ข่าว

เปิดเรื่องราวสุดหดหู่ "น้องเน" ทหารเกณฑ์ วัย 18 ปี โดนครูฝึกซ่อมจนดับ

14 ส.ค. 2567

เปิดเรื่องราวสุดหดหู่ "น้องเน" ทหารเกณฑ์ วัย 18 ปี ฝันอยากรับใช้ชาติ ตั้งใจลดน้ำหนัก 10 กก. ให้ผ่านเกณฑ์ สุดท้ายโดนครูฝึกซ่อมดับ

"น้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต" อดีตผู้สมัคร สส.ชลบุรี เขต 10 พรรคก้าวไกล โพสต์แชร์เรื่องราวทหารเกณฑ์ชลบุรี โดนซ้อมจากการซ่อมวินัยเสียชีวิตทำพิธีเผาศพเสร็จเรียบร้อยแล้ว โดย นิชนันท์ ได้พูดคุยกับพ่อแม่ ของ "น้องเน" หรือ นายวรปรัชญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 18 ปี มีรายละเอียดดังนี้

1. น้องเน เกิดที่บ้านโรงโป๊ะ บางละมุง เป็นลูกชายคนโต อายุ 18 ปี พ่อแม่แยกทางตั้งแต่ น้องเน อายุ 2 ขวบ ต่างคนต่างไปมีครอบครัวใหม่ น้องเน อยู่และเติบโตกับแม่ และยาย ส่วนพ่อถึงแม้แยกทางกันก็ส่งเสียเลี้ยงดูน้องเนมาทำหน้าที่พ่อที่ดีเสมอมา

2. แม่น้องเน ทำงานประจำ เป็นลูกจ้างบริษัท และ ตอนเช้ามืดจะทำขนมไปขายที่ตลาดสดเพื่อหารายได้เสริมมาเลี้ยงครอบครัว น้องเน มักช่วยแม่ทำขนม และช่วยแม่ขายด้วย จนพอโตเป็นวัยรุ่น ก็เลิกช่วยมาขาย แต่ช่วยแม่เลี้ยงน้อง 2 คนอยู่บ้าน และ มีรายได้จากขายเกมของเขาเอง

3. ปกติน้องเนเป็นคนเรียบร้อยๆ ไม่ค่อยพูด บุคลิกอาจจะทำอะไรช้าหน่อย ไม่ใช่คนใจร้อนหรือทำอะไรเร็วๆ เรียนชั้น ปวช.ใกล้จะจบ แล้วดร็อปไว้ พออายุ ครบ 17 ปี เป็นชายสัญชาติไทยต้องไปขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน หรือ ใบ สด.9 น้องเนก็ได้พูดคุยเรื่องเกณฑ์ทหารกับสัสดี น้องเนเป็นคนตัวใหญ่ สูง สัสดีก็แนะนำว่า รูปร่างเหมาะน่าสมัครไปเป็นทหารอาชีพ ทำให้น้องเน ก็สนใจ

4. พออายุครบ 18 ปี ไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ เพื่อฝันอยากมีโอกาสต่อยอด ได้เป็นทหารอาชีพ เป็นนายสิบต่อ จะได้มีงานทำที่มั่นคง พร้อมจะเรียนต่อไปด้วย ในอนาคต จะได้ช่วยแบ่งเบาช่วยเหลือแม่ได้

5. เดือน พ.ย.66 ไปสมัครเป็นเกณฑ์ทหารช่วงแรกมวลร่างกายไม่ผ่าน สัดส่วนน้ำหนักกับส่วนสูงเกิน ทำให้น้องเน กลับมาลดน้ำหนัก อีก 10 กก. เพื่อให้น้ำหนักได้

 

 

6. ลดน้ำหนักได้แล้ว วันที่ 1 พ.ค. 2567 ก็เข้าไปเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายแห่งหนึ่ง จ.ชลบุรี

