน ทราบแม้กระทั้งทะเบียนรถตู้ ใครเป็นเจ้าของรถ , ใครเป็นคนขับ , คนถ่ายภาพ,คนยิงเลเซอร์ แต่คดีกลับล่าช้ากว่าที่ควรจะเป็น
แม้แต่ "ช่อ" พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า ยังอดรนทนไม่ไหว ขนาดบอกใบ้ด้วยการโพสต์รูปพร้อมข้อความก็แล้ว ยอมรับก็แล้วว่า "คณะก้าวหน้า"เป็นผู้ทำแคมเปญยิงเลเซอร์ตามสถานที่ต่างๆ เพื่อรำลึกถึงเหตุรุนแรงทางการเมืองในเดือน พฤษภาคม แต่ตำรวจก็ยังนิ่ง
"บิ๊กตู่" รู้ดีนี่คือเกมล่อเหยื่อหวังให้ตะครุบ จึงทำได้เพียงแค่ออกมาปราม และปล่อยให้ตำรวจดำเนินการไปตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่บุ่มบาม หรือเร่งรัดคดี ให้เข้าทาง "คณะก้าวหน้า" จนกระแสจุดติด เพราะจะไม่ส่งผลดีต่อการแก้ไขปัญหาประเทศ ที่เกิดจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั้ง เรื่องเศรษฐกิจ คนว่างงาน สุขภาพประชาชน ที่ปะเดปะดังเข้ามา
ในขณะเดียวกัน ก็ต้องเตรียมแผนรับมือ เมื่อการยิงเลเซอร์ #ค้นหาความจริง ไม่ทำให้ "บิ๊กตู่" ตะครุบเหยื่อที่วางไว้ มาตรการต่อไปของ "คณะก้าวหน้า" คือการยกระดับ ส่วนจะออกมาในทิศทางไหน เป็นเรื่องที่ หน่วยงานความมั่นคง ประเมินไม่ได้ แต่ที่แน่ๆ "บิ๊กแดง" พล.อ.อภิรัตน์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. คอนเฟิร์มไว้ ครบรอบรัฐประหาร 22 พ.ค. "เขาเอาแน่นอน"
ขอบคุณ เนชั่นสุดสัปดาห์