'มาวิน ธนะปรีดากุล' นักธุรกิจฮ่องกงเชื้อสายไทย เปิดที่มาความสำเร็จในวัย 34 ปี | คมชัดลึก

ครั้งแรกกับ "มาวิน ธนะปรีดากุล" นักธุรกิจฮ่องกง ที่มีเชื้อสายไทยจากคุณยายชาวจังหวัดสงขลา ซึ่งเคยออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อหลายสำนักถึงความสำเร็จในวัย 34 ปีจากการทำธุรกิจ และการลงทุนในฐานะ Angel Investor  ล่าสุด ได้ให้สัมภาษณ์กับทางคมชัดลึก เกี่ยวกับจุดเริ่มต้น และความเป็นมาในเส้นทางการทำธุรกิจ ที่ได้ประสบการณ์มาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่ 
 

จุดเริ่มต้น ของ มาวิน ธนะปรีดากุล : คุณมาวินเล่าว่า เริ่มแรกที่มาของครอบครัวนั้น ทางด้านของคุณปู่มีเชื้อสายแต้จิ๋วที่เกิดในประเทศมาเลเซีย แต่คุณพ่อของมาวินนั้นได้เกิดที่ประเทศฮ่องกงในช่วงที่สหราชอาณาจักรกำลังปกครอง และต่อมา ได้เริ่มทำธุรกิจค้าขายกับต่างประเทศ โดยมีธุรกิจหลัก คือ ซื้อขายวัตถุดิบไม้จากทวีปแอฟริกา และทวีปอเมริกาใต้ รวมถึงการแปรรูปและการผลิต เพื่อขายสู่ตลาดในทวีปยุโรป และทวีปอเมริกาเหนือ กระทั่งทางครอบครัวเริ่มมีความมั่งคั่งมากขึ้น จึงนำที่ดินที่สั่งสมไว้มาพัฒนาเป็นอสังหาริมทรัพย์ โดยสร้างเป็นร้านค้า อาคารสำนักงาน และอพาร์ตเมนต์ขนาดเล็กให้เช่า 

ส่วนคุณแม่ของคุณมาวินนั้น เกิดที่ประเทศสิงคโปร์ ก่อนจะมาทำงานเป็นนักวิเคราะห์วางแผนและนโยบาย ที่ธนาคารเอกชนแห่งหนึ่งในสหราชอาณาจักร หรือ ประเทศอังกฤษ ต่อมา คุณแม่ได้ทำงานเกี่ยวกับการบริหารจัดการกองทุนของครอบครัวและสำนักงานครอบครัว

สำหรับ มาวิน ธนะปรีดากุล เกิดที่สหราชอาณาจักร เมื่อปี พ.ศ. 2532 และอาศัยอยู่ในลอนดอน แต่ด้วยความที่ยายของมาวินนั้นเป็นชาวจังหวัดสงขลา จึงมาเยี่ยมยายที่ประเทศไทยทุกปีตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ทางด้านการศึกษานั้น มาวินเล่าว่า เรียนอยู่ที่โรงเรียนนานาชาติ สไตล์บริติช (อังกฤษ) ซึ่งในโรงเรียนนั้น ส่วนใหญ่จะประกอบไปด้วยชาวฮ่องกง รวมถึงชาวเอเชียไม่ถึง 5 เปอร์เซนต์ และประกอบไปด้วยชาวตะวันตกผิวขาวที่มาจาก 20 ประเทศทั่วโลก ส่งผลให้สภาพแวดล้อมในวัยเด็กของคุณมาวินมีโอกาสได้สัมผัสกับภาษา และวัฒนธรรมจากหลากหลายประเทศ รวมถึงยังได้เรียนรู้ความคิด และวิสัยทัศน์ระหว่างประเทศอีกด้วย แต่ชีวิตในวัยเด็กของมาวินนั้นต้องเดินทางอยู่บ่อยครั้ง ด้วยความที่พ่อแม่ทำธุรกิจที่ต้องเดินทางไปทั่วโลก สิ่งเหล่านี้ส่งผลให้มาวินเริ่มมีความสนใจ และสนุกกับการเรียนภาษาต่างๆ

