ข่าว

เช็กด่วน! 5 กลุ่มเสี่ยงป่วยมะเร็งปอดที่สุด ใครมีอาการเหล่านี้พบหมอด่วน

เช็กด่วน! 5 กลุ่มเสี่ยงป่วยมะเร็งปอดที่สุด ใครมีอาการเหล่านี้พบหมอด่วน

10 มี.ค. 2568

เช็กด่วน! "หมอเจด" เปิด 5 กลุ่มเสี่ยงป่วยมะเร็งปอดมากที่สุด ใครมีอาการเหล่านี้พบหมอด่วน อย่าชะล่าใจเด็ดขาด

10 มี.ค. 2568 หมอเจด นายแพทย์ เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา แชร์ เรื่องราวสุขภาพเตือนภัยเกี่ยวกับโรคมะเร็ง โดยรายละเอียดระบุว่า 

 

มะเร็งปอด เป็นมะเร็งที่เจอได้บ่อยเป็นอันดับต้นๆ นะครับ ซึ่งความน่ากลัวของมันคือ เป็นโรคที่ไม่ค่อยแสดงอาการ รู้ตัวอีกที มักจะอยู่ในระยะที่รักษาได้ยากแล้ว เดี๋บววันนี้เล่าให้ฟังนะว่าใครเสี่ยงบ้าง และจะป้องกันยังไง

 ใครบ้างที่เสี่ยงเป็นมะเร็งปอด?

 


1 คนที่สูบบุหรี่ หรือเคยสูบมาก่อน
อันนี้เป็นปัจจัยอันดับหนึ่งที่หนีไม่พ้นเลย บุหรี่มีสารพิษเพียบ โดยเฉพาะสารก่อมะเร็งที่ทำลายเซลล์ปอดทีละนิด ๆ คนที่สูบบุหรี่ต่อเนื่องเป็นเวลานานมีโอกาสเป็นมะเร็งปอดมากกว่าคนที่ไม่สูบถึง 15-30 เท่า และถึงแม้จะเลิกสูบไปแล้ว ร่างกายก็ยังต้องใช้เวลาในการฟื้นตัว โอกาสเสี่ยงก็ยังคงสูงกว่าคนที่ไม่เคยสูบ


2 คนที่ได้รับควันบุหรี่ หรือสูบบุหรี่มือสอง
ถ้าใครอยู่ใกล้ ๆ คนที่สูบบุหรี่เป็นประจำ ก็เสี่ยงได้เหมือนกัน เพราะในควันบุหรี่มีสารพิษไม่ต่างจากการสูบเองเลย คนที่ได้รับควันบุหรี่บ่อย ๆ อาจเสี่ยงเป็นมะเร็งปอดเพิ่มขึ้นถึง 20-30%


3 คนที่ทำงานในสภาพแวดล้อมที่มีสารก่อมะเร็ง
บางอาชีพมีความเสี่ยงสูงโดยที่เราอาจไม่เคยคิดมาก่อน เช่น

  • คนที่ทำงานในโรงงานที่เกี่ยวข้องกับ แร่ใยหิน (asbestos), แคดเมียม, โครเมียม
  • คนที่ทำงานเหมือง หรือโรงงานที่มี สารเคมีหนัก
  • คนที่ต้องสัมผัสกับ ก๊าซเรดอน ซึ่งเป็นก๊าซธรรมชาติที่ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น แต่ถ้าสูดดมเข้าไปมาก ๆ ก็เป็นอันตรายต่อปอด

 

4 คนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ที่มีมลพิษสูง
ฝุ่น PM2.5 ที่เราพูดถึงกันบ่อย ๆ ไม่ใช่เรื่องเล็กเลยนะ เพราะมันสามารถเข้าไปในปอดและสะสมในระยะยาวได้ คนที่อยู่ในเมืองที่มีมลพิษเยอะ หรือทำงานในที่ที่อากาศไม่ดี ก็มีความเสี่ยงสูงขึ้น


