กู้วิกฤตกิ่งแก้ว 'ทอน' รุก 'อัศวเหม'
กอบกู้กิ่งแก้ว "ธนาธร" รุก "นันทิดา" ซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน บ้านใหญ่ยังวุ่นแก้เกม "ตู่หายไปไหน"
อันเนื่องจากเหตุระเบิดเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้เคมีคอล ซอยกิ่งแก้ว 21 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง รวมถึงบ้านเรือนประชาชน ซึ่งได้รับผลจากแรงสั่นสะเทือน ทำให้เพดาน ผนังอาคาร กระจกแตกกระจัดกระจาย
ขณะที่ภาคส่วนราชการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำลังดำเนินการสำรวจความเสียหาย ปรากฏว่า “คณะก้าวหน้า” ได้เปิดปฏิบัติการ “ก้าวหน้ากู้วิกฤตกิ่งแก้ว” ซ่อมบ้านเรือนให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ค.2564
นี่คือ การเปิดเกมรุกของ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า โดยปักหมุดที่ถนนกิ่งแก้ว พร้อมอาสาสมัคร 30 คน ซึ่งจุดแรกที่ธนาธรเข้าซ่อมแซมคือ โรงเรียนวัดกิ่งแก้ว
“ถนนกิ่งแก้วทั้งเส้น เป็นถนนเศรษฐกิจที่สำคัญ ประกอบด้วยร้านค้าพาณิชย์ ตลาดสด โรงงานอุตสาหกรรม และบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนมากมาย...จนถึงวันนี้ มีผู้แจ้งความที่ สภ.บางแก้วแล้ว เป็นจำนวน 432 คน มีบ้านเรือนได้รับความเสียหายถึง 569 หลัง”บางส่วนในถ้อยแถลงของธนาธร ในวันที่ไลฟ์เฟซบุ๊ค อธิบายถึงโครงการกู้วิกฤตกิ่งแก้ว
ในวันที่เกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้สื่อสารผ่านทวิตเตอร์ ได้ทวีตข้อความ “ในฐานะคนที่ทำงานอยู่บางโฉลงมา 20 ปี ผมขอส่งกำลังใจไปให้พี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบ หวังว่าคืนนี้จะผ่านพ้นไปด้วยดี...”
“ธนาธร” ใช้คำว่า “คนที่ทำงานอยู่บางโฉลงมา 20 ปี” หมายถึงบริษัท ไทยซัมมิทโอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด ของตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ก็เหมือนเป็นคนบางพลีโดยปริยาย
ดังนั้น โครงการซ่อมแซมบ้านเรือน “ก้าวหน้ากู้วิกฤตกิ่งแก้ว” จึงได้รับการสนับสนุนจากบริษัท ไทยซัมมิทโอโตพาร์ท อินดัสตรี จำกัด และบริษัท เอสเอส ที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมที่ตั้งอยู่ในซอยกิ่งแก้ว รวมถึงกลุ่มช่างที่ทำงานรับเหมาก่อสร้างในชุมชนละแวกนั้น
ธนาธร ลุยซ่อมแซมบ้านเรือนประชาชน
ก้าวไกล-ก้าวหน้า
สำหรับพรรคก้าวไกล พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรค พร้อม ส.ส. ได้เดินทางไปที่ศูนย์อพยพ อบต.บางพลีใหญ่ ตั้งแต่คืนวันที่เกิดเหตุไฟไหม้ โดยมี วุฒินันท์ บุญชู ส.ส.สมุทรปราการ เขต 4 คอยประสานงาน
เมื่อการเลือกตั้ง ส.ส.สมุทรปราการ ปี 2562 ตระกูล “อัศวเหม” ในสีเสื้อพรรคพลังประชารัฐ กลับมายึดสนามปากน้ำ ได้ 6 เก้าอี้ ส.ส.จากทั้งหมด 7 เก้าอี้
ส่วนพรรคก้าวไกล(พรรคอนาคตใหม่) ได้รับเลือกตั้งที่เขต 4 อ.บางพลี (ยกเว้น ต.หนองปรือและต.ราชาเทวะ) โดย วุฒินันท์ บุญชู ชนะจาตุรนต์ นกขมิ้น ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ลูกชายของทรงชัย นกขมิ้น นายก อบต.ราชาเทวะ
ชัยชนะของ “วุฒินันท์” ก็มี 2 ปัจจัยคือ กระแสธนาธร ที่มาแรงในกรุงเทพฯ และปริมณฑล อีกปัจจัยหนึ่ง พื้นที่ อ.บางพลี เป็นที่ตั้งของอาณาจักรไทยซัมมิทฯ
นันทิดา ออกแจกของช่วยชาวบ้านที่บางพลี 3 วันติดต่อกัน
พ่ายซ้ำสองหน
ปี 2563 เหมือนเป็นปีเลือกตั้งของ จ.สมุทรปราการ ช่วงกลางปี มีเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 และปลายปี มีเลือกตั้งนายก อบจ.
ด้านหนึ่งเป็นการต่อสู้ระหว่างตระกูล “อัศวเหม” กับ “จึงรุ่งเรืองกิจ” ดังที่ทราบกัน “บ้านใหญ่” ยัดเยียดความปราชัยให้ “ธนาธร” ถึงสองครั้งสองครา
เลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 5 กรุงศรีวิไล สุทินเผือก ผู้สมัคร ส.ส.พรรคพลังประชารัฐ ภายใต้การดูแลของบ้านใหญ่ “อัศวเหม” เอาชนะ พีท” อิศราวุธ ณ น่าน พรรคก้าวไกล ด้วยคะแนนนำขาดลอย
เลือกตั้งนายก อบจ.สมุทรปราการ นันทิดา แก้วบัวสาย กลุ่มสมุทรปราการก้าวหน้า ได้ 3.4 แสนคะแนน ส่วน ธัชชัย เมตโต คณะก้าวหน้า ได้แค่ 7 หมื่นคะแนน
เมื่อเกิดเหตุไฟไหม้โรงงานหมิงตี้ ปรากฏว่า นันทิดา แก้วบัวสาย นายก อบจ.สมุทรปราการ พลาดท่า ไม่รีบมาที่จุดเกิดเหตุ ปล่อยให้โซเชียล “ตามหานายกฯ นันทิดา” เสียรังวัดไปเยอ
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุ “นันทิดา” พยายามแก้เกม เดินทางมามอบสิ่งของช่วยเหลือให้กับผู้ประสบภัยจากเหตุเพลิงไหม้โรงงานหมิงตี้ 3 วันติดต่อกัน ต้องรอดูว่า บ้านใหญ่ “อัศวเหม” จะขยับหมากอย่างไร เมื่อ “ธนาธร” เปิดยุทธการ “ก้าวหน้ากู้วิกฤตกิ่งแก้ว”