ข่าว

สรุปสาเหตุ "ปลาตายเกยหาดบางแสน" หนักกว่า 8,000 กก. ที่แท้เพราะเรืออวนแตก

สรุปสาเหตุ "ปลาตายเกยหาดบางแสน" หนักกว่า 8,000 กก. ที่แท้เพราะเรืออวนแตก

13 มี.ค. 2566

สรุปสาเหตุ "ปลาตายเกยหาดบางแสน" น้ำหนัก 8,000 กิโลกรัมส่งกลิ่นเหม็นทั่วหาด ที่แท้เพราะเรืออวนแตก เทศบาลแสนสุขเก็บซากเรียบร้อย

จากที่นักท่องเที่ยวโพสต์โซเชียล ตกใจปลาเกยตื้นตายเกลื่อนชายหาดบางแสน ระยะทางยาวกว่า 2.3 กม. บริเวณ ชายหาดบางแสน ตำบลแสนสุข อำเภอเมืองชลบุรี จังหวัดชลบุรี ซึ่งสร้างความสงสัยอย่างมากว่าเป็นเพราะอะไร เกิดจากความเปลี่ยนแปลงของกระแสน้ำทะเลในช่วงเปลี่ยนฤดูหรือไม่ นอกจากนี้ยังการตั้งข้อสงสัยอีกว่า คลิป "ปลาตายเกยหาดบางแสน" เกิดขึ้นเพราะปัญหาน้ำเสียหรือเปล่า

 

 

เกี่ยวกับกรณีดังกล่าว กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ได้เข้าไปตรวจสอบหาสาเหตุต้นตอ "ปลาตายเกยหาดบางแสน" ซึ่งพบสาเหตุการตายของปลาที่ถูกน้ำทะเลซัดขึ้นมาเกยหาดบางแสน  ปลาที่ตายเป็นปลาชนิดเดียวกันคือ ปลาตะเพียนน้ำเค็ม ชื่อวิทยาศาสตร์คือ Anodontostoma chacunda มีชื่อเรียกอีกว่า ปลาโคกหรือปลามักคา เป็นปลาน้ำเค็มและน้ำกร่อยชนิดหนึ่ง ในวงศ์ปลาหลังเขียว 

ขอบคุณภาพจากTiktok@kuunnop

 

โดย "ปลาตายเกยหาดบางแสน" มีขนาดใกล้เคียงกันทั้งหมด ยาวประมาณ 20 เซนติเมตร จึงตรวจสอบข้อมูลจากเครือข่ายอนุรักษ์ ผู้ประกอบการแพปลา และเรือประมงในพื้นที่ พบว่า เรือประมงอวนล้อมได้ออกจับปลาปลาตะเพียนน้ำเค็มที่ชุกชุมมากในระยะนี้ ปริมาณที่จับได้มากถึงวันละหลายหมื่นกิโลกรัม โดยขณะทำการประมง อวนที่จับปลาเกิดขาด ทำให้ปลาที่จับได้หลุดลอยและถูกคลื่นลมซัดไปเกยบริเวณชายหาดบางแสน
 

 

หลังจากนั้น เทศบาลเมืองแสนสุขได้จัดเก็บ  "ปลาตายเกยหาดบางแสน" ทั้งหมด มีน้ำหนักรวมโดยประมาณ 8,000 กิโลกรัม ออกจากชายหาด  พร้อมกับทำความสะอาดชายหาดเรียบร้อยแล้ว  เพื่อความมั่นใจของประชาชนได้ตรวจสอบคุณภาพน้ำเพื่อหาปัจจัยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยข้อมูลคุณภาพน้ำเบื้องต้นจากสถานีตรวจวัดน้ำอัตโนมัติที่ศรีราชาซึ่งเป็นสถานีที่อยู่ใกล้เคียงมากที่สุ พบว่า อุณหภูมิ 29.32 องศาเซลเซียส ความเค็ม 31.70 PSU ความอิ่มตัวออกซิเจนละลายในน้ำ 270.30% ความเป็นกรด-ด่าง 8.33 คุณภาพน้ำทะเลอยู่ในเกณฑ์ปกติลงเล่นได้ 

 

ขอบคุณภาพจากTiktok@kuunnop

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับ ปลาตะเพียนน้ำเค็ม  เป็นปลาที่มีคุณค่าทางเศรษฐกิจ  ราคาจำหน่ายจะอยู่ที่ 30-40 บาท/กิโลกรัม   มีความยาวประมาณ 14–20 เซนติเมตร ส่วนใหญ่จะพบแค่ในบริเวณอ่าวไทยเท่านั้น และในช่วงนี้มีความชุกชุมกว่าช่วงอื่น ๆ  โดย ปลาตะเพียนน้ำเค็ม ชาวประมงสามารถจับ ลากอวน ได้โดยไม่ถือว่าผิดกฎหมาย