ข่าว

เปิดที่มา "วันโกหกสากล" วันเมษาหน้าโง่ (April Fool's Day)

เปิดที่มา "วันโกหกสากล" วันเมษาหน้าโง่ (April Fool's Day)

31 มี.ค. 2568

เปิดที่มา "วันโกหกสากล" วันเมษาหน้าโง่ (April Fool's Day) มาจากไหน? ทำไมถึงต้องเป็น เมษาหน้าโง่ สิ่งใดที่ไม่ควรทำในวันนี้

วันเมษาหน้าโง่ "April Fool's Day" วันที่ 1 เมษายนของทุกปี เวียนมาพร้อมกับบรรยากาศที่แสนจะครึกครื้นและชวนให้ระแวดระวังไปพร้อมๆ กัน นั่นก็คือ วันโกหกสากล หรือ April Fools' Day วันที่ผู้คนทั่วโลกต่างพร้อมใจกันปล่อยมุกตลก โกหกเล็กๆ น้อยๆ หรือแม้กระทั่งวางแผนแกล้งเพื่อนฝูงและคนรอบข้างอย่างสนุกสนาน

 


แต่เคยสงสัยกันไหมว่าประเพณีแปลกประหลาดนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร? แม้จะไม่มีหลักฐานที่แน่ชัดถึงจุดเริ่มต้นของวันโกหกสากล แต่ก็มีหลายทฤษฎีที่น่าสนใจ หนึ่งในทฤษฎีที่ได้รับการกล่าวถึงมากที่สุดคือความเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนแปลงปฏิทินในศตวรรษที่ 16 เมื่อฝรั่งเศสเปลี่ยนมาใช้ปฏิทินเกรกอเรียน ซึ่งเริ่มต้นปีใหม่ในวันที่ 1 มกราคม แทนที่จะเป็นช่วงปลายเดือนมีนาคมถึงต้นเดือนเมษายนตามปฏิทินจูเลียนเดิม ว่ากันว่าผู้ที่ยังคงเฉลิมฉลองปีใหม่ในวันที่ 1 เมษายนถูกเรียกว่า "คนโง่เดือนเมษายน" และกลายเป็นเป้าของการล้อเลียนและเรื่องตลกต่างๆ

อีกทฤษฎีหนึ่งเชื่อว่าวันโกหกสากลอาจมีรากฐานมาจากเทศกาลโบราณ เช่น เทศกาล Hilaria ของชาวโรมัน ซึ่งมีการเฉลิมฉลองในช่วงปลายเดือนมีนาคมและมีการเล่นตลกและการปลอมตัว หรือเทศกาลฤดูใบไม้ผลิอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านและความไม่แน่นอน ซึ่งอาจนำไปสู่การหยอกล้อและเรื่องขำขัน


ไม่ว่าที่มาจะเป็นอย่างไร วันโกหกสากลก็ได้กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติที่แพร่หลายไปทั่วโลก แต่ละวัฒนธรรมก็มีวิธีการเฉลิมฉลองที่แตกต่างกันไป บางครั้งก็เป็นเพียงการพูดโกหกเล็กๆ น้อยๆ เพื่อความสนุกสนาน เช่น การบอกว่ามีโทรศัพท์สำหรับคนนั้นคนนี้ หรือการแอบเปลี่ยนน้ำตาลในกระปุกเกลือ แต่บางครั้งก็มีการวางแผนเรื่องโกหกที่ซับซ้อนและสร้างความฮือฮาในวงกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสื่อต่างๆ ที่มักจะปล่อยข่าวลวงในช่วงวันดังกล่าว

 


ถึงแม้ว่าวันโกหกสากลจะเป็นวันที่เน้นความสนุกสนานและการหยอกล้อ แต่ก็มีเส้นบางๆ ที่กั้นระหว่างเรื่องตลกขบขันกับการสร้างความเดือดร้อนหรือความเข้าใจผิด การโกหกที่รุนแรงเกินไป สร้างความเสียหาย หรือทำให้ผู้อื่นต้องตกใจกลัว ย่อมไม่ใช่สิ่งที่ควรทำในวันโกหกสากล เป้าหมายหลักของวันนี้คือการสร้างเสียงหัวเราะและความสุข ไม่ใช่การทำให้ใครต้องเสียใจหรือรู้สึกแย่


ดังนั้น ในวันที่ 1 เมษายนที่จะมาถึงนี้ หากคุณคิดจะเข้าร่วมสนุกกับเทศกาลแห่งการโกหก ก็ขอให้ระลึกไว้เสมอว่าควรเป็นการโกหกที่สร้างสรรค์ ตลกขบขัน และไม่ส่งผลกระทบในทางลบต่อผู้อื่น เตรียมตัวให้พร้อมรับมือกับเรื่องเซอร์ไพรส์และเรื่องโกหกต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นรอบตัว และอย่าลืมที่จะปล่อยมุกตลกของคุณเองอย่างมีไหวพริบ เพื่อสร้างบรรยากาศที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและเสียงหัวเราะในวันโกหกสากลนี้
 

ท้ายที่สุดแล้ว วันโกหกสากลเป็นเพียงอีกหนึ่งวันในปฏิทินที่เราสามารถใช้เพื่อผ่อนคลายความตึงเครียดและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้คนรอบข้าง ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับวันแห่งการพลิกแพลงนี้อย่างมีสติ และอย่าลืมว่าความจริงใจและการให้เกียรติกันยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในทุกๆ วัน

 

 

 

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากกรมประชาสัมพันธ์ ระบุไว้ว่า 1 เมษายน ของทุกปีเป็นวันโกหกสากล แต่การโพสต์ข้อความ ข่าวสารที่เป็นเท็จ หรือแชร์ข่าวปลอมในประเทศไทยจะถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย

 

พ.ร.บ. ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ฯ มาตรา 14 วางหลักว่าผู้ใดกระทำโดยทุจริตหรือหลอกลวง นําเข้าข้อมูลสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลมีความบิดเบือน เป็นความจริงบางส่วน หรือไม่เป็นความจริงทั้งหมด โดยน่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน อันมิใช่การกระทําความผิดฐานหมิ่นประมาทตามประมวลกฎหมายอาญา มีโทษจำคุก 5 ปี หรือปรับ 1 แสน หรือทั้งจำทั้งปรับ ผู้ส่งต่อมีอัตราโทษเท่ากัน