ปดิพัทธ์ ควงผู้เสียหาย ฟ้องเอาผิด เจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และพวก
ปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฏร พาผู้เสียหายคดีทุจริตบ้านพักสวัสดิการกองทัพบก ยื่นฟ้องร้อง เจ้ากรมสวัสดิการทหารบกและพวก รวม 25 ราย ชี้เสียหาย 44 ล้านบาท
ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตลิ่งชัน นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร พรรคก้าวไกล พร้อม นางพัสนีย์ พูลสุข หรือ ก้อย ผู้เสียหายจากคดีทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร และทนายความ ทำการยื่นฟ้องอาผิดเจ้ากรมสวัสดิการทหารบก และพวก รวม 25 คน ในฐานร่วมกันกับเจ้าพนักงาน รับ ยอมรับทรัพย์สิน และปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เรื่องนี้หลังจากที่ตนในฐานะผู้อภิปรายไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ตามมาตรา 152 ในสภาชุดที่ผ่านมา กรณีการทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหาร ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งนำไปสู่เหตุกราดยิงโคราชเมื่อปี 2563
และ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ท้าให้ส่งหลักฐาน จากนั้นเมื่อวันที่ 28 ก.พ.ที่ผ่านมา ได้นำหลักฐานไปยื่นที่สำนักนายกรัฐมนตรี แต่ผ่านมา 5 เดือนแล้ว คดีไม่มีความคืบหน้า ซึ่งในการอภิปรายที่ผ่านมาได้เปิดเผยหลักฐานที่ส่วนใหญ่มาจากผู้เสียหาย คือ คุณก้อย และคุณเบิร์ด (นามสมมติ) ว่าการทุจริตบ้านพักสวัสดิการทหารมีการเรียกรับสินบน 5% และอมส่วนต่างค่าบ้าน จนนำไปสู่ความกดดันของทหาร ทำให้เกิดเหตุกราดยิงที่โคราช เรื่องนี้เป็นที่รับรู้ภายในกองทัพ แต่ไม่มีการลงโทษใดๆ
รองประธานสภาผู้แทนราษฏร กล่าวต่อไปว่า ว่า จากการอภิปรายในวันนั้น พล.อ. ประยุทธ์ แจ้งว่าหากมีหลักฐานก็ให้นำไปยื่นแล้วจะดำเนินการ แต่ผ่านมาถึงวันนี้ กลับไม่มีความเคลื่อนไหวหรือการดำเนินการใด ผนวกกับช่วงที่ผ่านมาคุณก้อยต้องเผชิญกับความอยุติธรรม ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นศาลทหาร การถูกกดดันในรูปแบบต่างๆ วันนี้จึงเดินทางมายังศาลอาญาคดีทุจริตฯ เพื่อยื่นหลักฐานและเรียกร้องความยุติธรรมในอีกช่องทางหนึ่ง
ด้าน นายฤทธิ์ พัวพันทนายความ ให้รายละเอียดของคดีว่า ครั้งนี้ได้ยื่นฟ้องข้าราชการที่เป็นทหารในกรมสวัสดิการทหารบกจำนวน 23 ราย และพลเรือนอีก 2 ราย ด้วยข้อหาเจ้าพนักงานเรียกรับเงินจากผู้ประกอบการและปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งข้าราชการที่ว่านั้นมีตั้งแต่ยศระดับนายพลจนถึงเจ้าพนักงาน โดยมีการกระทำความผิดถึง 200 ครั้ง เป็นมูลค่าความเสียหายถึง 44 ล้านบาท โดยก่อนหน้านี้ได้ดำเนินการร้องเรียนผ่านคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) แต่เรื่องไม่คืบ จึงเดินทางมาฟ้องร้องที่ศาลอาญาคดีทุจริตฯ
ขณะที่นางพัสนีย์ พูลสุข ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ต่อสู้มาตั้งปี 2563 กับครอบครัวเพียงลำพัง ที่ผ่านมาได้ไปเรียกร้องมาทุกช่องทาง แต่กลับไม่ได้รับความช่วยเหลือ และหวังว่าศาลนี้จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย เพราะที่ผ่านมาตนและครอบครัวได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก จนถึงขั้นลูกไม่ได้เรียนหนังสือ เพราะกลัวจะไม่ปลอดภัย ทั้งนี้ มั่นใจในพยานหลักฐาน การฟ้องในครั้งนี้เป็นการฟ้องครั้งแรกที่มีพลเรือนร่วมทุตริตด้วย และอาจจะมีการฟ้องในครั้งต่อๆ ไปเพิ่มอีก
"ขอบคุณ ส.ส. ซึ่งเป็นผู้แทนเพื่อประชาชน เราต่อสู้ตัวคนเดียวก่อนเกิดเหตุกราดยิงปี 2563 ด้วยซ้ำ ไปมาทุกช่องทางแล้ว แต่ทั้งนี้ก็เป็นผลดี หลังจาก ส.ส.ปดิพัทธ์อภิปราย มีทนายเข้ามาช่วยเหลือ ครั้งนี้หวังว่าศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะเป็นที่พึ่งสุดท้าย” ผู้เสียหายกล่าว