คอลัมนิสต์

หมอพัง "หนู-โอ๋" ถอย พปชร.รุกชิงมวลชน

หมอพัง "หนู-โอ๋" ถอย พปชร.รุกชิงมวลชน

27 พ.ค. 2564

หมอพร้อมหรือหมอพัง "อนุทิน" ถอยกรูด เจอ "3 ป." ปรับแผนกระจายวัคซีนใหม่  


++
“วัคซีนการเมือง” หรือ “การเมืองวัคซีน” ถ้อยวลีนี้หลุดออกมาจากปากนักการเมือง 2 พรรคคือ พรรคภูมิใจไทย และพรรคประชาธิปัตย์ หลัง ศบค. มีมติสั่งชะลอการลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิดผ่าน “หมอพร้อม” เพื่อเปิดทางให้มีแพล็ตฟอร์มอื่นๆ มารองรับ

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวจข้อง... 
"อนุทิน" ไม่รู้เรื่อง เพิ่มอำนาจนำเข้าวัคซีน"ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์"

 

หมอพัง \"หนู-โอ๋\" ถอย พปชร.รุกชิงมวลชน

แผนกระจายวัคซีนของเสี่ยหนู สะดุด


    

ยกตัวอย่างกรุงเทพมหานคร ร่วมกับหน่วยงานภาคีเครือข่าย เปิดระบบลงทะเบียนฉีดวัคซีนโควิด-19 "ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯปลอดภัย" เพื่ออำนวยความสะดวกประชาชนในพื้นที่กรุงเทพฯ ให้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 นอกโรงพยาบาลได้อย่างรวดเร็ว
    

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้สั่งการ เลขาธิการ สมช. ในฐานะ ผอ.ศปก.ศบค.ประชุมร่วมกับปลัดกระทรวงสาธารณสุขและอธิบดีกรมควบคุมโรค ให้มีการปรับแผนการกระจายวัคซีนใหม่ จากเดิมจัดสรรวัคซีนตามโควต้าการจอง ปรับมาเป็นการจัดสรรให้เข้ากับสถานการณ์ปัจจุบัน 
    

หลังมีเสียงเรียกร้องเรื่องการกระจายวัคซีนที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง มาจาก ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ หลายจังหวัด อาทิ เพชรบุรี,ชลบุรี และสงขลา ก็มีข่าวปรับแผนการจัดสรรวัคซีนใหม่
    

นักข่าวทุกสำนักต่างจับจ้องไปที่พรรคภูมิใจไทย ซึ่งมีการประชุมเตรียมความพร้อมการประชุมรัฐสภา ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี เมื่อบ่ายวันพุธที่ 26 พ.ค.2564
    

ประชุมเสร็จ อนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรค และศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค นำทีมตั้งโต๊ะแถลงข่าวเรื่องผลการประชุมเรื่อง พ.ร.บ.งบประมาณฯ แถมด้วยเรื่องชะลอ “หมอพร้อม” และการกระจายวัคซีน
    

น้ำเสียงของ “หมอหนู” ที่ชี้แจงเรื่องดังกล่าวข้างต้นนั้น แฝงไว้ด้วยความน้อยใจ เหมือนมองไม่เห็นหัว แต่ก็พยายามบอกว่า ไม่มีปัญหา ไม่มีความขัดแย้ง เพราะเป็นอำนาจของ ศบค.
    

สำหรับประเด็นการเมือง กรณีกลุ่มไทยไม่ทน เรียกร้องให้พรรคภูมิใจไทย ถอนตัวออกจากพรรคร่วมรัฐบาล อนุทินตอบนักข่าวว่า เราเป็นรัฐบาลที่อยู่ด้วยกันมาสองปี และทำงานร่วมกัน ตนไม่เคยคิดที่จะออกจากพรรคร่วมรัฐบาล จะถอนตัวทิ้งไว้กลางทางไม่ได้
    

“ถ้าอยากให้ผมเป็นนายกฯ ต้องให้เลือกเสียงเกินกึ่งหนึ่งของรัฐสภา แต่ถ้าหากมีอุบัติเหตุทางการเมืองอยู่ไม่ครบเทอม พรรคภูมิใจไทย มีกระทรวงคมนาคมจะพยายามไม่ให้มีอุบัติเหตุ เราทุกคนมีความหมาย มีคุณค่า และมีความตั้งใจในการทำงาน”
    

หมอหนูพูดติดตลก เรื่องอุบัติเหตุทางการเมืองไม่เกิดขึ้นแน่นอน เพราะค่ายสีน้ำเงินดูแลคมนาคม ก่อนจะมองหน้า “เสี่ยโอ๋” ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม 


++
ลูกพรรคไม่นิ่ง
++
หลังกรุงเทพมหานคร ประกาศโครงการ “ไทยร่วมใจกรุงเทพฯ ปลอดภัย” เปิดให้ชาวกรุงได้ลงทะเบียนฉีดวัคซีนป้องกันโควิด
    

