"ชัชชาติ" เตือน ปชช.ริมเจ้าพระยา ระวังน้ำหนุน 7-9 ต.ค.นี้
"ชัชชาติ" ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ชุมชนวัดเทวราชกุญชร 1 ใน 16 ชุมชน นอกคันกั้นน้ำ "เจ้าพระยา" พร้อมเตรียมหาแนวทางแก้ไข ส่วน 7-9 ต.ค.นี้ ยังต้องเฝ้าระวังน้ำเหนือ-น้ำทะเลหนุน ชี้เจ้าพระยารับน้ำได้ 3,500ลูกบาศก์เมตรต่อวินาทีเท่านั้น
นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายวิศณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯ กทม. ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม ร่วมกับผู้อำนวยการเขตดุสิต ที่บริเวณวัดเทวราชกุญชร ซึ่งเป็นชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ มีบ้านเรือนประชาชนได้รับผลกระทบทั้งหมด 45หลังคาเรือน จากกว่า100หลังคาเรือน ซึ่งประธานชุมชน ได้เรียกร้องให้มีการทำเขื่อนกันน้ำบริเวณนี้
โดย นายชัชชาติ อธิบายว่า น้ำท่วมที่ได้รับผลกระทบจากแม่น้ำเจ้าพระยาในกทม. 3รูปแบบ คือ ชุมชนที่อยู่นอกคันกั้นน้ำ จะมีทั้งหมด 16ชุม ชุมชนวัดเทวราขกุญชรก็เป็นหนึ่งในนั้น
และชุมชนกลุ่มพื้นที่ฟันหลอ ที่มีทั้งหมด24จุด ระยะทางประมาณ 3.2 กิโลเมตร ในจุดที่เขื่อนไม่ต่อเนื่อง ซึ่งจุดที่ฟันหลอก็จะต้องเรียงกระสอบทรายให้มั่นคงและต้องเฝ้าระวังไม่ให้กระสอบทรายพัง
ส่วนรูปแบบที่สามคือ จุดที่น้ำซึม เพราะเป็นเขื่อนเก่า อาจจะทำให้น้ำซึมเข้าบริเวณด้านล่างของเขื่อน ดังนั้นระยะยาวต้องตอกชีสพลายเพื่อลดการรั่ว แต่ปัจจุบัน ต้องเอาเครื่องปั๊มน้ำไปติดตั้งเพื่อสูบออก
หากจุดไหนที่เขื่อนสมบูรณ์แบบก็ไม่มีปัญหาน้ำท่วมเพราะเขื่อนยังอยู่กว่าระดับน้ำเกือบๆเมตร
ทั้งนี้คงต้องรอดูมวลน้ำที่จะเข้ามาเพิ่ม และน้ำทะเลหนุน ซึ่งจะหนุนสูงสุดวันที่ 9 ต.ค. 2565 และมีมวลน้ำจากเขื่อนป่าสัก และ เขื่อนเจ้าพระยา มาเพิ่ม
ทั้งนี้ส่วนตัวอยากให้มวลน้ำมาทางเจ้าพระยามากกว่าไปด้านล่างของ กทม. เพื่อไม่ให้กระทบฝั่งหนองจอก และ มีนบุรี
และ แม่น้ำเจ้าพระยา กทม. ยังสามารถรับน้ำได้ 3,500ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งปี 52 แม่น้ำเจ้าพระยา มีมวลน้ำสูงถึง 4,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และปีนี้สถานการณ์ไม่ได้วิกฤตเหมือนน้ำท่วมใหญ่ปี54 ยังถือว่าห่างกันอีกมาก
ส่วนตัวคิดว่าตอนนี้ยังไม่มีปัญหา เพราะรู้จุดอ่อน เชื่อว่าสามารถผ่านไปได้ อาจจะมีท่วมชุมชนบ้างนิดหน่อยเท่านั้น
ส่วนกรณีที่ชาวบ้านเรียกร้องให้ทำเขื่อนกั้นน้ำนั้น นายชัชชาติ ยอมรับว่าไม่ได้ง่ายๆ ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก ซึ่งอาจจะต้องหาดูวิธีอื่นที่จะช่วยเหลือ
ขณะที่การเฝ้าระวังน้ำ ในวันที่ 7-9 ต.ค.นี้ นายชัชชาติ กล่าวว่า คงต้องเฝ้าระวังน้ำเหนือและน้ำทะเลหนุน เพราะจะมีระดับเตือนล่วงหน้าอยู่แล้ว ว่ามาถึงบางไทรการไหลของน้ำอยู่ที่เท่าไร
ส่วนฝนยอมรับว่าไม่สามารถตอบได้ว่าจะมีหรือไม่มีเพราะโลกเปลี่ยนไปเยอะ แต่ขณะนี้เริ่มมีลมหนาวดันลงมาบ้างแล้ว ถ้าไม่มีฝน ก็ต้องเฝ้าระวังเป็นน้ำเหนือ
นายชัชชาติ ยังบอกอีกว่า ในวันนี้ (6 กันยายน 2565)จะมีการหารือถอดบทเรียน เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับสถานการณ์น้ำท่วมในปีหน้าด้วย ทั้งการเตรียมเครื่องสูบน้ำ จุดลอกคูคลอง และอื่นๆจะต้องเขียนแผนให้ชัด และมองว่าทำให้กทม.ได้มีเวลาเตรียมพร้อมรับมือมากขึ้น
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
Facebook : https://www.facebook.com/komchadluek/