"วัคซีนโควิด" Bivalent ลดป่วยหนัก ? เปิดข้อมูล วัคซีนรุ่น 2 กับสายพันธุ์ใหม่ | คมชัดลึก

อัปเดตสถานการณ์การแพร่ระบาดของ โควิด19 โดยเมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 391,058 คน ตายเพิ่ม 911 คน รวมแล้วติดไป 656,864,576 คน เสียชีวิตรวม 6,669,350 คน 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ฝรั่งเศส สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย

 

 

โดย "หมอธีระ" รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก Thira Woratanarat ได้เปิดเผยข้อมูลของ "วัคซีนโควิด" รุ่น 2 Bivalent vaccines ว่า มีประสิทธิภาพในการช่วยลดเสี่ยงป่วยนอนโรงพยาบาลได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสูงอายุ

 

อัพเดตสถานการณ์ระบาดในอเมริกา

 

การระบาด โควิด19 ที่อเมริกาล่าสุด โอไมครอน BQ.1.x ได้ครองสัดส่วนการระบาดสูงสุดถึงเกือบ 70% แล้ว ในขณะที่ BA.5 มีอยู่ 10% และ XBB ยังมีสัดส่วนไม่มาก 7.2% แนวโน้มการระบาดแบบ Variant soup หรือที่เข้าใจกันได้ว่าเป็นการระบาดแบบสายพันธุ์หลากหลายของทั่วโลกนั้น ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมจากระลอกก่อนๆ ในรอบสองปีที่ผ่านมา

 

อย่างไรก็ตาม สังเกตเห็นได้ชัดเจนว่า ไม่ว่าจะ BQ.1.x กับ BA.5 ที่กลายพันธุ์เพิ่มหลายตำแหน่ง ที่กำลังระบาดมากในยุโรปและอเมริกา, XBB ในเอเชีย, และแม้แต่ BA.2.75.x ในไทยก็ตาม ล้วนเป็นสายพันธุ์ที่ชูธงเรื่องสมรรถนะของไวรัสที่ดื้อต่อภูมิคุ้มกันมากกว่าเดิม

 

 

อัพเดต "วัคซีนโควิด" "Bivalent vaccines"

 

"Bivalent vaccines ช่วยลดเสี่ยงป่วยนอนโรงพยาบาลได้มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มสูงอายุ"

 

งานวิจัยล่าสุดจากสหรัฐอเมริกา เผยแพร่ในวารสารทางการแพทย์และสาธารณสุข MMWR เมื่อวานนี้ 16 ธันวาคม 2565 ชี้ให้เห็นว่า กลุ่มที่ได้รับ วัคซีนชนิด Bivalent จะช่วยป้องกันการป่วยนอนโรงพยาบาลได้มากกว่ากลุ่มที่ได้รับ "วัคซีนโควิด" ชนิดดั้งเดิม (Monovalent vaccine) โดยในกลุ่มสูงอายุตั้งแต่ 65 ปีขึ้นไป พบว่าช่วยลดความเสี่ยงป่วยนอนโรงพยาบาลได้ถึง 84% เมื่อเทียบกับการไม่ได้ฉีดวัคซีน และกว่า 70-80% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่เคยได้วัคซีนชนิดดั้งเดิมมาก่อนอย่างน้อย 2 เข็ม

 

ทั้งนี้หากเป็นกลุ่มที่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ผลในการลดความเสี่ยงป่วยนอนโรงพยาบาลจะอยู่ประมาณ 57% เมื่อเทียบกับการไม่ได้ฉีดวัคซีน และ 38 - 45% เมื่อเทียบกับกลุ่มที่เคยได้วัคซีนชนิดดั้งเดิมมาก่อนอย่างน้อย 2 เข็ม

 

 

สำหรับไทยเรานั้น ให้เน้นย้ำการใช้ชีวิตอย่างมีสติ ไม่ประมาท ป้องกันตัวอย่างสม่ำเสมอ เพราะสถานการณ์ปัจจุบันยังมีการติดเชื้อแพร่เชื้อจำนวนมาก การฉลองคริสตมาสและปีใหม่ พักผ่อนอยู่กับสมาชิกในครอบครัว เป็นทางเลือกที่ดีและเหมาะสมกับสถานการณ์มากกว่าการไปตะลอนท่องเที่ยวและพักแรมในที่ที่คนจำนวนมาก One-day trip เป็นแนวคิดที่ดี โดยจัดแพลนที่ยืดหยุ่น หาทางเลือกเผื่อสำหรับร้านอาหาร ที่ท่องเที่ยว ที่เน้นโปร่งโล่งแจ้ง ไม่แออัด 

 

การไปรับ วัคซีนเข็มกระตุ้น ให้ครบตามกำหนด จะช่วยลดเสี่ยงป่วยรุนแรง เสียชีวิต และ Long COVID หัวใจสำคัญมากคือ การใส่หน้ากากอย่างถูกต้อง ระหว่างออกไปใช้ชีวิตประจำวันหรือท่องเที่ยว จะช่วยลดความเสี่ยงลงไปได้มาก

 

 

 

"วัคซีนโควิด" รุ่นใหม่ Bivalent ไม่มีผลต่อ BA.2.75.2  BQ.1  XBB.1

 

ด้าน "หมอดื้อ" ศ.นพ. ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา ผู้อำนวยการศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพโรคอุบัติใหม่ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก ธีระวัฒน์ เหมะจุฑา Thiravat Hemachudha เปิดเผยว่า US CDC ประกาศ ประสิทธิภาพ ในการใช้จริงครั้งแรก (real world effectiveness data) ของวัคซีนรุ่นใหม่ Bivalent mRNA ระหว่าง 14 กันยายนถึง 11 พฤศจิกายน 2022 และรายงานจากวารสาร Nature Medicine 6 ธันวาคม 2022 และ ใน Lancet Infectious Disease และ Lancet Microbe ธันวาคม 2022 ว่า ภูมิคุ้มกันแอนติบอดีในเลือด ไม่มีผลต่อ BA.2.75.2  BQ.1  XBB.1 และสายย่อยอื่นๆ กันติดไม่ได้

 

โดยก่อนหน้านี้ CDC และ FDA ประกาศแล้วว่าแอนตี้บอดี้ที่ใช้ในการรักษาและป้องกัน รวม evusheld ใช้ไม่ได้กับสายพันธุ์ย่อยใหม่เหล่านี้ ที่เข้ามาแทนที่ตัวเก่าแต่ทุกคนยังหวังว่ามีผลในการลดอาการหนักและการเสียชีวิต 

 

ดังนั้น "วัคซีนโควิด" ไม่ใช่คำตอบเดียว เตรียมตัวตามสถานการณ์ ติด ฟ้าทะลายโจร ไว้กับตัว มีอาการเริ่มใช้เลย ใช้ช้าไป ไม่ได้ผลดี ใช้เป็นรักษา ไม่ใช่ป้องกัน

 

 

อ้างอิง

Surie D et al. Early Estimates of Bivalent mRNA Vaccine Effectiveness in Preventing COVID-19–Associated Hospitalization Among Immunocompetent Adults Aged ≥65 Years — IVY Network, 18 States, September 8–November 30, 2022. MMWR Morb Mortal Wkly Rep. ePub: 16 December 2022.