7. วันที่ 26 พ.ค. 2567 ถึงวันพบญาติครั้งแรก แม่และยาย น้อง 2 คน ก็ไปเยี่ยมน้องเนที่ค่าย แม่เห็นน้องเน น้ำหนักลดลงไปอีก 10 กก. ภายในไม่ถึง 1 เดือน แม่ถามว่าไหวมั้ย เขาก็บอกว่าไหว แต่ไม่ได้เล่าเรื่องฝึกอะไรให้แม่ฟังเลย เขาบอกแม่ว่า แม่อย่าทิ้งผมนะ ต้องมาเยี่ยมผมนะ แม่บอกมาแม่ต้องมาเยี่ยมสิ

8. คืนวันที่ 22 มิ.ย. แม่ได้รับแจ้งว่าน้องชีพจรต่ำ ติดเชื้อในกระแสเลือด ให้แม่ไปที่ รพ. พอแม่ไปถึงน้องเนไม่ได้สติ ใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายบวม ทราบผลจากการตรวจของหมอ

  • สมองบวม
  • ซี่โครงหักทั้ง 2 ข้าง 
  • ปอดฉีก ปอดรั่ว 
  • ไหปลาร้าหัก
  • กระดูกสันหลังหัก 

 

9. สอบถามได้ความว่าน้องโดนครูฝึกซ่อมวินัย 2 รอบ รอบแรกน้องเน ได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล ให้กินยา รักษาแผลที่ขา ในห้องพยาบาลในค่ายทหาร ครูฝึกได้ข่าวว่าน้องเนจะฟ้องผู้พัน หัวหน้า จริงๆ น้องเนยังไม่ได้ฟ้องเลย ก็เลยมาโดนครูฝึกซ้อมรอบที่ 2 อาการหนักกว่าเก่า และใช้ไม้ตีด้านหลังด้วย มีคนพบเห็นท่อนไม้ด้วย

ครูฝึกคนนี้เป็นคนพื้นเพอ่าวอุดม แหลมฉบัง อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี เป็นครูฝึกเสนารักษ์ เหมือนหมอทหาร ยศสิบเอก อายุ 33 ปี เป็นคนอยู่กับห้องเน คนสุดท้าย ตอนซ้อมเพื่อนได้ยินเสียงน้องร้องออกมาจากในห้อง สักพักเสียงเงียบหายไป เพื่อนเลยวิ่งออกมาดู เปิดห้องเข้าไปก็เห็นครูฝึก คนนี้กำลังปั๊มหัวใจทำ CPR ที่หน้าอก แม่น้องเน ไม่แน่ใจว่าเป็นการทำ CPR เพื่อช่วยเหลือชีวิตคนไข้ หรือทำ CPR ซ้ำเพื่อให้เสียชีวิตเร็วขึ้น กระดูกหน้าอกก็ช้ำมาก น้องเน หมดสติหยุดหายใจประมาณ 14 นาที ก็ไม่เร่งรีบพาไปส่งโรงพยาบาล รอสักพักใหญ่ๆ ถึงได้นำตัวส่งโรงพยาบาล

 

 

10. รพ. ทำการปั๊มหายใจขึ้นมา และใส่ท่อช่วยหายใจ อยู่ได้ 2 คืน ส่งต่อโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า ในกรุงเทพฯ น้องเนก็ไม่ฟื้น จนมาเสียชีวิตในวันที่ 2 ส.ค. รวมเวลาทั้งหมด 40 วัน

11. ครูฝึกพอรู้ว่าน้องเนเสียชีวิต ก็พยายามหนีจะข้ามฝั่งไปประเทศลาว ไปถึงนครพนมแล้ว ได้ผู้พัน หัวหน้า ของน้องเน สั่งทีมทหาร ตำรวจ สกัด และให้รวบตัวมาทำคดี

12. พ่อน้องเน ไปแจ้งความทำร้ายร่างกาย ตอนนั้นน้องเนยังไม่เสียชีวิต อัยการให้ปล่อยตัวครูฝึก ได้รับการประกันตัวออกมา

13. ครูฝึกปฎิเสธทุกข้อกล่าวหา ว่าไม่ได้ทำ

14. แม่มารู้ทีหลัง น้องเนเสียชีวิตแล้ว ว่าน้องเน ได้แชตคุยกับแฟน บอกแฟนมาโดนตี โดนต่อย อยู่เฝ้าเวรยันเช้า