ความสามารถทางด้านภาษา : สามารถพูดได้ถึง 8 ภาษา เริ่มจากภาษาที่ 1 คือ ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาหลักที่ใช้สื่อสารขณะเรียนอยู่โรงเรียนนานาชาติ ส่วนภาษาที่ 2 คือ ภาษาจีนแต้จิ๋ว ซึ่งเป็นภาษาประจำครอบครัวที่สืบทอดมาจากปู่  และภาษาที่ 3 คือ ภาษาจีนกวางตุ้ง ซึ่งเป็นภาษาที่ใช้ในประเทศฮ่องกง และเป็นภาษาประจำครอบครัวเช่นกัน แต่ด้วยความที่คุณมาวินสนใจเกี่ยวกับการทำการตลาดของประเทศจีน จึงเรียนภาษาจีนกลาง เป็นภาษาที่ 4

กระทั่งขณะที่เรียนปริญญาโทที่มหาวิทยาลัยเกียวโต จึงจำเป็นที่จะต้องเรียนภาษาญี่ปุ่น และเป็นภาษาที่ 5 ต่อมา คุณมาวินได้มีโอกาสเรียนรู้วัฒนธรรมของชาวมุสลิม จึงศึกษาภาษาอาหรับเป็นภาษาที่ 6 ผ่านประสบการณ์การทำงานในตลาดตะวันออกกลาง และด้วยความที่ชื่นชอบในประเทศเกาหลี จึงเดินทางไปอยู่ที่ประเทศเกาหลีกว่าครึ่งปี และเรียนภาษาเกาหลี เป็นภาษาที่ 7 กระทั่งในปี 2562

มาวินได้เดินทางกลับมาที่ประเทศไทย และในตอนนี้ ตัดสินใจปักหลักอยู่ที่นี่สักระยะหนึ่ง จึงเริ่มเรียนภาษาไทยอีกครั้ง นับเป็นภาษาที่ 8 ในชีวิต สำหรับการเรียนภาษานั้นในความคิดของคุณมาวินนั้น ไม่ใช่แค่สิ่งที่จะจำเป็นต่อการสื่อสารในสังคมเท่านั้น แต่ยังเป็นการ สร้างความมั่นใจ และป้องกันความผิดพลาด รวมถึงโอกาสก้าวหน้าในชีวิต ซึ่งการเรียนรู้ภาษา ทำให้เราได้เรียนรู้ถึงวัฒนธรรม และวิถีชีวิตของภูมิภาคต่างๆทั่วโลก ส่งผลให้เราสามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมในการดำรงชีวิตได้อย่างรวมเร็ว และอย่างมีประสิทธิภาพ

คุณมาวิน จบจากมหาวิทยาลัยชื่อดังระดับโลก? : คุณมาวิน เล่าว่า  ด้วยความที่คุณแม่ทำงานเกี่ยวกับการเงิน ทำให้มาวินสนใจในเรื่องการเงินจนกลายเป็นงานอดิเรก และเลือกที่จะศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี โดยในปี 2549 ได้ศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล ลอนดอน หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการบริหารการเงิน เพื่อศึกษาทางด้านเศรษฐศาสตร์ และธุรกิจระหว่างประเทศ อีกทั้งมหาวิทยาลัยที่สหราชอาณาจักรเหมาะแก่การวิจัยและการสืบค้น
หาความรู้ 

ต่อมาในปี 2553 ได้ศึกษาระดับปริญญาโท ที่มหาวิทยาลัยเกียวโต หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต สาขาการจัดการธุรกิจระหว่างประเทศ สาเหตุที่เลือกศึกษาที่ต่อที่นี่ เนื่องจากประเทศญี่ปุ่นมีความก้าวไกลทางด้านธุรกิจค่อนข้างสูง และเป็นประเทศที่พัฒนาสูงสุดในทวีปเอเชีย

