เอ๊ะยังไง? นักวิ่งสาว โพสต์เจอหนุ่มพูดคุกคาม ในสวนเบญฯ ล่าสุดล็อกโปรไฟล์ | คมชัดลึก

เมื่อวานนี้ (20 เม.ย. 2568) ผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ซึ่งเป็นนักวิ่งสาว ออกมาโพสต์เตือนภัย และเล่าประการณ์ระทึกขวัญ เจอหนุ่มใหญ่สายหื่น พูดลวนลาม "น่าเ_ดจัง" ขณะวิ่งออกกำลังกายอยู่ภายในสวนเบญจกิติ ใจความว่า

อยากมาแชร์ สิ่งที่เจอกับตัววันนี้ ปกติมาวิ่งสวนเบญประจำ ไม่เคยมีอะไรผิดปกติ (ใส่กางเกง T8 สีดำ สปอร์ตบราดำแบบมีความยาวปิดลงมาจนถึงเอว) ช่วงที่แยกกับแฟนกลับไปยังจุดวางขวดน้ำ

จังหวะนั้นมีผู้ชาย อายุ 45-55 ปี ใส่เสื้อกีฬาสีน้ำเงิน กางเกงขายาวสีดำ ผมรองทรงยาว มีผมขาวดำ แซมทั่วศีรษะ ใส่หูฟังสีดำ และมองเรา เดินสวนมา ระยะแบบเอื้อมมือไปจับก็ถึง ก่อนจะพูดในจังหวะก่อนที่จะเดินสวนกับเราด้วยรอยยิ้มแปลกๆ ว่า "น่าเ_ดจัง"

หญิงสาวรายนี้บอกว่า แม้ตอนนั้นจะใส่หูฟัง แต่ไม่ได้เปิดเพลง จังหวะที่ได้ยินคำพูดดังกล่าว เจ้าตัวอึ้งไป 5 วินาที ก่อนจะทบทวน และตอบตัวเองว่า ใช่ ได้ยินไม่ผิด

เจ้าของโพส์ บอกอีกว่า หลังจากนั้นได้หันหลังกลับ แล้วกดโทรศัพท์หาแฟน กระซิบบอกว่า ให้รีบวิ่งตามมาทางที่เราวิ่งไปเอาขวดน้ำ ให้รีบๆ มา และเดินตามผู้ชายคนดังกล่าวไปเงียบๆ ระหว่างนั้นเธอสังเกตแล้วว่า เขาไม่ได้พูดโทรศัพท์กับใคร พอแฟนขอเธอมาถึง จึงตัดสินใจเรียกผู้ชายคนนั้น และสอบถาม

เรา : เมื่อกี้พี่พูดอะไร หนูได้ยิน พี่พูดว่า "น่าเ_ดจัง" พี่พูดแบบนี้ได้ไง หนูไม่ยอม พี่มาพูดแบบนี้ไม่ได้

ผช : ผมไม่ได้พูด ผมไม่ได้พูด ผมบอกว่าเหนื่อย

พอผู้ชายคนดังกล่าว เริ่มทำท่าจะวิ่งหนี เป็นจังหวะที่แฟนที่วิ่งตามมาถึงพอดี และรู้สถานการณ์แล้ว แฟนของเธอจึงเข้าชาร์จผู้ชายคนดังกล่าวไว้ ก่อนจะมี รปภ. หลายท่านเข้ามาช่วยควบคุมตัวเขาไว้
 

ระหว่างนั้น ผู้ชายที่ถูกกล่าวหา บอกว่าไม่ได้เดินสวนทางกัน อยู่คนละเลน ไม่ได้พูดประโยคนั้น บ่นว่าเหนื่อย เพราะวิ่งมา 5-6 กม. ขอโทษที่ทำให้เข้าใจผิด แต่สุดท้าย ชายคนดังกล่าว ยอมขอโทษ ยกมือไหว้

เจ้าของโพสต์ บอกอีกว่า ต้องการแจ้งตำรวจ แต่ยามท่านหนึ่ง มาพูดว่าให้เลิกแล้วต่อกัน พี่เขาเป็นผู้ชาย ยอมยกมือไหว้ขอโทษ ก็ถือว่าเขาสำนึกแล้ว แต่หญิงสาวไม่ยอม จึงไปลงบันทึกประจำวัน ไว้ที่ สน.ลุมพินี ส่วนชายคนดังกล่าวอาศัยจังหวะชุลมุน รีบเดินหนีไป

เจ้าของโพสต์ ยังบอกอีกว่า สำหรับใครที่เจอสถานการณ์แบบนี้ ตำรวจแนะนำว่าให้ยามควบคุมตัวไว้ และโทรแจ้งตำรวจไว้ก่อนเลย เพื่อให้ตำรวจมาที่จุดเกิดเหตุ และบันทึก ชื่อ-นามสกุล เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป เนื่องจาก รปภ. สามารถทำได้แค่ระงับเหตุ แต่บังคับใช้กฎหมายไม่ได้

"ที่เขียนมาทั้งหมด เป็นเหตุการณ์ที่เราเจอ เราไม่ได้เรียกร้องอะไร แต่เราได้ยินคำว่า ให้ยอมๆ ให้จบๆ ไป เขาขอโทษแล้วก็จบๆ ไป ทำไมต้องจบ ทำไมต้องยอม ต่อให้ความผิดจะเป็นลหุโทษ แต่ไม่มีเหตุผลอะไรที่เราจะต้องถูกกระทำทางคำพูดแบบนี้"

นอกจากนี้เจ้าของโพสต์ทิ้งท้ายอัปเดตว่า ทราบจากทางสวน จะติดป้ายไม่ให้บุคคลดังกล่าวเข้าสวน อย่างไรก็ตามจากการตรวจสอบล่าสุด โพสต์ดังกล่าวได้หายไปแล้ว รวมถึงเจ้าของโพสต์ได้ล็อกโปรไฟล์เฟซบุ๊กด้วย

หลังโพสต์นี้ถูกแชร์ออกไปอย่างแพร่หลาย โลกออนไลน์ตั้งข้อสงสัยหลายๆ ประเด็น ทั้งเรื่องเจ้าของโพสต์ใส่หูฟัง แม้ไม่ได้เปิดเพลง ความสามารถในการได้ยินลดลงหรือไม่ จึงเรียกร้องให้เจ้าของโพสต์ อธิบายเรื่องพยานหลักฐานเพิ่มเติมให้ชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีการยกเคส ผู้ชายที่รองเท้าเป็นรู แล้วถูกกล่าวหาว่าติดกล้องแอบถ่าย แต่พอความจริงเผยออกมา คนแค่หันไปด่าผู้หญิงที่ว่าเขา แต่ไม่มีใครมาเยียวยาสิ่งที่เขาโดน

ล่าสุดผู้สื่อข่าวสอบถามไปยังเพจ "สวนเบญจกิติ" ยืนยันว่า ยังไม่มีการติดภาพบุคคลดังกล่าว พร้อมระบุว่า การติดป้ายห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่สาธารณะ ต้องเป็นอำนาจของตำรวจหรือศาลตัดสิน