"ชัยวัฒน์" ให้ปากคำ "อธิบดีกรมอุทยานฯ" รับสินบน ไม่สน รุ่นพี่-รุ่นน้อง
"ชัยวัฒน์" ให้ปากคำพนักงานสอบสวน คดี "อธิบดีกรมอุทยานฯ" เรียกรับสินบน เชื่อ ทุจริตจริง ไม่มีใครกลั่นแกล้ง ไม่สน รุ่นพี่-รุ่นน้อง ยึดพิทักษ์ป่าเป็นหลัก
ภายหลังตำรวจ ปปป. เข้าจับกุม นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ดำเนินคดีทุจริตเรียกรับสินบน โยกย้ายตำแหน่งเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัด ตำรวจได้ทำการออกหมายเรียกเชิญพยานบุคคลมาสอบปากคำ ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานในสังกัดกรมอุทยาน และหนึ่งในพยานบุคคลที่เชิญมาในวันนี้คือ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 จังหวัดอุบลราชธานี
ล่าสุด เมื่อเวลา 10.00 น. นายชัยวัฒน์ ได้เดินทางเข้าให้ปากคำในฐานะพยานปากสำคัญในคดี กับทางพนักงานสอบสวน พร้อมกับเปิดเผยว่า ได้นำเอกสารและข้อมูล ไปให้ปากคำกับกรรมการของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน ปปป.
ซึ่งหลักฐานตรงนี้ เราเชื่อมั่นกระบวนการ ซึ่งทาง ปปป. กับ ป.ป.ช. ได้เข้าไปตรวจค้น และถ่ายคลิปอย่างละเอียด ทั้งหมดประมาณ 4 ตัว ที่สำคัญได้มีการปล่อยคลิปออกมาให้สังคมได้รับรู้ทุกขั้นตอน เป็นไปตามระเบียบและกฎหมาย
“ผมจึงเชื่อมั่นว่ามีการทุจริตจริง และไม่มีใครไปกลั่นแกล้ง วันนี้ผมมีหลักฐานในส่วนที่เป็นรายละเอียดกับคำร้องเรียนเดิมที่มีอยู่ วันนี้จะมาขยายผลให้เห็น คำถามหนึ่งที่ ปปป.จะสอบประเด็นในชุดเงินที่เป็นซอง ๆ อยู่ มีใครและอยู่ส่วนไหนบ้าง อะไรที่ผมรู้ ผมก็จะขยายให้ ผมมั่นใจกับกระบวนการสอบสวน และจะเดินให้สุดทางแค่ไหน เชื่อมั่นในคลิปวิดีโอว่าชัดเจน หากจะล้มคดี หรือปิดบังคดี ผมคิดว่าท่านไม่ปล่อย เพราะทุกคนในสังคมเห็นหมดแล้ว”
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า การเรียกรับเงิน ตนทราบชัดเจนหลังจากเข้ามาทำงานแล้วว่า มีการเรียกรับเงินอย่างไร จะจ่ายเงินอย่างไร ทั้งเรื่องการจ่ายรายเดือน และเก็บเปอร์เซ็นต์ จ่ายเท่าไหร่ นอกจากนั้น ยังเคยเข้าไปพูดคุยกับอธิบดีกรมอุทยานฯมาแล้ว ซึ่งเป็นเหตุผลหนึ่งที่อยากให้ทุกคนรับรู้ว่า ไม่มีการกลั่นแกล้งแน่นอน
นายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ช่วงประมาณปลายเดือนตุลาคม ได้มีการเข้าไปพูดคุยกับอธิบดีกรมอุทยานฯ หลังจากที่ได้กลับไปรับราชการในวันที่ 3 ตุลาคม ซึ่งเดือนตุลาคมทั้งเดือน ได้ช่วยน้ำท่วมอยู่ที่อุบลราชธานีกับศรีสะเกษ ก็เจอปัญหากับเจ้าหน้าที่ของเรา และมารับรู้ว่า เจ้าหน้าที่ต้องไปกู้และจำนำรถ เพื่อนำเงินมาจ่ายในระบบ เดือนกันยายนโดนไปแล้ว 1 รอบ และจะต้องมาจ่ายรายเดือนอีก
“ผมจึงเข้าไปพูดคุยกับอธิบดี ผ่านหน้าห้องก็คุยกับเขาเรื่องนี้ก่อน แล้วจึงเข้าไปคุยกับอธิบดีโดยตรงว่าไม่ไหวหรอกเรื่องแบบนี้ ถ้าเก็บแบบนี้เขาจะทำงานอย่างไร เมื่อก่อนไม่มีการเก็บแบบนี้ พูดคุยแล้วแต่เขาไม่ยอม ยังยืนยันให้มีการจ่าย ผมจึงนำข้อมูลส่งให้เจ้าหน้าที่นำไปสู่กระบวนการจับกุมในวันที่ 27 ธันวาคม”
ส่วนประเด็นที่ว่า นายชัยวัฒน์ และนายรัชฎา เป็นรุ่นพี่รุ่นน้องในมหาวิทยาลัยเดียวกัน นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ตนไม่ได้สนใจว่าจะจบจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน หรือเป็นนาย แต่ถ้าใครทำผิดก็ต้องรับผิด ตนยึดการพิทักษ์ป่าเป็นหลัก
ทั้งนี้ นายคณนาถ คะชะนา ตัวแทนสหพันธ์ปลัดอำเภอแห่งประเทศไทย (ส.ปอ.ท.) ได้นำช่อดอกไม้ มามอบเป็นกำลังใจให้กับนายชัยวัฒน์ที่ต่อต้านกับการทุจริตคอรัปชั่นในภาครัฐด้วย