หยุดคนไทยติด การพนัน รัฐควรเอื้อให้เข้าถึงการลงทุน ก่อนติดหล่มฉุดไม่ขึ้น | คมชัดลึก

การพนันไม่เคยทำให้รวย แต่คนไทยก็ยังเล่น "การพนัน" ไม่หยุด เพราะด้วยความหวังที่ว่าอาจจะมีสักครั้งเกิดฟลุกขึ้นมาได้เป็นเศรษฐีแบบชั่วข้ามคืน เชื่อว่าหลายคนคงเคยมีความคิดแบบนี้แว๊บมาในหัวสักครั้ง แต่รู้หรือไม่ว่า 100% ของคนที่ เล่นการพนัน ไม่มีใครรวยได้ในชั่วข้ามคืนสักคน

 

 

แต่ที่สร้างความน่าตกใจไปกว่านั้นเมื่อมองย้อนกลับมาที่นโยบายรัฐก็ไม่ได้เอื้อให้ประชาชนมีช่องทางการออม หรือการสะสมเงินที่มากพอจนสามารถเบี่ยงเบนความสนใจของคนไทยให้หันมาลงทุนได้ จึงไม่แปลกนักที่แต่ละปีจะมีนักพนันหน้าใหม่เข้ามาในระบบมากถึง 800,000 ราย 
 

 

 

• คนไทยตัด "การพนัน" มากถึง 32 ล้านคน นักเล่นหน้าใหม่พุ่งสูง 

 

โดย ดร.นณริฏ พิศลยบุตร สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) ให้สัมภาษณ์กับ คมชัดลึกออนไลน์ ว่าไม่ใช่เรื่องแปลกหรือเรื่องใหม่ที่คนไทยติด "การพนัน" เพราะร่องรอยในอดีตบอกว่าคนไทยเล่นการพนันมานานแล้วตั้งแต่สมัยพระนารายณ์ คนไทยในสมัยก่อนติดการพนันจนเอาลูก เอาเมียไปชดใช้แทนเงิน ดังนั้นการพนันจึงอยู่ในสายเลือดคนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว  จากข้อมูลการวิจัยที่ได้ทำการสำรวจพบว่า ปัจจุบัน คนไทย เล่นการพนัน 59.6% หรือประมาณ 32 ล้านคน ในแต่ละปีมีนักพนันหน้าใหม่ประมาณ 8 แสนคน การเติบโตของนักพนันเกิดขึ้นมากในกลุ่มการพนันออนไลน์ เนื่องจากมีความง่าย สะดวก เล่นได้ทุกที่ เฉพาะในระบบ พนันออนไลน์ มีเงินหมุนเวียนมากว่า 100,000 ล้านบาท  มีนักพนันราว 2,000,000 คน 

 

• นโยบายรัฐซ้ำเติมให้คนไทยหันพึ่ง "การพนัน" มากขึ้นหรือไม่ 

 

ดร.นณริฏ ระบุว่า  ตัวเลขข้างต้นแสดงให้เห็นว่านโยบายของภาครัฐไม่ได้สนับสนุนให้คนในชาติรู้จักวิธีการเก็บเงิน หรือการนำเงินไปลงทุยที่ดีพอ ปัจุบันแม้ว่ารัฐบาลจะออกนโยบายการออมแห่งชาติ แต่หากมองดี ๆ เราพบว่ารัฐบาลก็มีการออกสลาก หรือ ลอตเตอรี่ ที่สามารถซื้อขายได้ง่ายมากขึ้นผ่านออนไลน์  รวมทั้งในอนาคตจะมีนโยบายขายเลขท้าย 2 ตัว 3 ตัวเองด้วย เหล่านี้ถือว่าเป็นการมอมเมา และผลักให้คนไทยติดหล่มการพนันมากยิ่งขึ้น 

 

 

นอกจากนโยบายรัฐที่สนับสนุนให้คนหันมาซื้อหวยหรือ ลอตเตอรี่ เพิ่มมากขึ้นแล้ว ยังมีเว็บการพนันออนไลน์ที่ดูเหมือนจะจับทางได้ว่าคนไทยเป็นอีกชาติที่ชอบเล่นการพนัน ส่งผลให้ปัจจุบันเว็บพนันผุดขึ้นมามากมายเพื่อตอบสนองความต้องการ แต่ที่น่าวังกลมากกว่าคือ การที่เทคโนโลยีก้าวหน้า คนเข้าถึงอินเตอร์เน็ตได้ง่ายขึ้นกลายเป็นทางที่จะทำให้เด็กที่ยังไม่บรรลุนิติภาวะสามารถเข้าถึงการพนันได้ง่ายขึ้น และมากขึ้นเช่นกัน  อีกทั้งเว็บพนันยังมีกิมมิคจูงใจมากมายที่ทำให้หันมาเล่น "การพนัน"

