ประกาศขายบ้านมือสอง พร้อมที่ดิน 233 ตารางวา วิวสวยมาก ราคาแค่ 2.3 หมื่นบาท
สักหลังไหม? ประกาศขายบ้านมือสอง ญี่ปุ่น ราคาเพียง 23,000 บาท ได้พร้อมที่ดิน 233 ตารางวา วิวสวยมาก รอบบ้านสะอาดกว้าง มีสวนส้มประมาณ 10 ต้น
22 ต.ค. 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก "ญี่ปุ่น เล่ามั๊ย ปุกุปุกุ" โพสต์ประกาศแนะนำ ขายบ้านมือสอง ทีญี่ปุ่น โดยระบุข้อความว่า "ราคารวมที่ดิน 233 ตารางวา หลังนี้อยู่บนเขา วิวดีมาก แต่ๆ สภาพด้านในไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เจ้าของบ้านอยากขายทิ้ง เพราะจะไปอยู่บ้านพักคนชรา
บริเวณรอบบ้านสะอาดกว้างมาก มีสวนส้มประมาณ 10 ต้นให้ด้วย แต่ยังไม่ถูกใจเราเท่าไหร่ หลังนี้ขอข้ามนะคะ ภายในน่าจะซ่อมเยอะพอสมควรคิดว่าใช้เวลาทำนานเกินไป
ส่วนภาษีเราประเมินดูคร่าวๆนะคะ ไม่เกิน 5,000 บาท/ปี ใครสนใจแนะนำให้จัดหาผ่านเอเจ้นนะคะเขาจะได้แนะนำให้ครบถ้วน เราไม่ได้มีข้อมูลแน่นสำหรับต่างชาติเท่าไหร่ เราอยู่ จ.คุมาโมโต้ค่ะ บ้านที่เราถ่ายจะเป็นเพียงจังหวัดที่เราอยู่เท่านั้นค่ะ ไม่ได้มาขายบ้านแต่อย่างใด เราแค่หาบ้านถูกๆทำธุรกิจค่ะ"
หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ลงบนโลกออนไลน์ ต่างมีชาวเน็ตเข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำวนวนมาก โดยบางรายระบุข้อความว่า "บ้านร้างมือสองญี่ปุ่น ขายถูกแต่ขายไม่ออก สาเหตุหลักๆเลย คือมันไกลชุมชน ใครจะไปอยู่ ก็จะอยู่แบบเหงาๆ และโดยมาก มันก็จะร้างทั้งหย่อม ทำให้แม้บ้านเราจะรีโนเวทใหม่ แต่ทัศนียภาพโดยรอบ มันก็ยังร้างอยู่ดี การอยู่ประเทศที่ภัยพิบัติเยอะๆแบบนี้ ไม่ค่อยมีใครอยากมาอยู่ห่างไกลเมือง เพราะมันลำบากในหลายๆด้านมาก"
ทั้งนี้ คนญี่ปุ่น ไม่นิยมซื้อบ้านมือสอง เนื่องจากมีความคิดว่า ซื้อทั้งทีก็อยากได้หลังใหม่ที่มีการก่อสร้างที่ทันสมัย แต่ก็ใช่ว่าจะขายไม่ออกเสียทีเดียวนะคะ ในระยะหลังมานี้ ชาวต่างชาติที่ติดใจวิถีชีวิตญี่ปุ่นก็มีแนวโน้มที่จะซื้อบ้านมือสองสภาพดี มารีโนเวทเพื่ออยู่เองและทำบ้านพักตากอากาศเป็นจำนวนมาก
นอกจากนี้ ชาวญี่ปุ่นจึงมักหลีกเลี่ยงบ้านที่มีอายุการสร้างมายาวนาน ยิ่ง 15-20 ปีขึ้นไป เพราะ ญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีฝนตกชุกและมีความชื้นสูง นอกจากนี้ยังมีแผ่นดินไหวเกิดขึ้นบ่อยครั้ง โครงสร้างอาคารต่าง ๆ จึงเกิดการเสื่อมสภาพได้ง่าย จึงไม่นิยมบ้านที่มีอายุเก่า
ปัจจุบันญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับปัญหาจำนวนประชากรที่ลดลงอย่างรุนแรง อัตราการเกิดลดลงขณะที่ประชากรสูงวัยกลับเพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่าหากจำนวนประชากรลดลงจำนวนบ้านว่างก็จะเพิ่มขึ้น และจำนวนผู้ได้รับบ้านเป็นมรดกจากครอบครัวก็จะเพิ่มขึ้นด้วย ส่งผลให้จำนวนคนในกลุ่มอายุที่จะซื้อบ้านลดลงตามไปด้วยนั่นเอง ดังนั้น ความต้องการที่ดินและที่อยู่อาศัยก็จะหายไปอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะต้องยอมรับว่าบ้านหนึ่งหลังมีภาระทางภาษีพ่วงมาด้วยไม่น้อย
ข้อมูลจาก : ญี่ปุ่น เล่ามั๊ย ปุกุปุกุ, conomi