ป้ายัน ไม่ได้คลั่งลัทธิ เผยถูกใส่ร้าย ปมบังคับสามีกินเจ จนตาย | คมชัดลึก

จากกรณีมีคนนำภาพกระท่อมหลังหนึ่ง ไปโพสต์ลงโซเชียล ซึ่งมีลักษณะทรุดโทรม ไม่มีห้องนอน รวมถึงไม่มีแม้แต่หมอนจะหนุน ทำให้ชาวเน็ตพากันตำหนิผู้นำท้องถิ่น ไม่ดูแลความเป็นอยู่ของลูกบ้าน กระทั่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อบต. และมูลนิธิอาณัติพล ซารัมย์(ลูกเติ้ง) เข้าเยี่ยมเจ้าของบ้าน ชื่อว่านางบุญเรียน อายุ 59 ปี แต่เจ้าตัวไม่อยู่ พบเพียงนางเหรียญ อายุ 64 ปี พี่สาวนางบุญเรียน

นางเหรียญ ให้ข้อมูลว่า น้องสาวได้รับเงินจากลูกชายกับลูกสาวทุกเดือน แต่เอาเงินไปช่วยสถานธรรมแห่งหนึ่งที่ อ.ลำปลายมาศ ไม่สนใจจะดูแลบ้านของตัวเอง และก่อนหน้านี้ยังคลั่งลัทธิ บังคับให้สามีกินเจ จนเสียชีวิต จนกระทั่งหน่วยงานที่เดินทางไปตรวจสอบ ยกเลิกการช่วยเหลือดังกล่าว 
 

24 เม.ย. 2568 นายบุญเรียน ชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า สถานธรรมที่ตนไปนับถือ เป็นสถานธรรมที่ต้องการให้โลกเกิดความสันติสุข สอนให้คนเป็นคนดี ไม่ได้สร้างภาพพจน์ หรือหลอกลวงอะไร ก่อนหน้านี้ประมาณ 12 ปี ที่ผ่านมา ตนเข้าไปสมัครเป็นลูกศิษย์ที่สถานธรรม จนกระทั่งศึกษาเรื่องกินเจ ตนถือว่าเป็นเรื่องดีไม่ไปเบียดเบียนชีวิตคนอื่น เราถือศีล 5 กินเจ ไม่เคยไปบังคับสามี ถือเป็นรากบุญที่ทำกันมา ส่วนประเด็นเอาเงินไปบริจาคยอมรับตนเอาเงินช่วยสถานธรรมจริง แต่ตามกำลังมีน้อยให้น้อย มีมากให้มาก สถานที่ตนจะไปมี 2 ที่ อยู่ อ.ลำปลายมาศ และ อ.หนองหงส์

นายบุญเรียน กล่าวอีกว่า พอทราบข่าวว่าพี่สาว ก็รู้สึกเสียใจมาก เรื่องบังคับสามีให้กินเจ ก็ไม่เป็นความจริง พี่สาวใส่ร้ายป้ายสี ทั้งที่ช่วยเหลือพี่มาตลอด แม้ตอนสามีตนเองตาย พี่สาวก็พยายามให้ตนเคลียร์บ้านให้สะอาด ยืนยันว่า สามีเสียชีวิตเพราะโรคประจำตัวหลายโรค ไม่ใช่เป็นเพราะกินเจ แต่ยอมรับว่า ตอนสามีเสียชีวิต ตนห้ามไม่ให้พี่น้องเอาเนื้อสัตว์มาเลี้ยงภายในงาน เพราะมีความเห็นไม่ตรงกันจึงเอาศพสามีไปทำที่วัดใน อ.ลำปลายมาศ

ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่สถานธรรมสาขาแม่ที่ อ.ลำปลายมาศ พบเป็นสถานธรรมขนาดค่อนข้างใหญ่ มีพื้นที่อาณาบริเวณสามารถรองรับสมาชิกได้ในระดับหนึ่ง ภายในสถานธรรมมีเครื่องรางตั้งไว้เป็นจุด มีป้ายแจ้งรายนามผู้บริจาคสถานธรรม แต่เจ้าของสถานธรรมยังไม่พร้อมให้ข้อมูล