ชาวบ้านยังอึ้ง อดีตพระดังสึก วัดหางน้ำ ปมฉันบวบ | คมชัดลึก

ความคืบหน้าของกรณี สังคมโซเชียลแชร์ภาพอนาจารของอดีตพระระดับเจ้าอาวาสวัดดัง อ.ท่าตะโก  จ.นครสวรรค์ จนต้องทำการยอมรับผิดต่อคณะสงฆ์ และลาสิกขาไปแล้ว

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่ ต.ดอนคา อ.ท่าตะโก จ.นครสวรรค์ เพื่อสอบถามความรู้สึกของชาวบ้าน หลังจากที่อดีตพระชื่อดัง สึกจากการเป็นพระไปแล้ว โดยได้พบกับ "ป้าดำเนิน" (นามสมมุติ) กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ตั้งแต่ทราบข่าวเมื่อวานนี้ (29ม.ค.) ว่ามีพฤติกรรมตามที่ถูกแฉออกมาจริง จึงทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ ต่างรู้สึกช็อกไปตามๆ กัน เพราะภาพที่เห็นหลักฐานมัดตัวแน่ จนต้องถูกจับสึก 

ส่วนตัวแล้ว ก็รู้สึกอึ้งไปเหมือนกัน และไม่คิดไม่ฝันว่า ท่านจะมีพฤติกรรมแบบนี้ เพราะที่ผ่านมา ถือว่าอดีตเจ้าอาวาสเป็นพระปฏิบัติธรรม ปฏิบัติดีมาตลอด เงินของวัดที่ญาติโยม นำมาทำบุญ ท่านก็ไม่เคยจับ และไม่เคยเข้าไปยุ่งเกี่ยวข้อง อีกทั้ง ท่านยังช่วยพัฒนาวัดหางน้ำให้มีความเจริญมากยิ่งขึ้น

อดีตพระรูปดังกล่าวยังได้หาเงินมาจัดสร้างพระอุโบสถของวัดใหม่ และกำลังใกล้จะสร้างเสร็จแล้ว แต่ก็มาเกิดเรื่อง จนโดนจับสึกเสียก่อน จึงรู้สึกเสียใจอย่างมาก

เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า หากท่านจะกลับมาเป็นฆาราวาส หลังจากนี้ จะได้หรือไม่ ป้าดำเนิน บอกว่า ไม่มีปัญหา เพราะชาวบ้านที่นี่หลายราย ต่างก็เปิดใจยอมรับให้กลับมาได้ เนื่องจากที่ผ่านมา ท่านดีกับชาวบ้านที่นี่จริงๆ 

ทั้งนี้ ในส่วนของบรรยากาศภายในวัดหางน้ำ พบว่า มีเจ้าคณะอำเภอ พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักพุทธศาสนา เดินทางมาตรวจสอบทรัพย์สินของวัด ส่วนที่กุฏิของอดีตเจ้าอาวาส ก็ยังไม่พบว่ามีความเคลื่อนไหว หรือขนย้ายข้าวออกจากห้องแต่อย่างใด

นอกจากนี้มีรายงานเพิ่มเติม ย้อนเหตุการณ์วันสึกอดีตพระดังว่า อดีตเจ้าอาวาสวัดหางน้ำ ถูกคณะสงฆ์จังหวัดนครสวรรค์ ได้เรียกเข้ามาที่วัดนครสวรรค์ พระอารามหลวง ซึ่งมีพระเทพปริยัติเมธี เป็นเจ้าอาวาสและเจ้าคณะจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงทั้งหมดจาก เมื่อหลักฐานปรากฏชัดเจนก็ลาสิขาโดยดี และเมื่อลาสิขาก็ขอไปอยู่นอกพื้นที่ ปล่อยให้คณะกรรมการวัด คณะสงฆ์บริหารจัดการวัดหางน้ำต่อไป

สำหรับการดำเนินการก่อสร้างต่าง ๆภายในวัดหางน้ำนั้น คณะกรรมการของวัด และคณะสงฆ์ ก็จะดำเนินการสร้าง และฝังลูกนิมิตพระอุโบสถต่อไป เพราะอดีตเจ้าอาวาส หาเงินไว้พร้อมทุกอย่างแล้ว โดยสามารถดำเนินการต่อ หรือจัดสร้างได้ทันที  และไม่มีปัญหาเรื่องเงิน หรือทรัพย์สิน ภายในวัดแต่อย่างใด ซึ่งทางคณะสงฆ์สามารถดำเนินงานต่อไปได้ 

อย่างไรก็ดี ยังมีข้อมูลเพิ่มเติมที่น่าสนใจ จากแหล่งข่าวในวงการพระสงฆ์ บอกว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือว่าเป็นขบวนการสกัดดาวรุ่ง ในวงการพระสงฆ์ เนื่องจากในวงการพระสงฆ์ จะรู้หรือทราบกันดีว่า  พระรูปใด พระวัดใด มีนิสัยอย่างไร ซึ่งส่วนใหญ่วงการพระสงฆ์ จะทราบกันดี และหากพระรูปใด ชอบผู้หญิง ก็จะมีการจัดฉาก หรือเป็นยุทธการ"นารีพิฆาต" หากพระรูปใดชอบบวบ หรือชอบตอกเสาเข็ม นั่งเทียน  ก็จะจัดถวาย"เก้ง" หรือ "กวาง" ให้ จนนำมาสู่การจับสึกพระสงฆ์ ที่กำลังเป็นดาวรุ่ง 

 ที่ผ่านมา ประชาชนในพื้นที่ มักทราบกันดีว่า อดีตเจ้าอาวาสคนนี้ เป็นพระนักพัฒนา  ชาวบ้านศรัทรากันมาก แต่ก่อนที่จะเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้  จากการตรวจสอบพบว่า อดีตเจ้าอาวาส ได้ไปขัดแย้งกับเซียนพระชื่อดังรายหนึ่ง ซึ่งใกล้ชิดกับพระเกจิชื่อดังแห่งเมืองปากน้ำโพ  ในขณะนั้น อดีตเจ้าอาวาส ถือว่าเป็นพระที่ใกล้ชิดกับพระเกจิชื่อดังองค์นี้ มากที่สุด 
 
กระทั่งต่อมา ได้ถูกเซียนพระให้ร้าย เนื่องจากไปขัดผลประโยชน์ เกี่ยวกับการสร้างพระ จนทำให้ อดีตพระมหานพพล ต้องกระเด็นออกมาจากวัดชื่อดังใน จ.นครสวรรค์  

อย่างไรก็ตาม อดีตเจ้าอาวาส ถือว่าเป็นพระดาวรุ่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ อ.ท่าตะโก เนื่องจากเป็นพระนักพัฒนา และชาวบ้าน คหบดี หรือเจ้าของกิจการทั่วไป ต่างให้ความเคารพและนับถือ  กระทั่งต่อมา เมื่อความลับของ อดีตเจ้าอาวาสในเรื่องความชอบในรสนิยมเดียวกัน หลุดไปถึงกลุ่มบุคคลฝ่ายตรงข้าม จึงทำให้มีการจัดส่ง หรือมีการเสนอตัว เพื่อเข้ามารับใช้ และเมื่ออดีตเจ้าอาวาส ตกหลุมพรางที่จัดฉากเอาไว้ จึงทำให้มีการบันทึกภาพ เพื่อแบล็คเมล และถูกนำภาพออกมาแฉในที่สุด