เปิดคลิป นาทีตำรวจน้ำดีไม่ปล่อยผ่าน ช่วยเข็นรถสาวพิการข้ามถนน | คมชัดลึก

2 ก.ย. 2567 เมื่อเวลา 10.00 น. จากกรณี ผู้ใช้ TikTok ชื่อ I Am D_D ได้โพตส์ข้อความระบุว่า "เอ็นดูคุณตำรวจอ่ะ น่าจะปวดหลังนะท่านี้ คุณตำรวจช่วยพี่ผู้พิการนั่งรถเข็นพาข้ามถนน #ตำรวจน้ำดี #ตำรวจบางแสน #ตำรวจชลบุรี ช่วยกันแชร์ตำรวจดีๆ นะคะ" โดยมีภาพคลิปวีดีโอ ขณะ จนท. ตำรวจ 2 นาย โดย 1 นาย ขี่รถจักรยานยนต์และอีก 1 นายนั่งหันหลังคร่อมรถใช้มือจับรถวิลแชร์ซึ่งมีผู้หญิงพิการขายสลากกินแบ่งรัฐบาลนั่งอยู่

 

โดยลากอยู่บนถนนสุขุมวิท ฝั่งเข้าบางแสน ลากรถไปถึงช่องยูเทิร์น ส.วรกิจ กลับรถขาเข้าเมืองชลบุรี มาถึงหน้าร้านจาน 2 บาท โดยมีชาวเน็ตแห่แสดงความเห็น และชื่นชมตำรวจเป็นจำนวนมาก

 

ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สถานีตำรวจภูธรเสม็ด พบกับ ร.ต.ต.บัญชา คำบุบผารอง สว.(จร.) สภ.เสม็ด จนท.ขี่ปรากฏขับรถจักรยานยนต์ และ ส.ต.อ.บารมี ศิลาเชษฐานันท์ ผบ.หมู่ (ป.) สภ.เสม็ด คนนั่งหันหลังลากรถวีลแชร์ โดยทั้ง 2 นาย ได้เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2567 เวลา 12.44 น. ขณะที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่ ได้พบกับประชาชนเป็นหญิงเข็นรถวีลแชร์ ขายสลากกินแบ่งรัฐบาล อยู่บนถนนสุขุมวิท กำลังจะข้ามถนน ตนเห็นว่าอาจจะไม่ปลอดภัย เพราะเป็นถนนเส้นหลัก รถวิ่งด้วยความเร็ว และรถมีปริมาณมาก

 

 

เลยเข้าไปสอบถาม หญิงสาวบอกว่าอยากข้ามไปฝั่งนู้น ผมและพี่คิดว่าถ้าปล่อยไปก็อาจเกิดอันตราย เพราะเป็นถนนเส้นหลักมีรถใช้ความเร็วสูง ผมกับพี่ก็คิดว่าน่าจะต้องช่วยเขา โดยที่เราเป็นตำรวจจราจรเห็นประชาชนได้รับความเดือดร้อนก็ต้องช่วยเหลือ มีรถชาวบ้านก็ช่วยกันไม่ให้รถวิ่งมาชนท้ายเราด้วย แล้วก็นำส่งพี่เขาไปส่งถึงที่โดยความปลอดภัย

 

 

เขาก็ขอบคุณว่าตำรวจเป็นที่พึ่งของประชาชน ซึ่งเขาบอกว่าเข็นมาตั้งไกลแล้วมือพองหมดแล้ว เห็นตำรวจก็เลยเรียกให้ช่วย ระยะทางประมาณ 400 ถึง 500 เมตร ถ้าประชาชนเดือดร้อนเห็นตำรวจจราจร หรือตำรวจจะไปก็เข้าไปขอความช่วยเหลือได้เลย ยินดีรับใช้จากสถานที่ตำรวจภูธรเสม็ดครับ

 

 

ทางด้าน พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เสม็ด ได้เปิดเผยว่า ในฐานะที่เป็นตำรวจแล้วก็เป็นประชาชนคนหนึ่ง ขอชื่นชมจากที่อยู่ในคลิปรู้สึกภูมิใจในข้าราชการตำรวจ ทั้ง 2 ท่าน และภูมิใจที่เป็นตำรวจร่วมอาชีพ ข้าราชการตำรวจทั้ง 2 ท่านนี้ เขาเป็นตำรวจน้ำดีอยู่แล้ว และก็มีโอกาสดีๆ ที่ทำสิ่งดีๆ ให้สังคมได้เห็น ครอบครัวของข้าราชการตำรวจทั้ง 2 นาย คงจะภูมิใจ มันเป็นเรื่องของจิตใจที่จะอาสาทำด้วยหัวใจ ในส่วนเรื่องนโยบายก็เป็นส่วนประกอบ สิ่งที่ทั้งสองคนทำเป็นสิ่งที่ออกมาจากหัวใจของผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ โดยแท้จริง