เมื่อวันที่ 27 พ.ค.2564 “แชมป์” กรวีร์ ปริศนานันทกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย น้องชาย “แบด ภราดร” โฆษกพรรค ได้โพสต์เฟซบุ๊ควิจารณ์โครงการไทยร่วมใจกรุงเทพฯปลอดภัยว่า อย่าเห็นคนต่างจังหวัดเป็นพลเมืองชั้นสองของประเทศอีกเลย ถ้าจะให้ไทยร่วมใจ ต้องทำให้คนไทยทั้งประเทศปลอดภัย ไม่ใช่แค่คนในกรุงเทพมหานคร”
    

ส.ส.แชมป์ ยังบอกว่า “อย่าลืมว่าเรายังมีทรัพยากรคือวัคซีนจำกัด และวัคซีนก็เป็นของคนไทยทุกคน ตอนนี้คนต่างจังหวัดก็รอคอยวัคซีนไม่ได้ต่างจากคนกรุงเทพแต่อย่างใด ยกตัวอย่างอ่างทองจังหวัดเล็กๆ ผมตอนนี้ มีประชาชนลงชื่อจองวัคซีนหลายหมื่นคน แต่วัคซีนมีให้เพียงแค่หลักพัน..”
    

ก่อนหน้านั้น พลพีร์ สุวรรณฉวี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง(อนุทิน ชาญวีรกูล) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า “สาธารณสุขเหมือนกองหน้า ทำแต้มสู้ไวรัสไล่ฉีดวัคซีน แต่กองหลังรั่วเป็นรู แรงงานเถื่อนพาไวรัสตัวใหม่ๆมาไม่หยุด ยิงได้กี่ลูกก็ไม่ทันเสียประตู”
    

หมอพัง \"หนู-โอ๋\" ถอย พปชร.รุกชิงมวลชน
เสี่ยโอ๋ หวังแผนฉีดวัคซีนสถานีกลางบางซื่อ คนตอบรับ

 

 

สอดรับกับสำนักข่าวออนไลน์สายบ้านใหญ่บุรีรัมย์ ที่เสนอบทวิจารณ์การทำงานของกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย ยังมีข้อบกพร่องในการสกัดกั้นแรงงานเถื่อนตามแนวชายแดน มีเนื้อหาเดียวกับที่ “พลพีร์” โพสต์ไว้นั่นเอง
    

ถอดความจาก “พลพีร์” ก็คงหวังที่จะกระทบชิ่ง “บิ๊กป้อม” และ “บิ๊กป๊อก” นั่นเอง

++
พปชร.ชิงมวลชน
++
ตามแผนเดิม กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข จะเป็นผู้จัดสรรวัคซีนตามแนวทางให้บริการวัคซีนโควิด-19 แบบปูพรมทั่วประเทศ โดยเฉพาะในพื้นที่ระบาด ตั้งแต่ มิ.ย.-ก.ย.2564 ปรากฏว่า จ.เพชรบุรี ได้รับจัดสรรวัคซีนเดือน มิ.ย. เพียง 24,000 โดส แต่ช่วงนี้ มีคลัสเตอร์ใหญ่จากโรงงานที่ อ.เขาย้อย คนป่วยติดเชื้อกว่า 2 พันคน หรือที่ จ.ชลบุรี ซึ่งมีผู้ติดเชื้อสะสม กว่า 4,341 คน ได้รับจัดสรรวัคซีนในเดือนมิ.ย. 54,000 โดส
    

เมื่อเปรียบเทียบกับ จ.บุรีรัมย์ ที่มีผู้ติดเชื้อสะสม 186 คน (ข้อมูลเมื่อ 26 พ.ค.) กลับได้รับการจัดสรรวัคซีนล็อตเดือน มิ.ย.ถึง 43,000 โดส มากกว่าที่ จ.เพชรบุรี ซึ่งสถานการณ์อยู่ในขั้นวิกฤติ
    

ด้วยเหตุนี้ 3 ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ จึงร้องเรียนถึง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และเรื่องการจัดสรรวัคซีนดังกล่าวก็ถึงหู พล.อ.ประยุทธ์
    

พล.อ.ประยุทธ์ จึงรับลูก ส.ส.พลังประชารัฐ สั่งจัดสรรวัคซีนโดยใช้เกณฑ์ใหม่ ต้องเพิ่มโควตาให้จังหวัดที่ติดเชื้อสูงเพื่อควบคุมโรค พิจารณาจากความสำคัญเชิงเศรษฐกิจ สังคม และกลุ่มเสี่ยง
    

การตัดสินใจของ พล.อ.ประยุทธ์ ครั้งนี้ ถือเป็นการหักนักการเมืองที่แอบล้วงลูกบริหารจัดการวัคซีนจนบานปลายกลายเป็นปัญหา