
วิถีพม่า "มินอ่องหล่าย"รัฐประหารซ้อน
ข่าวลือรัฐประหารซ้อน "มินอ่องหล่าย" กักตัว 10 นายพล จับตาจอมเผด็จการบินไปอินโดนีเซียสุดสัปดาห์นี้
++
สุดสัปดาห์นี้ สถานการณ์ในเมียนมาที่น่าจับตาคือ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และประธานสภาบริหารภาครัฐ (SAC) จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ที่กรุงจาการ์ตา อินโดนีเซีย
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง... "มินอ่องหล่าย" หลังพิงมังกร สู้ม็อบสามนิ้ว
ซอมินตุน โฆษกรัฐบาลทหาร
ขณะที่รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติเมียนมา (NUG) นำโดยพรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของออง ซาน ซู จี ส่งเสียงคัดค้านการเข้าร่วมประชุมอาเซียนของจอมเผด็จการเมียนมา
วันที่ พล.ต.ซอ มิน ตุน โฆษกสภาบริหารภาครัฐ (SAC) บอกผู้สื่อข่าว Nikkei Asia ว่า “มินอ่องหล่าย” จะเดินทางไปกรุงจาการ์ตาอย่างแน่นอน
พร้อมกันนั้น พล.ต.ซอ มิน ตุน ยังชี้แจงข่าวเรื่องควบคุมตัวนายทหารผ่าน Nikkei Asia ว่า พล.ท.หย่าปญิ กับนายทหารอีก 10 คน ไม่ได้ถูกควบคุมตัว เพราะคัดค้านรัฐประหารตามข่าวลือ แต่มีงานยุ่ง จึงไม่ได้ปรากฏตัวในการแถลงข่าวที่กรุงเนปิดอว์
หลังรัฐประหารในเมียนมาไม่นานนัก นักวิชาการไทยบางท่าน อธิบายว่า พล.อ.อาวุโสมินอ่องหล่าย อาจถูกนายทหารเมียนมารุ่นใหม่ ก่อการยึดอำนาจก็ได้ เพราะมีข่าววงในว่า มีแม่ทัพนายกองบางส่วนไม่พอใจที่กองทัพทำรัฐประหาร และปราบปรามเข่นฆ่าประชาชน
++
มือการทูตชาติพันธุ์
++
สำหรับ พล.ท.หย่าปญิ มีตำแหน่งเป็นประธานกรรมการพูดคุยเพื่อสันติภาพกองทัพเมียนมา/กรรมการคณะกรรมการกลางเพื่อความสามัคคีและการสร้างสันติแห่งชาติ/รองประธานคณะทำงานความสามัคคีและการสร้างสันติแห่งชาติ/ประธานคณะกรรมการประสานงานความสามัคคีและการสร้างสันติแห่งชาติ คณะกรรมการสันติภาพของรัฐบาลทหาร หรือสภาบริหารภาครัฐ(SAC)
พล.ท.หย่าปญิ เคยเป็นผู้บัญชาการกองทัพน้อยภาคตะวันออก มีที่ตั้งอยู่ที่เมืองตองจี รับผิดชอบพื้นที่ทางตอนใต้ของรัฐฉาน และเป็นผู้บัญชาการกองทัพน้อยภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รับผิดชอบพื้นที่รัฐฉานตอนเหนือ
พล.ท.หย่าปญิ ที่มีข่าวลือว่าถูกกักตัว
เนื่องจากรัฐฉาน มีกองกำลังติดอาวุธชาติพันธุ์อยู่มากกว่า 10 กลุ่ม นายทหารเมียนมาคนไหนที่ถูกส่งมาประจำการ ย่อมถูกคัดเลือกมาเป็นพิเศษ พล.อ.อาวุโส มินอ่องหล่าย ก็เติบโตจากภูมิภาคนี้
ดังนั้น พล.ท.หย่าปญิ จึงถูกวางตัวให้เป็น “นักพูดคุยสันติภาพ” เพราะจะรู้จักผู้นำกลุ่มชาติพันธุ์ติดอาวุธเป็นอย่างดี
วันที่ 7 เม.ย.2564 พล.ท.หย่าปญิ และ พล.ท.อ่องส่อเอ ผู้บัญชาการกองยุทธการพิเศษที่ 2 กองปฏิบัติการพิเศษของกองทัพเมียนมา กับคณะ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปยังเมืองหมากหมาง เขตปกครองพิเศษว้า 2 แห่งรัฐฉาน ได้หารือกับ จาว กว๋อ-อาน รองประธาน คนที่ 2 พรรคสหรัฐว้า/กองทัพสหรัฐว้า(UWSP/UWSA) และมนตรีการต่างประเทศ เพื่อต้องการอธิบายสาเหตุที่กองทัพเมียนมาตัดสินใจทำรัฐประหาร พร้อมเสนอแนวทางพูดคุยสันติภาพ และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างกองทัพ
วันที่ 8 เม.ย.2564 คณะนายทหารเมียนมาชุดพูดคุยสันติภาพ ได้เดินทางมายัง บก.บ้านไฮ รัฐฉาน พบกับ “ป่างฟ้า” ประธานพรรครัฐฉานก้าวหน้า/กองทัพรัฐฉาน (SSPP/SSA) ในเรื่องเดียวกันกับที่ไปแจ้งกับตัวแทนว้าแดง
เหตุที่กองทัพเมียนมา เลือกพูดคุยกับว้าแดง และกองทัพไทใหญ่เหนือ เนื่องจากสองกลุ่มนี้มีความใกล้ชิดกัน และเป็นปฏิปักษ์กับกลุ่มไทใหญ่ใต้ของเจ้ายอดศึก
++
เกมแย่งกลุ่มชาติพันธุ์
++
กลุ่มผู้ประท้วงบนท้องถนน พยายามชูป้ายและเรียกหา "กองทัพสหพันธรัฐ" (federal army) เพื่อมาต่อกรกับกองทัพเมียนมา แต่ดูเหมือนว่า เรื่องการตั้งกองทัพของกลุ่มชาติพันธุ์ยังดูเลื่อนลอย
ที่ผ่านมา ดร.ซาซ่า ตัวแทนของคณะกรรมการตัวแทนสภาแห่งสหภาพ (CRPH) และรัฐมนตรีกระทรวงความร่วมมือระหว่างประเทศของรัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ (NUG) ได้ต่อสายพูดคุยกับตัวแทนกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ไปแล้ว
จริงๆแล้ว เรื่อง "กองทัพสหพันธรัฐ" (federal army) เคยถูกหยิบยกมาพูดคุยบนโต๊ะเจรจาสันติภาพสมัยรัฐบาลเต็งเส่ง ซึ่งกองทัพเมียนมา ต้องการมีกองทัพเดียว (single army) ด้านกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ เห็นว่าต้องเป็น "กองทัพสหพันธรัฐ" (federal army)
สภาพความเป็นจริงของกลุ่มติดอาวุธชาติพันธุ์ในวันนี้ ผู้นำกลุ่มเหล่านี้ ส่วนใหญ่จะมีแนวคิด “ลัทธิขุนศึก” สอดคล้องกับแนวคิดทหารเมียนมาคือ อำนาจรัฐเกิดจากปากกระบอกปืน พวกเขาจึงมองว่า รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ไม่ต่างจากรัฐบาลเงา ไร้อำนาจแท้จริง
หากในอนาคต รัฐบาลเอกภาพแห่งชาติ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติ ก็จะเป็นอีกเรื่องหนึ่ง