ประสบการณ์ในการทำงาน และการลงทุนที่เคยผ่านมา (รบกวนขอปีที่เริ่มเข้าไปทำธุรกิจด้วยค่ะ) : คุณมาวิน เล่าว่า ในปี 2013 ได้เริ่มทำธุรกิจที่ประเทศสหราชอาณาจักร เริ่มมากจากความเข้าใจในวัฒนธรรม และตลาดเอเชีย จึงมุ่งเน้นที่จะช่วยเหลือและสนับสนุนเหล่าสตาร์ทอัพที่ต้องการขยาย ตลาดในทวีปเอเชีย รวมถึงได้ช่วยสนับสนุนผู้ก่อตั้ง และผู้ประกอบการธุรกิจจากเอเชียให้มีประสบความสำเร็จมากยิ่งขึ้น โดยคุณมาวินได้ทำการวิจัย และค้นคว้า เพื่อคิดค้นกระบวนการ และแนวทางการปฏิบัติที่ดีที่สุด  เพื่อนำไปประยุกต์ใช้กับธุรกิจทุกขนาด ตั้งแต่สตาร์ทอัพขนาดเล็ก ขนาดกลาง ไปจนถึงองค์กรขนาดใหญ่ 

สิ่งที่คุณมาวินทำอยู่ในตอนนั้น แม้จะดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป แต่คุณมาวินหวังว่า จะส่งผลกระทบต่อการเปลี่ยนแปลงในวงกว้าง และสร้างความยั่งยืนให้กับการทำงานในอนาคต คุณมาวินหวังว่า จะช่วยให้ผู้กระกอบการตระหนักถึงโปรเจกต์ที่กำลังเผชิญหน้า และส่งผลให้องค์กรเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว 

ต่อมาในปี 2016 คุณมาวิน เล่าว่า เคยมีประสบการณ์ในการลงทุนที่ตะวันออกกลาง หรือ ในประเทศดูไบ ซึ่งเป็นพื้นที่เขตการค้าเสรีอันดับต้นๆ ของโลก ด้วยความมั่นคงทางการเมือง และทางภูมิศาสตร์ อีกทั้งรัฐบาลของประเทศดูไบยังสนับสนุนนโยบายให้กับผู้ประกอบการ ดูไบจึงกลายเป็นดินแดนที่ผู้ประกอบการทั่วโลกต่างจับตามอง และเข้ามาพัฒนานวัตกรรม เทคโนโลยี ซึ่งมาวินมีโอกาสเข้ามาลงทุนด้วยการช่วยเหลือผู้ประกอบการผู้มีทุนทรัพย์สูง และช่วยค้นหาโครงการที่มีศักยภาพ รวมถึงยังเข้ามาช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการรายใหม่ เพื่อเพิ่มโอกาสในการพัฒนาได้อย่างรวดเร็ว

คุณมาวิน ยังเล่าต่ออีกว่า ปี 2018 เคยมีประสบการณ์ด้านการลงทุนที่เมืองนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยร่วมมือกับรัฐบาลดำเนินโครงการ NYSTAR และร่วมกันเปิดตัวศูนย์พัฒนาผู้ประกอบการ ด้วยความร่วมมือกับศูนย์วิจัย พัฒนาเทคโนโลยี และสถาบันวิจัยมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่ง รวมถึงโปรแกรมสำหรับเทคโนโลยี และนวัตกรรมมากกว่า 300 รายการ  ซึ่งทางมาวินนั้นได้เข้าไปช่วยลงทุนให้กับผู้ประกอบการที่มีโปรเจกต์เตรียมพัฒนาต่อ เกี่ยวกับเทคโนโลยีสภาพภูมิอากาศ เทคโนโลยีด้านสุขภาพ และวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิต รวมถึงการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ และเทคโนโลยีที่สำคัญอีกมากมาย

การสร้างแรงบันดาลใจในที่ทำงานคืออะไร? : 3 แรงบันดาลในการทำงานของมาวิน คือ การใช้ชีวิตอย่างมีอิสระ "ทำอะไรสนุกๆตอบแทนความปรารถนาของตัวเองอยู่เสมอ" และมีความกระตื้อรือร้นอยู่ตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยกระตุ้นในการทำทุกสิ่งให้สำเร็จ สุดท้าย คือ การตั้งเป้าหมายไว้อย่างแน่วแน่ เพราะความตั้งใจจะทำให้สามารถเปลี่ยนอนาคต และโลกใบนี้ได้

