ข่าว

8 ช่องทางชำระค่าปรับ 'ใบสั่งค้างชำระ' เตือนเพิ่มโทษแน่ เริ่ม 1 เมษายน 66

8 ช่องทางชำระค่าปรับ 'ใบสั่งค้างชำระ' เตือนเพิ่มโทษแน่ เริ่ม 1 เมษายน 66

28 มี.ค. 2566

เช็ก 8 ช่องทางชำระค่าปรับ 'ใบสั่งค้างชำระ' โฆษก ตร. เตือนประชาชน ต้องชำระค่าปรับ หากเพิกเฉย มีโทษเพิ่ม เริ่ม ตั้งแต่ 1 เมษายน 66

พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (โฆษก ตร.) เปิดเผยว่า ตามที่ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้ลงนามร่วมกรมการขนส่งทางบก เชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการจราจรทางบก เพื่อลดการกระทำผิดกฎหมาย ป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน 

 

โดย โฆษก ตร. ได้เตือนประชาชนอีกครั้ง ตั้งแต่ 1 เมษายน 66 ผู้ขับขี่ที่มี 'ใบสั่งค้างชำระ' ต้องชำระค่าปรับ หากเพิกเฉย ต่อ ภาษีรถยนต์ ประจำปี ได้ใบแทนภาษีชั่วคราวใช้ได้ 30 วัน หากเพิกเฉยพ้นกำหนดอีก มีโทษเพิ่ม ขับรถไม่แสดงแผ่นป้ายเสียภาษี ปรับไม่เกิน 2,000 บาท และตัด 1 คะแนน พร้อมเปิด 8 ช่องทางในการชำระค่าปรับ เพื่อความสะดวกของประชาชน

 

ที่ผ่านมา ทั้ง 2 หน่วยงาน ได้ร่วมกันกำหนดมาตรการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยจราจรทางบก จำนวน 2 มาตรการ ได้แก่

 

มาตรการที่ 1 การตัดคะแนนความประพฤติ ซึ่งได้เริ่มดำเนินการไปตั้งแต่ 9 มกราคม 2566 ที่ผ่านมา

 

มาตรการที่ 2 คือมาตรการชะลอการออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี ซึ่งจะเริ่มบังคับใช้วันที่ 1 เมษายน 66 สำหรับรถที่มีใบสั่งค้างชำระ ตาม 141/1 พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2522 ซึ่งทั้ง 2 หน่วยงานมีการเชื่อมโยงข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อส่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องตามที่กฎหมายกำหนด เช่น ข้อมูลใบอนุญาตขับขี่ ข้อมูลยานพาหนะ และข้อมูลใบสั่งค้างชำระ เพื่อให้เกิดการบูรณาการข้อมูลได้แบบ Real Time

 

 

สำหรับมาตรการชะลอเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี จะใช้กับรถยนต์ที่มีใบสั่งจราจรที่ค้างชำระ ซึ่งเพิกเฉยไม่ชำระค่าปรับตามที่กำหนด โดยสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะส่งข้อมูลโดยระบบอิเล็กทรอนิกส์ไปยังนายทะเบียนกรมการขนส่งทางบก เมื่อประชาชนไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนจะรับต่อภาษีประจำปี แต่ยังไม่ได้รับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษี (ป้ายภาษี)

 

 

โดยจะได้หลักฐานชั่วคราวแทนป้ายภาษี ซึ่งมีอายุ 30 วัน เพื่อให้ผู้นั้นไปชำระค่าปรับที่ค้างชำระให้ครบถ้วนภายใน 30 วัน แล้วจึงสามารถมารับป้ายภาษีได้ แต่หากประชาชนต้องการจะชำระค่าปรับในขณะต่อภาษี กฎหมายกำหนดให้อำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ให้นายทะเบียนสามารถรับชำระค่าปรับตามใบสั่งพร้อมกับชำระภาษี และรับเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีได้เลยทันที

 

ใบสั่งค้างจ่าย ไม่ได้ป้ายภาษี

 

โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ขอย้ำเตือนผู้ขับขี่ที่มี 'ใบสั่งค้างชำระ' ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2566 เป็นต้นไป เมื่อไปต่อภาษีรถยนต์ประจำปี นายทะเบียนรถยนต์จะไม่ออกเครื่องหมายแสดงการเสียภาษีประจำปี หรือ ป้ายภาษี ให้ ผู้ขับขี่ที่ค้างชำระค่าปรับจะได้ใบแทนเสียภาษีชั่วคราว แทนใบจริง จนกว่าจะชำระค่าปรับให้ครบถ้วน ภายใน 30 วัน หลังรับใบแทน ซึ่งหากประชาชน ยังไม่ชำระค่าปรับ แล้วนำป้ายชั่วคราวไปใช้แทนป้ายภาษีเกิน 30 วัน จะถือว่าเป็นการขับรถโดยไม่มีป้ายภาษี จะมีโทษตาม พ.ร.บ.รถยนต์ มาตรา 11 มีโทษปรับไม่เกิน 2,000 บาท และยังจะถูกตัดคะแนนความประพฤติในการขับรถ 1 คะแนนเพิ่มอีกด้วย

 

 

ทั้งนี้ ประชาชนสามารถตรวจสอบข้อมูลใบสั่งค้างชำระ และคะแนนความประพฤติได้ จากเว็บไซต์ E-ticket PTM และ แอปพลิเคชั่น ขับดี

 

 

สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เชื่อมั่นว่ามาตรการดังกล่าว จะสามารถนำไปสู่การเสริมสร้างวินัยจราจร จิตสำนึกด้านความปลอดภัยซึ่งจะสามารถช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนอย่างยั่งยืนต่อไป

 

 

สำหรับ 8 ช่องทางการชำระค่าปรับ

 

1. ชำระค่าปรับที่ค้างชำระต่อนายทะเบียนที่กรมการขนส่งทางบก สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1-5, สำนักงานขนส่งจังหวัด, สำนักงานขนส่งจังหวัดสาขา หรือตัวแทนผู้ให้ชำระภาษีในขณะไปต่อป้ายภาษีประจำปีได้ทันที

2. ชำระได้ที่สถานีตำรวจทุกแห่ง

3. ชำระได้ที่ไปรษณีย์ทุกสาขา

4. ชำระได้ที่ธนาคารกรุงไทยทุกสาขา

5. ชำระที่เคาน์เตอร์บริการที่มีสัญลักษณ์ PTM (Police Ticket Management)

6. ชำระผ่านตู้เอทีเอ็มธนาคารกรุงไทย หรือ ตู้บุญเติม

7. ชำระผ่านแอปพลิเคชัน ขับดี DPSC หรือ กรุงไทยเน็กซ์

8. ชำระด้วยบัตรเครดิตผ่าน เว็บไซต์ http://ptm.police.go.th/eTicket

 

ช่องทางชำระค่าปรับ