โผล่อีกดราม่า 'ปังชา' ร้านชาหาดใหญ่เปิดเดือนเดียวถูกฟ้องค่าลิขสิทธิ์ 7 แสน
ดราม่า "ปังชา" โผล่หาดใหญ่ ร้านชาเพิ่งเปิดได้เดือนเดียว เจอโนติสแจ้ง ละเมิดเครื่องหมายการค้า เรียกค่าเสียหาย 7 แสน หากช้าปรับวันละ 1 หมื่น และให้ลงขอโทษในสื่อ
30 ส.ค. 2566 ดราม่าร้านอาหารชื่อดัง กับกรณีการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ปังชา" พร้อมสงวนสิทธิ์ห้ามลอกเลียนแบบ ทำซ้ำ ดัดแปลง แก้ไข และสงวนสิทธิ์ห้ามนำชื่อแบรนด์ "ปังชา" และ "Pang Cha" ทั้งภาษาไทย และภาษาอังกฤษ ไปใช้เป็นชื่อร้าน หรือใช้เป็นชื่อสินค้า เพื่อจำหน่าย หรือส่งเสริมการขาย
นอกจากนั้นทางร้านดังกล่าวยังได้มอบหมายให้ทนายความร่อนหนังสือโนติสเกี่ยวกับการละเมิดเครื่องหมายการค้า และเรียกค่าเสียหายกับทางร้านขนมหวานและร้านชาต่างๆ ที่พบว่า มีการใช้ชื่อ ปังชา ซึ่งมีที่ จ.เชียงใหม่ 2 ร้าน เรียกค่าเสียหาย 102 ล้าน
ล่าสุด พบว่าร้านชาชื่อร้าน ทางช้างเผือก ซึ่งตั้งอยู่ภายใน ซ.4 ภ.ศุภสารรังสรรค์ เขตเทศบาลนครหาดใหญ่ จ.สงขลา ได้รับหนังสือโนติสเรียกค่าเสียหายจากการใช้คำว่า "ปังชา" ที่ป้ายไฟของร้าน และมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 7 แสนบาท
น.ส.ปัณณ์ปรุฬห์ (สงวนนามสกุล) อายุ 30 ปี เจ้าของร้านทางช้างเผือก เปิดเผยว่า ร้านเพิ่งเปิดขายชาและนมสดเมื่อวันที่ 8 ก.ค. 2566 ที่ผ่านมา และต่อมาในช่วงบ่ายของวันที่ 27 ส.ค.2566 ก็ได้รับหนังสือจากทนายความที่อ้างว่า ได้รับมอบอำนาจจากบริษัทใหญ่ที่เป็นเจ้าของแบรนด์ชาและของหวานเจ้าดังในกรุงเทพฯ เพื่อขอให้ยุติการกระทำอันเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้า เเละเรียกค่าเสียหาย พร้อมกับแนบเอกสารตัวหนังสือดังกล่าว ลงวันที่ 26 ก.ค. 2566 จำนวน 2 ใบ
นอกจากนี้ ยังมีเอกสารรูปภาพหน้าเพจ และป้ายไฟของร้านที่มีการติดสติ๊กเกอร์ด้วยตัวอักษรสีฟ้าคำว่า "ปังชา" ที่ถูกกล่าวอ้างว่า เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้า โดยในหนังสือยังระบุว่า จะมีการเรียกค่าเสียหายเป็นเงิน 7 แสนบาท หากล่าช้าจะปรับเงิน 1 หมื่นบาท ต่อวัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับจดหมาย รวมทั้งให้แสดงความขอโทษผ่านทางหน้าหนังสือพิมพ์และสื่อต่างๆ รวมทั้งจะมีการเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม หากพบความเสียหายในส่วนอื่นๆด้วย
น.ส.ปัณณ์ปรุฬห์ เจ้าของร้านบอกอีกว่า หลังได้รับหนังสือก็ตกใจมาก ว่าทำผิดอะไร และต่อมาได้มีการติดต่อไปยังผู้รู้กฎหมาย รวมทั้งเจ้าของร้านที่เชียงใหม่ ที่ปรากฏอยู่ในสื่อต่างๆ เพื่อหาทางออก ซึ่งทางร้านขอยืนยันว่า ไม่ได้มีเจตนาที่จะละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้าของร้านดังกล่าวแต่อย่างใด เพราะ คำว่า ปังชา ทางร้านแค่เพียงใช้สื่อความหมายรวมถึงขนมปังและชาเอาไว้ในคำๆ เดียวเท่านั้น และมีแค่ติดสติ๊กเกอร์เอาไว้ที่ป้ายไฟที่วางหน้าร้านจุดเดียว ส่วนชื่อร้านชื่อ ทางช้างเผือก ก็ไม่ได้มีเกี่ยวข้องใดๆ รวมทั้งลักษณะร้านก็คนละแนวกันด้วย
เบื้องต้นนั้นทางร้านได้ทำการลอกสติ๊กเกอร์สีฟ้า คำว่า ปังชา ออกไปจากป้ายไฟหน้าร้านแล้ว เพื่อตัดปัญหา รวมทั้งในเพจของทางร้านที่บางแฮทแท็กอาจจะมีคำว่า ปังชา รวมอยู่ด้วย ก็ได้ลบออกไปแล้วเช่นกัน เพราะไม่อยากมีปัญหา ทั้งนี้ในส่วนของทางร้านได้มีการติดต่อกับทางร้านที่ จ.เชียงใหม่ ที่ได้รับหนังสือโนติสการละเมิดเครื่องหมายการค้า และเรียกค่าเสียหายในลักษณะดังกล่าวเช่นเดียวกัน รวมทั้งได้สอบถามในเบื้องต้นกับทางผู้รู้กฎหมาย และทนาย รวมถึงช่องทางสื่อมวลชน เพื่อขอคำปรึกษา แต่ยังไม่ได้มีการดำเนินการในทางกฎหมาย หรือจะฟ้องร้องกลับใดๆ ขอรอดูท่าทีอีกครั้ง
รวมทั้งขอให้ทางบริษัทใหญ่ดังกล่าวเห็นใจเจ้าของร้าน หรือผู้ประกอบการอื่นๆ ด้วย อย่าใช้ข้อกฎหมาย หรือช่องโหว่ทางกฎหมายมารังแกกัน อีกทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตรวจสอบในข้อเท็จจริงว่า เหตุการณ์นี้มีลับลมคมในอะไรหรือไม่ หรือหนังสือถูกออกมาโดยคนบางคนกันแน่ เพื่อให้ความเป็นธรรมกับเจ้าของร้านและผู้ประกอบอาชีพร้านชาและที่เกี่ยวข้อง จะได้กระจ่าง เนื่องจากล่าสุด ทางกรมทรัพย์สินทางปัญญาก็ออกมาชี้แจงแล้วว่า ไม่ได้เป็นการละเมิดลิขสิทธิ์ หรือเครื่องหมายการค้า แต่อย่างใด
สันติภาพ รามสูต จ.สงขลา