ข่าว

"พี่สุทธิพร" ลาออก อช.เขาใหญ่ ท่ามกลางข้อกังขา โยกย้ายไม่เป็นธรรม?

"พี่สุทธิพร" ลาออก อช.เขาใหญ่ ท่ามกลางข้อกังขา โยกย้ายไม่เป็นธรรม?

27 ต.ค. 2567

ปิดฉาก 25 ปี "สุทธิพร สินค้า" ผู้สื่อสารกับช้างป่า โบกมืออำลา อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ท่ามกลางข้อกังขา โยกย้ายไม่เป็นธรรม?

27 ต.ค. 2567 มีรายงานข่าวแจ้งว่า "นายสุทธิพร สินค้า" หรือ "พลายสุ" ได้ลาออกจาก ตำแหน่งเจ้าหน้าที่อารักขาช้างป่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา แล้ว ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้นมากว่า 1 เดือน ว่า พลายสุ ถูกโยกย้ายอย่างไม่เป็นธรรม ถูกสั่งให้ไปตัดหญ้า รวมไปถึงกำลังจะถูกย้ายไปเป็นผู้ช่วยสัตวแพทย์ ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 1 จังหวัดนครนายก ทั้งที่ พลายสุ มีความชำนาญ มีความสามารถความเข้าใจที่สื่อสารกับช้างป่าได้ดี

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ย้อนไปเมื่อ 13 ต.ค. 2567 เกิดเรื่องราวดราม่าขึ้น โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ลงกลุ่ม "เขาใหญ่ เที่ยวอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ Khaoyai National Park" กรณีกลุ่มนักท่องเที่ยวเข้าใกล้ช้างป่าในระยะที่ไม่ปลอดภัย และเจ้าหน้าที่อุทยานฯ เขาใหญ่ ที่เป็นกระแสในสื่อโซเชี่ยลเกี่ยวการดูแลและผลักดันช้างป่า ในพื้นที่อุทยานฯ เขาใหญ่

ประกอบกับได้รับการร้องเรียนว่า ขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมการขับขี่ของเจ้าหน้าที่ที่ขับรถยั่วยุช้างป่า การไล่ช้างป่าของอุทยานฯ เขาใหญ่ไม่เป็นระบบ เนื่องด้วยว่าปล่อยให้นักท่องเที่ยวเข้าใกล้ช้างป่ามากเกินไป อีกทั้งยังมีการแสดงพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม จึงทำให้มีบุคคลบางกลุ่มไม่พอใจนั้น

เพจทางการของ "อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่" ออกมาชี้แจงว่า ได้มีการปรับปรุงระบบการผลักดันช้างป่า โดยเจ้าหน้าที่ชุดผลักดันช้างป่ารวมกับชุดระวังไพร ซึ่งจะสามารถมีบุคลากรเพิ่มขึ้นในการช่วยเหลือผลักดันช้างป่า แม้ว่าจะมีภาระงานเพิ่มขึ้นแต่ก็ยังปฏิบัติงานผลักดันสัตว์ป่าอยู่เช่นเดิม และยังจะเกิดประโยชน์สูงสุดเพราะจะทำให้การปฏิบัติงานผลักดันสัตว์ป่ามีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น เกิดความปลอดภัยกับเจ้าหน้าที่เพิ่มขึ้น

เพราะมีการทำงานเป็นทีมโดยได้รับการสนับสนุนจากเจ้าหน้าที่ชุดระวังไพร อันเป็นการอำนวยความสะดวกในการให้บริการนักท่องเที่ยวเมื่อพบสัตว์ป่าเกิดความมั่นใจในความปลอดภัย ซึ่งทำให้บุคคลภายนอกที่ไม่ได้ทราบข้อเท็จจริง เกิดความไม่เข้าใจในรายละเอียดการบริหารจัดการของอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่