15. ตอนนี้ข้อมูลครูฝึกที่ซ่อมวินัย มีกี่คน เห็นพ่อน้องเนบอกมี 13 คน แต่ครูฝึกเสนารักษ์ อยู่กับน้องเนคนสุดท้าย และ มาซ้อมรอบที่ 2 พ่อน้องเนก็กำลังเช็คขอมูลให้ครบถ้วน เพื่อนทหารก็ไม่ค่อยกล้าให้ข้อมูลเท่าไหร่

16. พ่อแม่น้องเน รู้สึกเสียใจมาก และรู้สึกโกรธครูฝึก ว่าทำไมต้องใช้ความรุนแรงตีลูกเขาขนาดนี้ ลูกชายเขายังเด็กมากๆ อายุ เพิ่ง 18 ปี และ เขาก็มีความมุ่งมั่นตั้งใจมากที่อยากเป็นทหาร ทำไมต้องทำโทษกันรุนแรงขนาดนี้ ลูกชายไม่ใช่คนหัวรุนแรงเลย เรียบร้อยมาก ออกจะเป็นคนหัวอ่อนด้วยซ้ำไป แต่ทำไมทำกันขนาดนี้ ถ้าลูกชายไม่ผ่านเกณฑ์คุณสมบัติที่จะฝึกทหารไม่ได้ ก็ควรแจ้งบอกตรงๆ แม่พร้อมที่จะไปรับลูกชายกลับมาอยู่บ้านได้เลย

17. พ่อแม่น้องเน บอกว่าก็ขอให้แยกแยะว่า ผู้พัน หัวหน้า ของน้องเน พูดจาดีมาก ช่วยและประสานงานทุกอย่างรวมทั้งตามจับ ครูฝึกที่จะหลบหนีข้ามฝั่งทางช่่องทางธรรมชาติไปประเทศลาว จนรวบตัวมาได้ และช่วยเหลือเรื่องงานศพอยู่ ก็หลังงานศพเสร็จแล้ว จะมีการติดตามเรื่องคดีความอย่างไร จะแจ้งให้ทราบอีกที แม่น้องเนขอให้น้องเนเป็นศพสุดท้าย ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์นี้กับลูกใครอีก

18. ถ้าฝ่ายทหารมีข้อมูลที่แตกต่างจากที่เล่ามาก็แจ้งมาได้ ยินดีรับฟังข้อมูล และนำเสนอข้อเท็จจริง จากทุกฝ่าย

ขอแสดงความเสียใจ และขอบคุณที่พ่อแม่น้องเน ยินดีให้ข้อมูลข้อเท็จจริงจากฝ่ายพ่อแม่ที่ได้มา สิ่งที่อยากเห็นคือ กระทรวงกลาโหม ควรตั้งคณะกรรมการจากข้างนอก พร้อมกระทรวงยุติธรรม มาสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริง และการนำคนผิดมาลงโทษตามกฎหมาย  ไม่ต้องขึ้นศาลทหาร ให้ขึ้นศาลพลเรือน เหมือนคดีอาญาทั่วไป

อยากเห็นการปฎิรูประบบซ่อมวินัยทหารเกณฑ์ที่ใช้ความรุนแรง และละเมิดสิทธิมนุษย์ชน จนถึงขั้นเสียชีวิต จะแก้ไขอย่างไร? จะแก้ไขเมื่อไหร่?

ฝากสื่อมวลชน สื่อโชเชียลมีเดีย และประชาชน ผู้รักความยุติธรรม ช่วยกันทวงถามความยุติธรรมให้กับ น้องเน พลทหารวรปรัชญ์ ทหารเกณฑ์ ที่อยากรับใช้ชาติแต่ต้องมาจบชีวิตแค่ฝึกทหารใหม่ภายในไม่ถึง 2 เดือน และขอให้ดวงวิญญาณนายวรปรัชญ์ ไปสู่ภพภูมิที่ดี