ข่าว

อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด! โซเชียลแห่แชร์ต่อ "อดอาหารรักษาโรคมะเร็ง"

อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด! โซเชียลแห่แชร์ต่อ "อดอาหารรักษาโรคมะเร็ง"

04 มี.ค. 2568

อย่าหลงเชื่อเด็ดขาด! อ.เจษฎ์ เตือนข้อมูลเท็จ ความเข้าใจผิดๆ หลังโซเชียลแห่แชร์ต่อ "อดอาหารรักษาโรคมะเร็ง"

4 มี.ค. 2568  ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์ข้อความเตือนพร้อมให้ความรู้ผ่านเฟซบุ๊กหลังสื่อโซเชัยลมีการแชร์ต่อความรู้ผิดๆ เกี่ยวกับการรักษามะเร็ง โดยเชื่อว่าการอดอาหารรักษามะเร็งได้ โดยรายละเอียดระบุว่า 

 

"คำกล่าวอ้างเท็จ ถูกแชร์ในโพสต์ออนไลน์ อ้างนักวิทยาศาสตร์รางวัลโนเบล Yoshinori Ohsumi แนะอดอาหารรักษามะเร็ง" โดยคำกล่าวอ้างเท็จที่ระบุว่า Yoshinori Ohsumi นักวิทยาศาสตร์ชาวญี่ปุ่น เจ้าของรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ แนะนำการงดอาหารเพื่อรักษาโรคมะเร็ง ถูกแชร์ออกไปนับหมื่นๆ ครั้งทางสื่อสังคมออนไลน์ในหลายประเทศทั่วโลก 

 

งานวิจัยของ Ohsumi นำไปสู่องค์ความรู้ใหม่ เกี่ยวกับกระบวนการย่อยสลายของเซลล์ ที่สามารถนำไปสู่โรคต่างๆ เช่นโรคมะเร็งได้  อย่างไรก็ตาม AFP ไม่พบหลักฐานว่าคำกล่าวอ้างในโพสต์ที่ทำให้เข้าใจผิดมาจากงานวิจัยของ Ohsumi  ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพหลายคนยืนยันกับ AFP ว่าการงดอาหารไม่ช่วยรักษาโรคมะเร็ง พร้อมเตือนว่าการขาดสารอาหารเป็นภาวะที่อันตรายสำหรับผู้ป่วยโรคมะเร็ง
 

โพสต์ดังกล่าวแสดงภาพของ Yoshinori Ohsumi พร้อมคำกล่าวอ้างที่ระบุว่าเจ้าของรางวัลโนเบลคนนี้แนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งงดอาหาร “เพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง”
คำบรรยายโพสต์เขียนว่า: “Mr. Yoshinori Ohsumi (ผู้ที่รับรางวัลโนเบลสาขาสรีรวิทยาและการแพทย์) ได้กล่าวว่า: เมื่อร่างกายมนุษย์หิว มันจะกินตัวเอง มันทำให้กระบวนการทำความสะอาด กำจัดเซลล์ป่วย มะเร็ง เซลล์ชรา และอัลไซเมอร์ทั้งหมด รักษาความอ่อนเยาว์และต่อสู้กับโรคเบาหวาน การสร้างโปรตีนพิเศษที่ก่อตัวขึ้นในบางสถานการณ์เท่านั้น”

 


“เมื่อเสร็จแล้ว ร่างกายจะคัดเลือกรอบเซลล์มะเร็งที่ตายแล้ว สลายเซลล์มะเร็งและฟื้นฟูสภาพร่างกาย นี่คือลักษณะการรีไซเคิล ต้องขอบคุณการวิจัยที่ใช้เวลานานและเฉพาะทาง”
Ohsumi เป็นผู้รับรางวัลโนบาลสาขาสรีรวิทยาและการแพทย์ในปี 2559 จากผลงานของเขาเรื่องกลไกการกินตัวเองของเซลล์ (Autophagy)

 


กระบวนการดังกล่าวมีความสำคัญต่อการย่อยสลายและการรีไซเคิลชิ้นส่วนของเซลล์ในร่างกายที่ชำรุด โดยความผิดปกติของกระบวนการนี้เชื่อว่าเกี่ยวข้องกับความชราและความเสียมถอยของสภาพเซลล์ Ohsumi ใช้ยีสต์ขนมปังเพื่อการตรวจหายีนที่จำเป็น

สำหรับกระบวนการกินตัวเองของเซลล์ หรือที่เรียกว่า autophagy จากนั้นเขาอธิบายถึงกลไกขั้นพื้นฐานสำหรับกระบวนการดังกล่าวในยีสต์ พร้อมสาธิตว่ากลไกที่ซับซ้อนคล้ายๆ กัน ก็สามารถเกิดขึ้นได้ในเซลล์ของมนุษย์เช่นกัน คำกล่าวอ้างเท็จนี้ถูกแชร์อย่างต่อเนื่องในหลายประเทศ เช่นอินเดีย เนปาล มาเลเซีย และในไทย

 


ก่อนหน้านี้ AFP ได้ตรวจสอบคำกล่าวอ้างคล้ายๆ กัน ที่ถูกแชร์นับหมื่นๆ ครั้งในโพสต์เฟซบุ๊กภาษาฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ของสถาบันเทคโนโลยีแห่งโตเกียว ซึ่งเป็นสถานศึกษาที่ Ohsumi ทำงานอยู่ บอกกับ AFP เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2565 ว่าเขาไม่ได้พูดคำกล่าวอ้างที่ถูกแชร์ในโพสต์ที่ทำให้เข้าใจผิด

 


อันตรายสำหรับผู้ป่วย

AFP ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ โดยได้รับคำตอบตรงกันว่าไม่แนะนำให้ผู้ป่วยมะเร็งงดอาหาร Lucile Espert นักวิจัยด้าน autophagy และการติดเชื้อ ศูนย์วิจัยวิทยาศาสตร์แห่งชาติประเทศฝรั่งเศส ให้สัมภาษณ์กับ AFP เมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2565 ว่า “การงดอาหารเป็นครั้งคราวไม่ถือเป็นการบั่นทอนร่างกาย และอาจต้องขอบคุณกระบวนการ autophagy ด้วยที่มันไมถือเป็นเรื่องไม่ดี แต่การที่จะกล่าวว่ามันสามารถใช้เพื่อรักษาโรคนั้นเป็นเรื่องอันตราย”


Laurent Chevallier นักโภชนาการที่ปรึกษา โรงพยาบาลมหาวิทยาลัยมงต์เปลลิเย่ร์ อธิบายกับ AFP ว่า “ในส่วนของเนื้องอกวิทยา ผู้ป่วยจะเข้าสู่ภาวะขาดสารอาหารเร็วกว่าคนปกติ เมื่อคุณได้รับสารอาหารไม่เพียงพอ มันจะทำให้สภาพ แย่ลง และถือเป็นภาวะที่อันตรายมาก”

 

Pierre Sonveaux ศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยคาธอลิก Louvain (UCLouvain) และผู้เชี่ยวชาญด้านการวิจัยมะเร็งเชิงทดลอง บอกกับ AFP ว่าผู้ป่วยโรคมะเร็งไม่ควรเปลี่ยนโภชนาการเอง “ถ้าคุณจะเปลี่ยนแปลงโภชนาการ ควรจะต้องผ่านการปรึกษากับแพทย์มาก่อน”