พม่าแค้น เขย่าธุรกิจจีนสัญญาณจลาจล
เมียนมาประกาศกฎอัยการศึกในย่างกุ้ง หลังเหตุเผาโรงงานทอผ้าจีน ส่งสัญญาณกลียุค
++
วันอาทิตย์นองเลือด 14 มี.ค.2564 มีผู้เสียชีวิตกว่า 40 ราย ในการชุมนุมประท้วงรัฐบาลเผด็จทหารเมียนมาทั่วประเทศ และช่วงบ่ายวันเดียวกัน เกิดเหตุเพลิงไหม้โรงงานทอผ้าหลายแห่ง ในเขตอุตสาหกรรมไหล่ต่าหย่า กรุงย่างกุ้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง... ส่องเมียนมา วัดใจ "20 กองกำลัง" สู่สงครามประชาชน
สถานทูตจึน ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้รัฐบาลทหารจัดการคนเผาโรงงาน
สำนักข่าว Myanmar Harp Media รายงานว่า ช่วงเวลาบ่ายโมง ได้เกิดเพลิงไหม้โรงงานทอผ้า 2 แห่ง และมีผู้มีเสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนหนึ่ง
ขณะที่สำนักข่าวต่างประเทศ ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมว่า มีกลุ่มคนขับมอเตอร์ไซค์มากกว่า 20 คน เข้าจุดไฟเผาโรงงานตัดเย็บเสื้อผ้า 2 แห่ง คือ Global Fashion และ Tsang Yih ซึ่งลงทุนโดยชาวจีน และชาวไต้หวันตามลำดับ
ทางการเมียนมา ประกาศกฎอัยการศึก 2 อำเภอ
ตกค่ำ สถานทูตจีนประจำเมียนมา ได้ออกแถลงการณ์เรียกร้องให้ตำรวจเมียนมาดำเนินมาตรการรักษาความปลอดภัย ที่มีประสิทธิภาพกับบริษัท และบุคลากรของจีนในเมียนมา รวมถึงสอบสวนและดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำผิดกฎหมายก่อความรุนแรง
สถานทูตจีนได้อธิบายให้ทราบว่า จีนได้เข้ามาลงทุนทำธุรกิจในเมียนมา สร้างงานให้กับคนท้องถิ่นมากกว่า 4 หมื่นตำแหน่ง การทำลายธุรกิจของจีน ก็เท่ากับทำลายผลประโยชน์คนเมียนมาเอง จึงเรียกร้องให้ชาวเมียนมาแสดงความต้องการในกรอบกฎหมาย ไม่หลงเชื่อคำยุยงปลุกปั่นที่บ่อนทำลายความร่วมมือที่เป็นมิตรระหว่างจีน-เมียนมา
เหตุเพลิงไหม้โรงงานทอผ้าของชาวจีน
เวลา 23.00 น. (เวลาท้องถิ่น) วันเดียวกัน สภาบริหารภาครัฐ (SAC) ได้ประกาศใช้กฎอัยการศึก ในพื้นที่ อ.ไหล่ต่าหย่า และ อ.ฉ่วยปยีต่า กรุงย่างกุ้ง เพื่อควบคุมสถานการณ์ความรุนแรงในเขตอุตสาหกรรมไหล่ต่าหย่า และสนองตอบข้อเรียกร้องของสถานทูตจีน ที่ให้ดำเนินมาตรการที่เข้มข้น เพื่อดูแลภาคธุรกิจของจีน
มีข้อน่าสังเกตจากโซเชียลชาวเมียนมา ปรากฏว่า มีคนบางกลุ่มเรียกร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงปฏิบัติการตอบโต้แหล่งผลประโยชน์ของชาวจีน เนื่องจากพวกเขามองว่า กองทัพเมียนมาได้รับการหนุนช่วยจากจีน จึงกล้าที่จะลงมือเข่นฆ่าประชาชน
ก่อนหน้านั้น สถานทูตจีนในเมียนมา ได้เรียกร้องให้สภาบริหารภาครัฐ (SAC) เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยท่อส่งน้ำมันและก๊าซ ที่เริ่มต้นจากยะไข่ ผ่านตอนกลางประเทศเมียนมาไปมณฑลยูนนาน เนื่องจากมีการโพสต์ในโซเชียลให้ผู้ประท้วงไปเผาท่อส่งน้ำมันและก๊าซดังกล่าว