ข่าว

ทนายดังภูเก็ต โต้อดีตแฟน เล่าหนังคนละม้วน ยัน ไม่เคยยืมเงิน 1.2 ล้าน

ทนายดังภูเก็ต โต้อดีตแฟน เล่าหนังคนละม้วน ยัน ไม่เคยยืมเงิน 1.2 ล้าน

17 มี.ค. 2568

ทนายดังภูเก็ต เปิดหน้าสู้ โต้อดีตแฟน เล่าหนังคนละม้วน ยัน ไม่เคยยืมเงิน 1.2 ล้าน ท้าให้ฟ้อง ถ้ามีหลักฐานจริง

จากกรณี "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" พานางสาวหญิง (นามสมมุติ) อายุ 36 ปี ชาว จ.ขอนแก่น เข้าร้องทุกข์ต่อกระทรวงยุติธรรม หลังแจ้งความเอาผิดอดีตแฟนหนุ่ม ซึ่งมีดีกรีเป็นทนายความชื่อดัง จ.ภูเก็ต ไว้ถึง 3 สถานีตำรวจ แต่คดีก็ไม่คืบ โดยนางสาวหญิง บอกว่า รู้จักกับอดีตแฟนหนุ่ม เมื่อปี 2566 ตั้งแต่เขายังไม่มีทรัพย์สินอะไร

จากนั้นฝ่ายชายเริ่มขอยืมเงิน 8 แสนบาท และขอยืมอีกครั้ง 4 แสนบาท ก่อนจะมีปัญหาเรื่องชู้สาว ตนเองจึงตีตัวออกหาก และทวงเงินคืน แต่ทนายอ้างว่าให้ด้วยเสน่หา ตนจึงตัดใจมองว่าไม่เป็นไร และบล็อกเบอร์ฝ่ายชายทันที

นางสาวหญิง บอกอีกว่า ต่อมาฝ่ายชายใช้เบอร์ใหม่ โทรตามง้อ และข่มขู่ บอกจะทำให้อยู่ในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตไม่ได้ ตนจึงไปแจ้งความ ข้อหาทำร้ายร่างกาย , พยายามติดตาม คุกคามข่มขู่และจ้างวานฆ่า ส่วนฝ่ายชายไปแจ้งความกลับ รวมถึงคุกคามคนที่เข้ามาช่วยเหลือตนเอง โดยเฉพาะนักข่าวท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ตนเองถูกกระทำมานานกว่า 2 ปี ทำให้คิดสั้นตลอด เพราะไม่รู้จะต่อสู้กับเขายังไง หวาดระแวงทุกเรื่อง ย้ายคอนโดมาแล้ว 3 แห่ง เพราะถูกตามคุกคาม สุดท้ายทนไม่ไหว ต้องมาร้อง "ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง" ให้ช่วยเหลือ
 

ขอบคุณภาพจาก : ต้นอ้อ เป็นหนึ่ง
 

17 มี.ค. 2568 ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับนายอนันตรักษ์ อายุ 40 ปี ทนายความที่ถูกกล่าวหา ชี้แจงว่า เรื่องของเงิน ช่วงที่รู้จักกันแรกๆ เมื่อ 4 ปีก่อน ตนได้ทำคดีหนึ่ง ซึ่งลูกความไม่มีเงิน แต่ลูกความมีบ้านอยู่หลังหนึ่ง ซึ่งไม่ได้อยู่ เลยบอกว่าจะขายบ้านให้ในราคาถูก ซึ่งบ้านหลังนี้อยู่ระหว่างซื้อจากสนามบิน ตนเลยถามว่าสนามบินซื้อเท่าไหร่ เขาบอกว่า 7 ล้าน ตนบอกว่าถ้าเราซื้อในราคา 3 ล้านกว่า แล้วไปขายได้ 7 ล้าน ตนบอกว่าตกลงตนเลยไปหาเงินของพี่ชาย 2 ล้านบาท ตนมี 600,000 บาท แล้วเหลืออีก 750,000 บาท อดีตแฟนเลยเสนอว่าจะลงทุนด้วย เพราะว่ากำไรดีเลยนำเงิน 750,000 บาท มาให้ แต่เงินจำนวนนี้ไม่ใช่เงินสด แต่เขานำรถเก๋งไปเข้าธนาคาร เพื่อเอาเงินตัวนี้มาเพื่อมาลงทุนกับตนและพี่ชาย

