ทหารเรือโหด กระทืบสาวน่วม ลั่น! นายใหญ่ ไม่มีใครทำอะไรได้
แจ้งจับ ทหารเรือ "ยศเรือตรี" กระทืบสาวน่วม ลั่น! นายใหญ่ ไม่มีใครทำอะไรได้ ล่าสุดเข้ามอบตัว อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ยินยอมชดใช้ค่าเสียหาย
จากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพหญิงสาวถูกทำร้าย หน้าตาปูด เขียวช้ำตามร่างกาย พร้อมระบุข้อความสรุปได้ว่า อยากขอพลังโซเชียลช่วยเหลือ เพราะคู่กรณีเป็นนายทหารสัญญาบัตร "ยศเรือตรี" ก่อนหน้านี้ตนรู้จักกับผู้ก่อเหตุ ต่อมาทราบว่ามีครอบครัวแล้ว จึงพยายามขอเลิก แต่ฝ่ายชายไม่ยอม และข่มจู่ทำร้าย ก่อนเลิกผู้ชายเริ่มมีปัญหาทางการเงิน มาขอยืมเงิน พอทวงเขาก็ไม่พอใจ หลังจากนั้นก็ขาดการติดต่อไป ผ่านมา 2 เดือน ผู้ชายพยายามมาง้อขอคืนดี แต่ตนเองปฏิเสธ
กระทั่ง 22.00 น. วันที่ 17 ต.ค. ฝ่ายชายบุกมาหา เพื่อขอคืนดี พอตนเองปฏิเสธ ฝ่ายชายก็ทำร้ายร่างกาย เอาโทรศัทพ์มาทุบจมูกและตา จนดั้งและกระบอกตาแตก เลือดไหลไม่หยุด และกระทืบตามตัวจนเขียวช้ำ พอสบโอกาสจึงวิ่งหนีออกมา แต่เขาวิ่งตามออกมาทันและขู่ว่า ถ้าไม่ยอมกลับขึ้นไปแต่โดยดี จะยิงเราทิ้ง จนต้องยอมกลับขึ้นไปกับเขา แค่นั้นยังไม่พอ ฝ่ายยังข่มขืนต่อ แม้เลือดออกเต็มหน้า ทุบตีตั้งแต่ 4 ทุ่มกว่า จนถึงตี 1 หลังจากเขากลับไป จึงโทรไปขอความช่วยเหลือเพื่อน ก่อนกลับไปทางผู้ชายบอกว่า "ไม่มีใครทำอะไรเขาได้ นายกูใหญ่ นายกูรักกู"
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล เย็บดั้งไป 3 เข็ม กระบอกจอตาแตก ทุบนิ้วหักไป 2 นิ้ว อีกนิ้วร้าว และแผลตามร่างกาย ก่อนรีบไปแจ้งความ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพราะฝ่ายชายยังวนกลับมาอีก ตอนนี้ต้องใช้ชีวิตอย่างหวาดระแวง หลบๆ ซ่อนๆ เพราะกลัวฝ่ายชายกลับมาทำร้ายอีก และไม่สามารถไปทำงานได้ เนื่องจากฝ่ายชายรู้ที่ทำงาน รวมถึงเจ็บแผลด้วย
ต่อมาเมื่อวานนี้ (22 ต.ค.) เรือตรีพลณัฏฐ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนสภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อรับทราบข้อกล่าวหา "ทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ บุกรุกในเวลากลางคืน และข่มขืน" โดยมี พ.ต.อ.สัณฑภวิษย์ มากช่วย รอง ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม และ พ.ต.อ.ศยาม อินทร์สุวรรณโณ ผกก.สภ.เมืองสมุทรสงคราม ร่วมสอบปากคำ
ภายหลังออกจากห้องสอบสวน เรือตรีพลณัฏฐ์ มีสีหน้าเคร่งเครียด บอกเพียงสั้นๆ ว่า ขอรับผิดในสิ่งที่ตนเองทำ แต่สิ่งที่ไม่ได้ทำ ก็ขอความเป็นธรรมด้วย พร้อมขอโทษผู้เสียหาย ที่ได้ทำลงไปเพราะอารมณ์ชั่ววูบ และยินดีชดใช้ในสิ่งที่ทำให้โทรศัพท์มือถือเสียหาย
ด้าน พ.ต.อ.ศยาม เปิดเผยว่า เบื้องต้นผู้ต้องหารับสารภาพ 2 ข้อหา คือ ข้อหาทำร้ายร่างกาย ทำให้เสียทรัพย์ ที่เหลือให้การภาคเสธ ที่ผ่านมาตำรวจดำเนินการอย่างต่อเนื่อง หลังจากรับแจ้งความ ได้ให้ผู้เสียหายไปรักษาตรวจสุขภาพที่โรงพยาบาล และให้พักฟื้น ก่อนประสานมาให้ปากคำเมื่อ 21 ต.ค.
แม้คดีนี้ผู้ก่อเหตุเป็นทหาร แต่คดีไม่ซับซ้อน เพราะว่ามีความร่วมมือระหว่าง กระทรวงมหาดไทยกับกระทรวงกลาโหม และได้รับแจ้งจากผู้บังคับบัญชาของทหารเรือนายนี้ ว่าจะนายทหารเรือยอมชดใช้ค่าเช่าห้อง 13,000 บาท , ค่าโทรศัพท์มือถือที่ทำพัง และ ค่าทำศัลยกรรมในอนาคตด้วย
อย่างไรก็ตามหลังจากสอบปากคำเรียบร้อยผู้ต้องหาจะกลับไปที่หน่วย เพื่อรับทราบการตั้งคณะกรรมการสอบวินัย ของต้นสังกัดต่อไป