ซึ่งเคล็ดลับในการสร้างแรงจูงใจของตนเองนั้น คุณมาวิน ได้กล่าวว่า ควรจะมุ่งไปยังเป้าหมายที่ตั้งไว้อย่างชัดเจนเสมอ และทำให้สำเร็จ และหมั่นให้รางวัลกับตัวเอง แม้จะเป็นความสำเร็จเล็กๆ น้อยๆ ก็ตาม เพราะการสร้างแรงบันดาลใจที่ดีนั้นจะช่วยสร้างประสิทธิภาพในการทำงาน  สร้างความมั่นคง  และสามารถทำงานได้ตรงตามกำหนดเวลาที่วางแผนไว้ ทำให้เราประสบความสำเร็จ รวมถึงพัฒนาศักยภาพการทำงานให้ยอดเยี่ยมยิ่งกว่าเดิม 

ในวัย 34 ปี คุณมาวินสามารถสร้างรายได้เท่าไหร่ : การทำงานของคุณมาวิน ไม่เพียงแต่จะเกี่ยวกับการสร้างความมั่งคั่ง และสร้างรายได้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้ผู้ประกอบการขนาดเล็ก และขนาดกลางค้นพบทิศทาง และสร้างประสิทธิภาพการทำงานของผู้ประกอบการเหล่านี้ ช่วยจัดการปฏิรูปนวัตกรรมให้ทีมสามารถเติบโตได้อย่างรวดเร็ว เพื่อให้การลงทุนมีความยั่งยืน และสร้างมูลค่ามากยิ่งขึ้นในอนาคต

Angel Investor คืออะไร : Angel Investor แปลตรงตัวเลย คือ นางฟ้านักลงทุน การเป็นนักลุงทุนที่ดีต้องมีคุณสมบัติดังต่อไปนี้ คือ มีความสามารถ และความกระตือรือร้นในการเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ  อีกทั้งควรจะจัดสรรเวลา และทรัพย์สินที่มีอยู่นั้นให้เพียงพอ เพื่อขยายแผนงานการติดต่อให้มีประสิทธิภาพมอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้แล้ว ต้องมีความสามารถในการตัดสินในการทำงานได้อย่างยอดเยี่ยม และชาญฉลาด กล้าที่จะเผชิญกับความล้มเหลว และมีความอดทนสูง เลือกที่จะเชื่อมั่นในผู้ประกอบการ และเป็นเบื้องหลังในการสนับสนุนการบริหารจัดการธุรกิจได้อย่างดีเยี่ยม 

Start Up ที่สนใจจะขอทุนจากคุณมาวินต้องทำอย่างไรบ้าง :  6 สิ่งที่ Start Up ต้องมี คือ 
1. ข้อมูลพื้นฐานของผู้ประกอบการ และแผนการพัฒนาโดยละเอียดของโครงการ
2 .โอกาสทางการตลาดในการสร้างตลาดใหม่ที่ชัดเจน และมีความเป็นไปได้
3. รูปแบบธุรกิจที่ชัดเจน ทั้งการสร้างมูลค่าทางการเงิน และขอบเขตการใช้จ่ายเงินที่เหมาะสม
4. ทำไมต้องทำตอนนี้ ?
5. ตัวชี้วัด เช่น ผู้ใช้ที่ใช้งานอยู่ ผู้ใช้งานทั้งหมด, อัตราการเติบโตของผู้ใช้ (ต่อวัน/สัปดาห์/เดือน), อัตราการรักษาผู้ใช้, อัตราการเปลี่ยนใจ, รายได้สุทธิ,  รายได้ที่เกิดขึ้นประจำ, อัตราการเติบโตของรายได้ GMV/GSV, ราคาขายเฉลี่ย, เปอร์เซ็นต์เรค, การคืนทุนของ CAC LTV: อัตราส่วน CAC, ความถี่ความต้องการ, ความถี่ในการจัดหา, สัญญาที่ลงนาม, มูลค่ารายปีของสัญญาที่ลงนาม, สัญญาสำหรับกระบวนการการขาย, มูลค่ารายปีของสัญญาในกระบวนการขาย, หนังสือแสดงเจตจำนงที่ลงนาม ฯลฯ
6. ระดมเงินการลุงทุน และแผนงานโดยละเอียดว่าจะต้องใช้เงินเท่าไหร่ อย่างไร

