ข่าว

ผลสอบ "อธิบดีกรมอุทยานฯ" เรียกรับเงิน จริง ตั้งสอบวินัยร้ายแรง 30 วัน

ผลสอบ "อธิบดีกรมอุทยานฯ" เรียกรับเงิน จริง ตั้งสอบวินัยร้ายแรง 30 วัน

05 ม.ค. 2566

ผลสอบ "อธิบดีกรมอุทยานฯ" เรียกรับเงิน จริง กระทรวงทรัพยากรฯ ตั้งคณะกรรมการสอบวินัยร้ายแรง มีกรอบเวลา 30 วัน โทษสูงสุด ไล่ออก

(5 ม.ค.2565) นายกุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง แถลงความคืบหน้าการสอบสวน นายรัชฎา สุริยกุล ณ อยุธยา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรณีข้อกล่าวหา เรียกรับผลประโยชน์จากข้าราชการหน่วยงานในสังกัดกรมอุทยานแห่งชาติฯ ว่า คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ได้เชิญทั้ง อธิบดีกรมอุทยานฯ ในฐานะผู้ถูกร้อง และนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ในฐานะผู้ร้อง มาสอบถามข้อเท็จจริงเสร็จเรียบร้อยแล้ว 

 

นอกจากนี้ ยังพิจารณาข้อมูลการจับกุมของตำรวจในบางส่วน ก่อนสรุปรายงาน และส่งให้ นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รับทราบ ทั้งนี้ จากการสอบสวนเบื้องต้นพบว่า มีมูลความผิดทางวินัย ในการเรียกรับเงินจริง ส่วนรายละเอียดในการสอบสวนคงไม่สามารถให้ข้อมูลได้ 

โดยนายรัชฎาปฏิเสธข้อกล่าวหาทั้งหมด และจะนำเอกสารอธิบายข้อกล่าวหา ซึ่งจะต้องมายื่นให้คณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง ภายในวันที่ 10 ม.ค.นี้ โดยนายจตุพร ได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวยวินัยร้ายแรงนายรัชฎา ถือว่าเป็นกระบวนการทำงานตามระเบียบข้าราชการพลเรือน 

 

อย่างไรก็ตาม ตนยังไม่เห็นคำสั่งดังกล่าว จึงไม่ทราบว่าใครเป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย โดยปกติระยะเวลาในการดำเนินการ จะใช้เวลาประมาณ 30 วัน แต่เนื่องจากมีผู้เกี่ยวข้องจำนวนมาก จึงอาจขยายระยะเวลาได้ และเมื่อผลสอบออกแล้วผู้ถูกร้อง สามารถยื่นอุทธรณ์ได้ใน 90 วัน 

 

ส่วนการพบเงินหลักล้านในห้องทำงาน ถือว่าเป็นเรื่องปกติหรือไม่นั้น รองปลัดกระทรวงทรัพย์ฯ กล่าวว่า ถ้าระดับอธิบดีก็ไม่น่าเป็นไปได้ แต่ถ้าเป็นเรื่องจริงก็ต้องดูเหตุผล และเป็นหน้าที่ของอธิบดีกรมอุทยานฯ ต้องตอบให้ได้ว่า ทำไมจึงมีเงินสดอยู่ในห้องทำงานจำนวนมาก เพราะปัจจุบันการใช้เงิน สามารถใช้บัตรอิเล็กทรอนิกส์ในการใช้จ่ายได้อยู่แล้ว 

กุศล โชติรัตน์ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

เมื่อถามว่าจะมีผู้เกี่ยวข้องที่เหนือกว่านายรัชฏาหรือไม่นั้น นายกุศล กล่าวว่า จะทราบก็ต่อเมื่อ ได้มีการดำเนินคดีทางอาญา เมื่อถึงวันนั้นคงจะทราบตัวผู้เกี่ยวข้องจากกระบวนการยุติธรรม ซึ่งไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของกระทรวงทรัพยากรฯ เพราะมีหน้าที่สอบสวนข้อเท็จจริง และลงโทษทางวินัยเท่านั้น ส่วนคดีอาญาเป็นเรื่องของศาล เป็นเรื่องของ ป.ป.ช.ที่จะส่งเรื่องให้ศาลพิจารณาต่อไป ทั้งนี้ โทษวินัยมีตั้งแต่ภาคทัณฑ์ จนถึงไล่ออก

 

ส่วนข้อมูลของอธิบดีที่ให้กับคณะกรรมการจะตรงกับหัวหน้าหน่วยงานที่มีชื่อบนซอง ให้ข้อมูลกับ กองบัญชาการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) หรือไม่ รองปลัดฯ กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ เพราะทางกระทรวงยังไม่ได้รับข้อมูลจาก ปปป. และทาง ปปป.ก็ยังต้องปกปิดข้อมูลไว้ก่อน เนื่องจากบางเรื่องข้อมูลไม่ได้ เพราะอยู่ในสำนวนการดำเนินคดี

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายจตุพรได้ลงนามแต่งตั้ง นายเถลิงศักดิ์ เพ็ชรสุวรรณ รองปลัดกระทรวงทรัพยากรฯ เป็นประธานคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงนายรัชฎา ก่อนเดินทางไปปฏิบัติภารกิจยังต่างประเทศ