ไร้หัวไร้แกนนำ 'ม็อบ 10 สิงหา' ฮาร์ดคอร์ 'จรยุทธ์' เสี่ยงจลาจล
สมรภูมิดินแดงเดือด "ม็อบ 10 สิงหา" สายบวกไม่จบ ปะทะตำรวจต่อเนื่อง คอลัมน์ท่องยุทธภาพ โดยขุนน้ำหมึก
คาร์ม็อบ #ม็อบ 10 สิงหา จบลงเหมือนคาร์ม็อบ ##ม็อบ 1 สิงหา เพราะเกิดเหตุปะทะ ระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนกับผู้ชุมนุมวัยรุ่น(กลุ่มจักรยานยนต์) ที่สมรภูมิสามเหลี่ยมดินแดง เหมือนเคย
เย็นวันที่ 10 ส.ค.2564 แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ประกาศยุติการชุมนุมขอให้ทุกท่านเดินทางกลับทันที หลีกเลี่ยงการปะทะที่ไม่จำเป็น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง:
ตึงเครียด "ม็อบ10สิงหา" ตร.ถูกยิงด้วยกระสุนจริง สามเหลี่ยมดินแดง
"ม็อบ10สิงหา" รถติดทั่วเมือง ขบวน "คาร์ม็อบ" ล่าสุดมุ่งหน้าบ้าน "ธรรมนัส"
ประมวลภาพ "คาร์ม็อบ 10 สิงหา" เคลื่อนขบวนจากแยกราชประสงค์ รถติดหนึบทั่วกรุง
“แล้วเราจะกลับมาล่านายทุน-ขุนศึก-ศักดินา จนกว่ามันจะล่มสลาย นี่คือการปฏิวัติประชาชน ประชาชนจะชนะ”
ผู้ชุมนุมกลุ่มหนึ่งไม่ยอมกลับ ไปปักหลักบริเวณแยกดินแดงอีกครั้ง และเกิดเหตุไฟไหม้ป้อมตำรวจใต้ทางด่วนดินแดง
จะว่าไปแล้ว คาร์ม็อบ 10 สิงหา หรือม็อบ 7 สิงหา ก็มีรูปแบบเดียวกันคือ ม็อบไม่มีแกนนำ เปลี่ยนแค่ป้ายชื่อ จาก “เยาวชนปลดแอก” เป็น “แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม”
++
ม็อบล่อเป้า
++
หลังม็อบ 7 สิงหา ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ค Fah Borkan เขียนวิจารณ์ด้วยความเป็นห่วงว่า “..เหตุการณ์ช่วงที่นักศึกษาเหิมเกริมหลังปี 2516 จนมา 6 ตุลา 2519 จะหวนกลับมา จากวิธีการของ Free YOUTH REDEM ม็อบไรัหัวนำ..”
“ผมเขียนหลายครั้งว่า อย่าพึ่งโหมไฟช่วงโควิดระบาด โจโฉเตือนมา เพราะมีคำถามว่า ถ้าเขาจะสังหารหมู่เหมือน 6 ตุลา 19 หรือ 19 พฤษภา 53…อย่าหวังว่าประชาชนจะลุกฮือนะ”
แม้แต่คาร์ม็อบ 10 สิงหา ผู้ใช้บัญชีเฟซบุ๊ค Punsak Srithep ได้เสนอแนะว่า “ก่อนจะจัดคาร์ม็อบ ผู้จัดต้องรู้ก่อนว่ารถวิ่งบนถนน ถ้าไม่บอกว่าใช้ถนนอะไร มุ่งหน้าไปทิศทางไหน #คือจบเช่น นัดแยกราชประสงค์ #ยังไง รถบางคันมาที่แยก แต่มุ่งหน้าไปถนนพระราม 4 บางคันมุ่งหน้าถนนพระราม 1 บางคันมุ่งหน้าแยกประตูน้ำ #คือมั่ว..”
บทเรียนจาก “ม็อบ 10 สิงหา” สะท้อนความล้มเหลวของ “ม็อบไร้แกนนำ” อีกครั้ง แม้จะผู้จัดกิจกรรมเชิงสัญลักษณ์ แต่ผู้ชุมนุมบางกลุ่ม โดยเฉพาะกลุ่มวัยรุ่นขับมอเตอร์ไซค์ ดูตั้งใจจะมา “บวกกับตำรวจคุมฝูงชน” มากกว่า
++
ม็อบจลาจล
++
คนในฝ่ายประชาธิปไตยวิพากษ์ “ม็อบไร้แกนนำ” เยอะ แต่ก็มีนักเขียน นักวิชาการบางกลุ่มให้การสนับสนุน อย่างเช่น ภัควดี วีระภาสพงษ์ นักเขียนนักแปล ได้แสดงความเห็นแย้งผู้วิจารณ์ม็อบไร้หัว ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า
“งงกับคนที่มาถามว่า Redem/FreeYouth ประท้วงเพื่ออะไร เป้าหมายคืออะไร คนถามมันต้องโง่เซอะขนาดไหนวะ เขาก็ออกมาประท้วงเพื่อแสดงว่าประชาชนไม่พอใจรัฐบาลน่ะสิ เป้าหมายก็คือเมื่อมีการประท้วงมากๆ มันปั่นป่วนระบบมากเข้าๆ ในบางประเทศ รัฐบาลมันก็ลาออกไป ถ้ารัฐบาลมันไม่ลาออก ก็ต้องประท้วงไปเรื่อยๆ ก็ทำอย่างนี้กันทุกประเทศ ไม่เคยอ่านข่าวต่างประเทศกันเลยเหรอ”
เมื่อเร็วๆนี้ นิธิ เอียวศรีวงศ์ นักวิชาการอาวุโส ให้สัมภาษณ์มติชนทีวี เกี่ยวกับบทความเรื่อง“คนไทยใจเย็น” ที่เขียนลงในมติชนสุดสัปดาห์ โดยอธิบายว่า เรื่องคนไทยใจเย็นนั้น ตั้งชื่อเป็นเชิงล้อ จริงๆ ไม่ได้ใจเย็นอย่างนั้น เป็นแต่เพียงว่าความโกรธของเรานำไปสู่เหตุการณ์อย่างพฤษภาคม 2535 ก็ได้ 14 ตุลา ก็ได้ กลายเป็นการจลาจลก็ได้ เพราะฉะนั้น อย่าไปนึกว่าการที่นักวิชาการต่างประเทศบอกว่าคนไทยยังโกรธไม่พอ มันมีปัญหาทันทีว่า โกรธหมายความว่าแค่ไหน กับคำว่าไม่พอ ไม่พอแก่อะไร
ประวัติศาสตร์การเมืองไทยในรอบ 50 ปี มีเหตุจลาจล 2 ครั้งใหญ่คือ 14 ตุลา และพฤษภา 35 ที่นำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางการเมือง แต่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงแบบ “ถอนรากถอนโคน”
ดังนั้น นักวิชาการบางคน จึงหวังที่จะให้เกิด “จลาจลแบบไม่เสียของ” คือจลาจลแบบการปฏิวัติฝรั่งเศส