คุณสมบัติที่ดีของ Start Up คืออะไร : ผู้ประกอบการที่ดี เมื่อเผชิญกับ Angel Investor  ต้องมีลักษณะดังต่อไปนี้
1. เลือกเส้นทางที่เหมาะกับอุตสาหกรรม และรับรู้จุดแข็งของธุรกิจ
2. ตั้งเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ และวางแผนงานที่ชัดเจนสำหรับโครงการและอาชีพของคุณ
3. มีความมั่นใจในทีม และรูปแบบการดำเนินงาน
4. มีความหลงใหลในธุรกิจ 
5. โครงการที่สร้างจำเป็นต้องส่งเสริม และสามารถเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดียิ่งขึ้น ไม่ใช่แค่การสร้างเพื่อผลกำไร
6. สร้างปฏิสัมพันธ์ที่ดีกับนักลงทุน และให้ความสำคัญกับการได้มาซึ่งความรู้

อยู่เมืองไทยมา 4 ปี เห็นโอกาส และธุรกิจอะไรที่สนใจในประเทศไทยบ้าง : ภายใต้พระราชบัญญัติการลงทุน พ.ศ. 2561 คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนแห่งประเทศไทย (บีโอไอ) ให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีและไม่ใช่ภาษี มีการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ (SEZ) เช่น ระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก (EEC) ด้วยเช่นกัน นโยบายการลงทุนของรัฐบาลที่ยอดเยี่ยมให้โอกาสมากมายแก่นักลงทุนต่างชาติ เมื่อรวมกับศักยภาพของประเทศไทยแล้ว ทีมผู้ประกอบการรุ่นใหม่และผู้ประกอบการที่มีพลวัตจำนวนมากก็เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องสร้างโอกาสและโอกาสในตลาดมากมายดังนั้นฉันจึง เลือกที่จะกลับมาประเทศไทยและเชื่อมต่อกับเครือข่ายทรัพยากรระดับโลกผ่านประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมา เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการรายย่อยและขนาดกลางชาวไทยส่วนใหญ่ขยายความเข้าใจและซึมซับมุมมองของต่างประเทศ และค่อยๆ สนับสนุนการพัฒนาและการเติบโตของพวกเขา

Lifestyle ของคุณมาวิน
วิธีจัดการ Work Life Balance ในชีวิตประจำวันของคุณมาวินเป็นอย่างไรบ้าง : คุณมาวินเล่าว่า มี 5 วิธีในการจัดการ Work Life Balance ดังต่อไปนี้ 
1. การบริหารเวลาที่ดีเยี่ยม จัดลำดับความสำคัญ อันไหนควรทำก่อน ทำหลัง และตั้งเป้าหมายในการทำทุกอย่างอย่างชัดเจน
2. ฝึกฝนการจัดการระบบความคิดของตัวเอง เพื่อแก้ปัญหาสิ่งที่รบกวนกาย และจิตใจ  
3. มีงานอดิเรกที่ส่งผลดีต่อสุขภาพกายและจิต เพราะจะนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
4. สร้างภาพลักษณ์ระหว่างแพลตฟอร์มในโลกโซเชียล กับ การทำธุรกิจและการประกอบอาชีพ รวมถึงไลฟ์สไตล์ของตัวเองไว้อย่างชัดเจน 
5. การใช้เวลากับครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด อาทิ ทำกิจกรรมยามว่างร่วมกัน เพราะจะเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดี และสร้างความสุขให้กับตัวคุณเอง เนื่องจากครอบครัวคือรากฐานสำคัญในการดำรงชีวิต รวมไปถึงการพัฒนาอาชีพให้ราบรื่น

หากมีเวลาว่าง หรือโอกาส คุณมาวิน ชอบที่จะใช้เวลาตรงนี้ไปกับการช่วยเหลือสังคม : คุณมาวิน กล่าวว่า งานของคุณมาวิน คือ การช่วยเหลือสังคมอยู่แล้ว หรือก็คือการช่วยเหลือบรรดาผู้ประกอบการ ตั้งแต่รายเล็ก  รายย่อย และขนาดกลาง ซึ่งจะกระตุ้นให้กลุ่มคนชนชั้นสูงในสังคมดเล็งเห็น และสนใจผู้กระกอบการเหล่านี้ เพื่อช่วยกันแบ่งปันความรู้ ความสามารถ และช่วยสร้างความมั่นใจ รวมถึงทำให้พวกเขาเริ่มต้นประกอบอาชีพได้อย่างรวดเร็ว