และนายสุทธิพร สินค้า ยังคงปฏิบัติหน้าที่ตามเดิม เพียงแต่มีการสนับสนุนการปฏิบัติงานเพื่อให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น หากพบช้างป่าบนเส้นทางสัญจรภายในอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ นักท่องเที่ยวไม่ควรลงจากรถยนต์หรือยานพาหนะเพื่อมาถ่ายรูป และควรปฏิบัติตามคำแนะนำของเจ้าหน้าที่อย่างเคร่งครัด

การชี้แจงดังกล่าวนอกจากจะคุลมเครือ และไม่มีความชัดเจนแล้ว ชาวเน็ตส่วนใหญ่บอกว่า เป็นการชี้แจงแบบ พายเรือวนในอ่าง พร้อมตั้งคำถามว่า สรุปย้ายพี่สุทธิพรไปไหน ไปตัดหญ้าจริงหรือไม่ และยังทำหน้าที่เหมือนเดิมจริงไหม ขึ้นเขาใหญ่นอกจากอยากเจอช้างแล้ว นักท่องเที่ยวอยากเจอพลายสุทำหน้าที่เหมือนเดิม
 

นายสุทธิพร สินค้า หรือ พลายสุ

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อสิ้นเดือน ก.ย. 2566 อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จ้าง "นายสุทธิพร สินค้า" มือปราบช้างป่า ทำงานต่อหลังเกษียณอายุราชการ ชี้ มีความสามารถสื่อสารกับช้างป่าได้ดี จึงต่ออายุงานในตำแหน่ง TOR ช่วยดูแลความปลอดภัยนักท่องเที่ยว จากช้างป่าที่ออกมาหากินบนถนน

นายชัยยา ห้วยหงษ์ทอง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ระบุว่า นายสุทธิพร มีความสามารถความเข้าใจที่สื่อสารกับช้างป่าได้ดี ขณะที่คนอื่นไม่สามารถทำได้ เพื่อให้นักท่องเที่ยวมีความปลอดภัยจากช้างป่าที่ออกมาหากินบนถนนในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จึงได้ให้ นายสุทธิพร อยู่ช่วยอุทยานฯ เขาใหญ่ต่อไป ในตำแหน่ง TOR ตามอัตราเงินเดือนที่กำหนด ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 2566 เป็นต้นไป

นายสุทธิพร สินค้า ถือว่าเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ที่มีชื่อเสียงในโลกโซเชียล หลังจากที่มีคลิปช้างป่าเขาใหญ่เผยแพร่ในโลกออนไลน์หลายคลิปจนกลายเป็นที่โด่งดัง จนได้ชื่อว่า "มือปราบช้างป่าเขาใหญ่" เนื่องจากมีความคุ้นเคยกับช้างป่า มีเพียงกระบองไฟที่ถือในมือ และช้างป่าจำเสียงได้ และไม่กลัวช้างป่า จนเป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยว

ทั้งนี้ นายสุทธิพร เข้ามาทำงานตำแหน่งพนักงาน ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2542 ต่อมาได้บรรจุตำแหน่ง พนักงานราชการ ทำงานผูกพันกับช้างป่ามานาน 20 ปี เกี่ยวกับภารกิจ "ช้าง" ดูแลตั้งแต่กู้ภัย การจราจร และการผลักดัน ดูแลช้างป่า โดยการทำงานในกลุ่มจะมีประมาณ 5 คน มี สุทธิพร เป็นตัวหลัก เป็นด่านหน้าเมื่อมีได้รับแจ้ง หากเกินความสามารถ ก็จะขอกำลังเสริมจากกลุ่มเพื่อมาทำการช่วยเหลือ โดยเมื่อสิ้นเดือน กันยายน 2566 ได้เกษียณอายุราชการ หลังจากครบอายุ 60 ปี

อย่างไรก็ตามเมื่อช่วงสิ้นเดือน ก.ย. 2567 มีรายงานว่า อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ ได้ต่ออายุงานให้กับนายสุทธิพร อีกครั้ง กระทั่งมีเรื่องราวดราม่าขึ้น และมีข่าวว่านายสุทธิพร ได้ลาออกจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แล้ว