ด้วยความที่เป็นแฟนกัน ตนก็รับผิดชอบรถของเขา ด้วยการผ่อนรถให้ทุกเดือน เดือนละ 20,000 บาท ต่อมาได้เงินจาก คุณฮัดเซ็น ประเทศตุรกี โอนเงินให้ตน 2 ล้านบาท ตนเลยบอกว่า พี่ไปปิดรถให้ ส่วนบ้านโอนให้พี่ แต่ตอนนี้เราเป็นแฟนกันก็เป็นชื่อน้องไปก่อน ไม่คิดว่าจะมีปัญหาเพราะเราคบกันมายาวนาน แต่ตนกันตัวเองไว้อย่างหนึ่ง คือไปลงบันทึกประจำวัน โดยตนโอนเงินกลับให้เขา 700,000 บาท พร้อมสลิปโอนเงิน จริงๆ ตนโอนให้เขา 1 ล้านบาท แต่เขาโอนกลับมาให้ตน 300,000 บาท และกดเงินสดออกมา

ทนายดังภูเก็ต โต้อดีตแฟน เล่าหนังคนละม้วน ยัน ไม่เคยยืมเงิน 1.2 ล้าน

ส่วนที่เขาบอกว่าไปทำบ้านให้ตนที่นครฯ 4 แสนบาท ได้แค่เสา เพราะบ้านตนหลังใหญ่มาก ประมาณ 5 ล้านบาท เขาไปที่บ้านตน เขาเห็นว่าบ้านตนไม่มีห้องน้ำชั้นล่าง เขาเลยนำสร้อยของเขาไปจำนำ และนำเงิน 90,000 บาท มาทำห้องน้ำชั้นล่าง ซึ่งตนก็ได้ไปไถ่คืนให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนเงิน 1,200,000 บาท ไม่เป็นความจริง ตนไม่เคยยืมเงินเขา

"ถ้าตนเป็นหนี้เขาจริง คุณฟ้องมาเลย ทนายที่เก่งกาจ คุณฟ้องมาเลย ถ้าคุณยืนยัน ว่าผมเป็นหนี้จริง ให้ฟ้องมาเลย คุณต้องดูหลักฐานความเป็นจริง ตนก็ให้พี่นักข่าวดูแล้ว การจ้างนั้นเกิดขึ้นเมื่อ 2 ปีก่อน ไม่ใช่ช่วงนี้ไม่ใช่ช่วงปีที่แล้ว ตนทะเลาะกับแฟน เขาก็เก็บของออกจากบ้าน ตนก็เป็นห่วงว่าเขาจะมีเงินไหม ก็เลยจ้างเพื่อนข้างบ้านให้ไปดูเขาว่าเขาไปโรงเรียนไหมมีเงินไหม ว่าเจอไม่เจอเจอก็กลับ"

นายอนันตรักษ์ ยังชี้แจงกรณีบอกว่ามีการจ้างไปทำร้ายคนชื่อวุฒิ ซึ่งคนชื่อวุฒิ เคยมาช่วยงานตน เนื่องจากตนกำลังสร้างบ้าน และเขามาขอหลังคาบ้านตน ซึ่งหลังคาบ้านยังไม่ได้รื้อออก แล้วไปโพสต์ว่าขอแค่สังกะสีไม่ให้ และมายักยอกเงินของเพื่อนร่วมทีม ที่มาช่วยทำงาน 20 คน ประมาณ 40,000 กว่าบาท แล้วไปบอกลูกน้องตน ว่าจ้างมาทำงานแล้วไม่ให้เงิน ซึ่งตนก็มีหลักฐานเรียบร้อย

"ตนคบกับเขามา 4 ปี ตนได้เดินทางไปอีสานบ้านของเขา และได้ทำพิธีสู่ขอเป็นวันสงกรานต์ปีที่แล้ว ซึ่งปีที่แล้วตนเดินทางไปอีสานบ่อยมาก หมดเงินในการทำบ้านเขาไปหลายแสน เพราะที่บ้านเขาไม่มีอะไรเลย บ้านเขาอยู่แบบลำบาก ตนก็เลยใช้เงินทำบ้านให้เขา ตนเลิกกับเขาเมื่อวันที่ 19 มกราคม 2568 ปีนี้"

ทนายดังภูเก็ต โต้อดีตแฟน เล่าหนังคนละม้วน ยัน ไม่เคยยืมเงิน 1.2 ล้าน