 

• จับตา คาสิโนเสรี ดีไซด์ไม่ดีผลักคนไทยตกหลุม "การพนัน" 

 

ดร.นณริฏ กล่าวต่อว่า การเปิด คาสิโน ในต่างประเทศมีมากมายแต่กลับพบว่าประชาชนไม่ได้ลุ่มหลงการพนัน แต่ คาสิโน กลับสร้างงานสร้างอาชีพได้อย่างมหาศาล นั้นแสดงให้เห็นว่าการเปิดบ่อนการพนันเสรีในต่างประเทศถูกออกแบบมาได้ดีมาก มีการออกกฎและออกแบบ เพื่อป้องกันไม่ให้คนในประเทศเข้ามาเล่นการพนัน เช่น มาเก๊า จะมีกลไกการขึ้นแบล็คลิสต์ โดยคนใกล้ตัวสามารถมาแจ้งได้กับบ่อนได้โดยตรง เพื่อขึ้นบัญชีดำห้ามเข้าบ่อน  ดังนั้นการเปิดคาสิโนเสรี ในประเทศไทยจะเป็นอย่างไรจึงขึ้นอยู่กับออกแบบของผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการดูแลกลุ่มเสี่ยงที่อยู่ในพื้นที่ที่จะมีการเปิด คาสิโนเสรี 

 

• แนะรัฐสร้างความเท่าเทียมให้คนไทย ดีกว่าหันพึ่ง "การพนัน"

 

ดร.นณริฏ  กล่าวต่อไปว่า ในต่างประเทศมีการส่งเสริมให้ประชาชนออมเงินผ่านตลาดทุนที่เป็นระบบ เปิดโอกาสให้ประชาชนทุกชนชั้นเข้าถึงตลาดทุนได้อย่างเท่าเทียมกัน พร้อมกับให้ความรู้ประชาชนในด้านการออม การลงทุน อย่างจริงจัง แต่ในทางตรงกันข้ามประเทศไทยไม่ได้เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้าถึง การลุงทน มากพอ และการลงทุนของไทยจำกัดเฉพาะนักลงทุนรายใหญ่เท่านั้น ดังนั้นรายเล็ก ๆ หรือประชาชนทั่วไปจึงหันไปลงทุนกัยหวย กับลอตเตอรี่เป็นจำนวนมาก ฉะนั้นหากจะส่งเสริมให้คนไทยรักการออมเพื่ออนาคต รัฐควรจะเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้เข้าถึงการซื้อพันบัตรรัฐบาล การซื้อตราสารหนี้ ในอัตราที่ถูกประชาชนเข้าถึงได้ง่าย โดยอาจจะแยกขายเป็นลอตเล็ก ๆ ไปก่อน หรือเพิ่มช่องทางให้มันเข้าถึงง่าย เช่นการขายผ่านแอปพลิเคชัน กองทุนรวมของธนาคาร 

 

สำคัญไปกว่านั้นคือรัฐจะต้องส่งเสริมและให้ความรู้ด้านการลงทุนอย่างถูกต้อง และควรจะเปิดกว้างให้คนเล็ก ๆเข้าถึงตลาดทุน และมีความรู้เท่ากันเพื่อสร้างความเท่าเทียมในการเก็บออมเงิน หรือนำเงินมาลงทุน อีกทั้งจะต้องชี้ให้ประชาชนเห็นว่า การลงทุน เป็นการการเก็บเงินระยะยาวแม้จะได้ผลตอบแทนที่ช้าแต่ชัวร์มากกว่าการเอาเงินไปลงกับการพนันแน่นอน

 

"ปัจจุบันนโยบายของรัฐบาลจูงใจประชาชนผิดวิธีอยู่ ซึ่งหนทางนี้เป็นหนทางที่จะสร้างผลกระทบระยะยาวต่อชีวิตของคนไทยอย่างมาก โดยเฉพาะในช่วงเกษียณอายุ เพราะจากข้อมูลพบว่า คนไทยราว 60-80 คนมีเงินไม่พร้อมสำหรับการเกษียณอายุซึ่งถือว่าเป็นความเสี่ยงทางสังคมอย่างมาก"  ดร.นณริฏ กล่าวทิ้งท้าย