"น้ำเหนือ" เริ่มทรงตัว แนวโน้มลดลง 4 เขื่อนหลัก ลุ่มเจ้าพระยา ลด งด ระบายน้ำ
กรมชลประทาน เผย สถานการณ์ "น้ำเหนือ" เริ่มทรงตัว และมีแนวโน้มลดลง ขณะ 4 เขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยา มีน้ำรวมกัน ร้อยละ 81 ของความจุอ่าง
13 ต.ค.2565 กรมชลประทาน รายงานสถานการณ์ลุ่มน้ำเจ้าพระยาตรวจวัดปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.2 จ.นครสวรรค์ อยู่ที่ 3,059 ลูกบาศก์เมตร (ลบ.ม.)/วินาที ซึ่งจะไหลลงมาสมทบกับแม่น้ำสะแกกรังอีก 334 ลบ.ม./วินาที ก่อนไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยา เพื่อรักษาเสถียรภาพความมั่นคงของบานระบายน้ำและตัวเขื่อน
ประกอบกับระดับน้ำเหนือเขื่อนขณะนี้อยู่ที่ +17.71 เมตร จากระดับทะเลปานกลาง (ม.รทก) สูงกว่าระดับเก็บกัก 1.21 เมตร (+16.50 ม.รทก.) ส่งผลให้ปริมาณน้ำไหลผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 3,169 ลบ.ม./ต่อวินาที ขณะที่ปริมาณน้ำไหลผ่านสถานีวัดน้ำ C.29A อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา เฉลี่ยอยู่ที่ 3,100 ลบ.ม./วินาที
สำหรับสถานการณ์น้ำ 4 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยา ปัจจุบัน (13 ตุลาคม 2565) มีปริมาณน้ำรวมกัน 20,094 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 81 ของความจุอ่างฯ รวมกัน
ทั้งนี้ เขื่อนภูมิพล จ.ตาก งดการระบายน้ำตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อบรรเทาผลกระทบพื้นที่ด้านท้ายน้ำ
ด้านเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ ปรับการระบายขึ้นมาเล็กน้อย 30 ลบ.ม./วินาที จากเดิมที่งดการระบายน้ำในช่วงเดียวกัน
ส่วนอีก 2 เขื่อนหลักลุ่มน้ำเจ้าพระยาที่มีน้ำเกินความจุอ่างฯ ได้แก่ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน จ.พิษณุโลก มีปริมาณน้ำ 952 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 101 ของความจุอ่างฯ ยังคงอัตราการระบายน้ำเท่าเดิมกับวานนี้ 150 ลบ.ม./วินาที
และที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.ลพบุรี มีปริมาณน้ำ 1,052 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็นร้อยละ 110 ของความจุอ่างฯ วันนี้ลดการระบายน้ำจากวานนี้ในอัตรา 820 ลบ.ม./วินาที
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ปรับการรับน้ำเข้าระบบชลประทานทั้ง 2 ฝั่งสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับติดตั้งเครื่องจักร เครื่องมือ เสริมศักยภาพในการเร่งระบายน้ำลงสู่ทะเล บรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนให้มากที่สุด
คมชัดลึก ยังมีเนื้อหาสาระอื่นๆ ดูเพิ่มเติมได้ที่
Website - www.komchadluek.net
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057