สาวหวิดดับ เจ็บหน้าอก มือชา หมอนิจฉัยผิดเป็น กรดไหลย้อน ทั้งที่ หัวใจผิดปกติ
สาวแชร์อุทาหรณ์ หวิดดับเพราะโรคหัวใจ หลังไป รพ.เอกชน เจอหมอวินิจฉัยเป็น กรดไหลย้อน ทั้งที่เส้นเลือดตีบต้องทำบอลลูน
4 พ.ย. 2567 เพจเฟวบุ๊ก "Drama-addict" ได้แชร์เรื่องราวของหญิงรายหนึ่ง ซึ่งได้ออกมาแชร์อุทาหรณ์หลังมีอาการ "เส้นเลือดหัวใจตีบ" แต่หมอห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งวินิจฉัยว่าเธอเป็น "กรดไหลย้อน" ก่อนฉีดยาให้พร้อมบอกให้กลับบ้าน โดยทางเพจระบุข้อความว่า
จ่าคะ หนูมีเรื่องจะมาเล่าสู่กันฟังค่ะ หนูขอไม่เปิดเผยตัวและ รพ. ที่เข้ารักษานะคะ แต่ตอนนี้ทางรพ. น่าจะได้รับการร้องเรียนจากหนูแล้ว เดิมทีหนูตรวจสุขภาพประจำปี ทุกปี แล้วก็ตรวจสุขภาพตามหมอนัดบ่อยมีโรคประจำตัวเป็นไขมันและความดันสูง
ที่นี้ เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมาหนูก็ได้ไปออกกำลังกาย ละเกิดมีอาการเจ็บหลังแล้วเหนื่อยง่ายกว่าปกติ และอาการเจ็บหลังคือหนักมากเรื่อยๆ หนูเลยไป รพ. เอกชนที่รักษาประจำ หนูแจ้งว่าเจ็บที่หน้าอกมากแล้วก็ชาไปที่มือข้างซ้าย หมอ ที่ ER (ห้องฉุกเฉิน) คนแรกตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจก็บอกปกติไม่มีอะไร ละฉีดยาแก้ปวดเข้าที่เส้นให้พร้อมให้ยาแก้ปวดกลับมา แต่มีนัดหมอหัวใจให้ในวันอาคาร แต่หนูลืมเอง
จนมาเมื่อวันพุธที่ผ่านมา เวลา 2 ทุ่มหนูอาการเจ็บหน้าอก และชาที่ปลายแขนเหมือนเดิม หนูทนจนไม่ไหวต้องเรียกเพื่อนพามารพ ตอนตี2 มาถึง หมอER เข้ามาตรวจหนูบอกว่าหนูเจ็บหน้าอกมาก ไม่ใช่จุกแล้วก็ชาไปหมดไม่มีแรงหายใจจะไม่ได้ เขาก็ให้พยาบาล เอาเครื่องตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจมาตรวจ ละหมอมาอ่านผล บอกคลื่นหัวใจก็ปกติ คุณเป็นแค่กรดไหลย้อน ฉีดยาเสร็จก็กลับได้
แต่หนูพยายามบอกหมอแล้วว่าหนูไม่ได้เป็นกรดไหลย้อน สุดท้ายเขาก็มาเจาะเลือดไปตรวจ เขาก็บอกผลเลือดปกติ ทั้งๆ ที่เลือดหนูเหลือแค่ 26 จนหนูต้องบอกว่าถ้าหมอว่าหนูเป็นกรดไหลย้อน ช่วยเขียนแผนการรักษา พร้อมผลตรวจที่นี่ทั้งหมด พร้อมทั้งเดี๋ยวเรียกรถฉุกเฉิน หัวเฉียวมารีบที่นี่ เขาพูดว่าอ้อ คนไข้อยาก แอดมิดใช่ไหม แล้วก็สะบัดหน้าออกไป
จนเช้าหมอหัวใจเข้ามาเยี่ยมพร้อมบอกหนูว่า ผลการตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า (อันที่ทำตอนตีสอง) ผิดปกติมาก อาจจะต้อง เอคโค่ แล้วให้เลือด รวมถึงส่องกล้องว่าทำไมเลือดหาย
ขั้นตอนแรกคือหนูไปฉีดสี เจอหัวใจตีบ 2 เส้น ต้องทำบอลลูนเลย สองหนูให้เลือกถุงแรกไป จากค่าเลือด 26 พอให้เลือด ลดลงมาเหลือ 25 หนูต้องให้เลือดเพิ่ม พร้อมฉีดกระตุ้นเกล็ดเลือดเช้าเย็น ขั้นที่2 วันจันทร์หนูต้องเข้าทำเอคโค่หัวใจ ขั้นที่ 3 ถ้าหัวใจหนูสงบ หนูต้องส่องกล้องหาภาวะเลือดออก
สุดท้ายนี้หนูอยากเป็นกระบอกเสี่ยงให้หมอทุกคนสนใจรีบฟังคนไข้บ้าง ถ้าวันนั้นหนูเป็นแค่ตาสี ตาสา หนูคงตายระหว่างทางแล้วค่ะจ่า คงไม่ได้มาเล่าเหตุการณ์นี่ให้จ่าฟัง ละที่หนูเข้ารับการรักษา คือรพ เอกชนด้วยนะคะ หนูอยากให้หมอ ที่อยู่ ER มีความตะหนักรอบคอบกว่านี่ ไม่ใช่ว่าอ่านชาร์จการตรวจผิด ซึ่งมันถึงกับชีวิตคนไข้เลยนะคะ
โรคหัวใจน่ากลัวจริงๆคะ แค่เสี้ยววินาที ก็อาจจะขิตได้ ตอนนี้หนูทำบอลลูนไปแล้ว1 เส้น ถ้าวันนั้นตีสองหนูเชื่อหมอห้องฉุกเฉินว่าเป็นกดไหลย้อน หนูฉีดยาตามที่หมอบอกละกลับบ้านหนูคงตายแน่ระหว่างทาง
อันนี้เอามาลงเพจไม่ได้จะมา blame ใครแต่ให้ดูเป็นอุทาหรณ์ครับว่าอาการแน่นหน้าอกนี่ถ้าเป็นจากโรคหัวใจมันอันตรายมาก และอาจขิตได้ในพริบตาเลย