5 คนที่มีพันธุกรรมเสี่ยงต่อมะเร็งปอด
ถ้าในครอบครัวเคยมีคนเป็นมะเร็งปอด โดยเฉพาะพ่อแม่หรือพี่น้องสายตรง โอกาสที่เราจะเป็นก็เพิ่มขึ้นด้วย เพราะบางคนอาจมียีนที่เกี่ยวข้องกับการซ่อมแซม DNA ที่บกพร่อง ซึ่งทำให้เซลล์ปอดเสียหายและกลายเป็นมะเร็งได้ง่ายขึ้น

อาการของมะเร็งปอด


อย่างที่บอกไปนะครับ มะเร็งปอดมักไม่ค่อยแสดงอาการในช่วงแรก ๆ แต่พอเริ่มมีอาการ ก็อาจเป็นช่วงที่มะเร็งลุกลามไปแล้ว ดังนั้น ถ้ารู้สึกว่าอะไรไม่ปกติ ควรรีบไปพบแพทย์โดยเร็ว

1 อาการที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

  • ไอเรื้อรังนานเกิน 3 สัปดาห์ โดยไม่มีสาเหตุ
  • ไอแบบธรรมดา ๆ แต่ ไม่หายสักที แม้จะกินยา
  • ไอมีเลือดปน หรือเสมหะมีสีคล้ำผิดปกติ
  • หายใจลำบาก หรือรู้สึกแน่นหน้าอก
  • มีเสียงหวีด หรือเสียงแหบแบบไม่มีสาเหตุ

 

2 อาการที่เกี่ยวกับร่างกายโดยรวม

  • น้ำหนักลดลงแบบ ไม่มีสาเหตุ
  • รู้สึกอ่อนเพลีย ไม่มีแรง ทั้งที่พักผ่อนเพียงพอ
  • เบื่ออาหาร กินได้น้อยลง


3 อาการที่เกิดจากการแพร่กระจายของมะเร็ง

  • ถ้าลามไปกระดูก → ปวดกระดูก โดยเฉพาะที่หลังและสะโพก
  • ถ้าลามไปสมอง → ปวดศีรษะ เวียนหัว หรืออ่อนแรงครึ่งซีก
  • ถ้าลามไปตับ → ตัวเหลือง ท้องบวม

 


ทำไมมะเร็งปอดถึงน่ากลัว?

 

  • มันตรวจพบช้า → เพราะอาการในช่วงแรกไม่ค่อยชัดเจน
  • แพร่กระจายเร็ว → สามารถลุกลามไปยังอวัยวะอื่นได้ง่าย
  • รักษาได้ยาก → แม้มีการรักษาขั้นสูง แต่ถ้าเจอช้า โอกาสรอดต่ำมาก

 

การตรวจคัดกรองมะเร็งปอดทำได้อย่างไร?

  • เอกซเรย์ปอด (Chest X-ray) → วิธีพื้นฐาน แต่ไม่แม่นยำพอสำหรับระยะแรก
  • ซีทีสแกนปอด (Low-dose CT scan, LDCT) → วิธีที่แม่นยำกว่ามาก โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่มีความเสี่ยงสูง

 

 

วิธีลดความเสี่ยงของมะเร็งปอด

 

 

  • เลิกบุหรี่ ทันทีนะ ไม่ว่าคุณจะสูบมากี่ปี การที่เลิกก็ช่วยลดความเสี่ยงได้
  • หลีกเลี่ยงควันบุหรี่และมลพิษทางอากาศ
  • ใส่หน้ากากป้องกันฝุ่น PM2.5 โดยเฉพาะในเมืองใหญ่
  • ตรวจสุขภาพประจำปี โดยเฉพาะคนที่มีความเสี่ยงสูง
  • กินอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น ผัก ผลไม้ เพื่อช่วยปกป้องเซลล์ปอด
  • ย้ำนะครับมะเร็งปอดเป็นโรคที่อันตรายเพราะมักไม่มีอาการชัดเจนในช่วงแรก แต่ถ้าเรารู้ปัจจัยเสี่ยงและสังเกตอาการผิดปกติได้เร็ว ก็มีโอกาสป้องกันและรักษาได้มากขึ้น ถ้าคุณหรือคนใกล้ตัวมีอาการตามที่ผมบอก อันนี้ต้องรีบไปตรวจนะครับ