ป้าเปิดใจเล่า นาทีแก้คุณไสยมนต์ดำ สาวโดนปอบเข้า เล่านาทีเจอสุดสะพรึง
ป้าเปิดใจเล่า นาทีแก้คุณไสยมนต์ดำ สาวโดนขโมยดวง - ปอบเข้า? มาวัดเขาอ้อจริงเล่านาทีเจอสุดสะพรึง ใช้ตะกรุดทำพิธีจึงรอดมาได้!
3 ต.ค. 2567 จากกรณีที่ “ปอย” นักเขียนรายหนึ่ง ได้ออกมาเล่าเรื่องชวนสยองผ่านรายการผีชื่อดัง ว่าถูกขโมยดวง ทำพิธีแปลกๆ หลังทำพิธีมีความรู้สึกอยากกินของดิบ คล้ายผีปอบเข้า จนกลายเป็นไวรัลที่ถูกพูดถึงและวิพากษ์วิจารณ์สนั่นโซเชียล โดยหญิงสาวคนดังกล่าวได้มารักษาตัวจนดีขึ้น ที่วัดแห่งหนึ่งใน ต.มะกอกเหนือ อ.ควนขนุน จ.พัทลุง
ล่าสุดผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ ติดตามความคืบหน้าพบว่า บริเวณวัดเขาอ้อยังคงมีลูกศิษย์ที่เคารพบูชา ครูอาจารย์วัดเข้าอ้อ ที่เชื่อกันว่าอยู่ยงคงกระพัน และมีความสำคัญด้านไสยเวท ชื่อดังของภาคใต้ เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับการเดินทางมารักษาผีปอบ ของสาวรายดังกล่าว
โดยจากการสอบถามลูกศิษย์วัดทราบว่า จุดที่รักษานั้น อยู่บนยอดเขาอ้อ โดยเดินผ่านหน้าถ้ำฉัตทันฑ์ สถานที่ทำพิธีกรรมของวัด ไปทางด้านซ้าย โดยขึ้นบันไดไป 200 กว่าขั้น เพื่อไปพบอาจารย์ ที่ทำการรักษา คือสำนักทวดพราหมณ์เขาอ้อ อาจารย์ผล ดำนวล ที่สำนักเป็นอาคารไม้และเพิงพัก 2 หลัง
ซึ่งอาจารย์ผล หรือพราหมณ์ผล อยู่ประจำ แต่ไม่อนุญาตให้มีการเก็บภาพ ขณะที่ป้าไล อายุ 69 ปี ป้าที่คอยดูแลและเป็นผู้ช่วยอาจารย์ผล กล่าวว่า จากเหตุการณ์ดังกล่าว หญิงคนนั้นมารักษาที่นี่จริง โดยวันที่มานั้น เดินถือของพรุงพรัง สีหน้าไม่สู้ดี ตาลอย ตนจึงได้เอาน้ำมนต์ อาจารย์ผลมาใส่ขัน แล้วเอาตะกรุด อาจารผล มาแช่ในน้ำมนต์วน 3 รอบ ให้หญิงคนนั้นดื่ม
ต่อมาไม่นานเกิดอาการ อาเจียน จนหมดพุง ก่อนอาการทุเลาและดีขึ้น ซึ่งหญิงดังกล่าวมาเหมือนกับผีเข้า ทราบอีกทีว่าเป็นผีปอบ โดยขณะที่เดินทางมานั้น เดินทางมาเพียงคนเดียวไม่ได้มีพระธุดงเดินนำหน้าแต่อย่างใด
ตนเชื่อว่าสิ่งนั้นคือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ที่นิมิตมาให้อาจารผลได้รักษาจนดีขึ้น ป้าไลยังกล่าวอีกว่า หลายรายไม่นานมานี้ มีลักษณะเดียวกัน มาด้วยอาการเหม่อลอย คล้ายผีเข้า ตนได้เอาตะกรุด แช่ในน้ำมนต์ให้ดืมกิน จนอาเจียนและอาการดีขึ้น และเมื่อหายแล้วผู้ที่มารักษาได้เช่าบูชาตะกรุด ตามกำลังศรัทธา
เพราะเชื่อว่าตะกรุดแคล้วคลาดจากภูตผีปีศาจ และสามารถปกปักรักษาและคุ้มครองชีวิตให้ดีขึ้น ขณะหลวงพงษ์ พระลูกวัดเขาอ้อ กล่าวว่า พระธุดงค์ นั้นวัดเขาอ้อไม่มีการมาเดินธุดงค์ แต่ที่มีการกล่าวถึงว่ามีพระธุดงค์เดินนำหน้านั้น คาดว่าเกิดจากอาการมโนของคนป่วย คิดอะไรมโนอะไร ก็จะเห็นอย่างนั้นไปเอง