อีกทั้งในเวลาว่าง คุณมาวินยังให้ความสนใจเกี่ยวกับการช่วยปรับปรุงการศึกษา และสุขภาพของเยาวชน ซึ่งคุณมาวินเล็งเห็นว่า การช่วยเหลือไม่เพียงแต่จะเป็นการช่วยเหลือด้านวัตถุเท่านั้น แต่ยังรวมถึงทางด้านของจิตใจ เพื่อให้เยาวชนมีโอกาสในการศึกษามากยิ่งขึ้น เพราะการศึกษา คือ พื้นฐานสำคัญในการสร้างประเทศชาติที่ดี ซึ่งคุณมาวินอยากจะเป็นส่วนหน่ึงในการกระตุ้นให้คนสังคมเล็งเห็นถึงจุดนี้ 

คุณมาวินมีเพื่อนหลากหลายทั้งในวงการไฮโซ และดารา สนิทกับใครเป็นพิเศษไหม : สังคมของคุณมาวินนั้น รายล้อมไปด้วยความแตกต่างทางด้านวัฒนธรรมของแต่ละท้องที่มาตั้งแต่วัยเด็ก ซึ่งคุณมาวินจะให้ความเคารพกับเรื่องนี้พอสมควร ที่สำคัญคือ เคารพความเป็นส่วนตัวของแต่ละบุคคล และมองว่า คนรอบตัว และเพื่อนทุกคน คือ เพื่อนเท่ากัน และการเป็นเพื่อนที่ดีนั้นควรจะให้กำลังใจไม่ว่าจะในเวลาใด และคอยสนับสนุนกัน รวมถึงช่วยเหลือกันในยามที่ยากลำบาก

ในโลกออนไลน์มีคนให้ความสนใจกัยคุณมาวิน รู้สึกอย่างไรบ้างกับเรื่องนี้ : คุณมาวินได้กล่าวขอบคุณที่ทุกคนให้ความสนใจ ซึ่งชีวิตของคุณมาวินนั้นจำเป็นต้องปรากฏตัวทั้งแพลตฟอร์มออนไลน์ และโลกแห่งชีวิตจริง โดยคุณมาวินมุ่งเน้นถึงการให้ความรู้ และแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนกลยุทธ์การลงทุน และการสร้างทัศนคดติที่ดี รวมถึงการสร้างความสุขให้กับคนรอบข้าง ซึ่งคุณมาวินหวังว่าทุกคนจะได้ประโยชน์กับเรื่องนี้

ความชื่นชอบในการชิมไวน์ และความสนใจเรื่องการผลิตไวน์ : คุณมาวิน กล่าวว่า จุดเริ่มต้นมาจากการการสังสรรค์ รวบรวม ซึ่งขณะที่ดื่มไวน์นั้นช่วยสร้างประสบการณ์มากมาย และช่วยจัดระเบียบความคิด โดยคุณมาวินชื่นชอบการดื่มไวน์แดงเป็นพิเศษ และเชื่อว่า ไวน์ ไม่ได้เป็นเพียงแค่เครื่องดื่ม แต่เป็นเครื่องช่วยผ่อนคลายทั้งกาย และจิตใจ ช่วยปลดปล่อยอารมณ์จากความกดดันต่างๆที่ผ่านมาตลอดทั้งวัน และช่วยพัฒนาคุณภาพทางจิตวิทยา คุณมาวินเล็งเห็นคุณค่าตรงนี้ จึงสนใจในงานวิจัยไวน์ จนกลายเป็นงานอดิเรกที่ทำร่วมกับเพื่อนๆ

กีฬาที่ชื่นชอบที่สุด : กีฬาที่คุณมาวิน ชื่นชอบ คือ กีฬากอล์ฟ กีฬาขี่ม้า และกีฬายิงธนู เหตุผลที่ชื่นชอบการเล่นกอล์ฟนั้น เพราะขณะที่ยืนอยู่บนสนามกอล์ฟ สภาพแวดล้อมที่มนุษย์สร้างขึ้นแต่ยังรักษาลักษณะทางธรรมชาติไว้ พื้นหญ้าสีเขียว ออกซิเจนรอบข้าง และแสงแดด ทำให้เราได้ใกล้ชิดกับกับธรรมชาติ รวมถึงขณะที่จับไม้กอล์ฟ และขณะที่เคลื่อนไหวไม้กอล์ฟนั้น ช่วยทำให้เราได้สัมผัสถึงการเคลื่อนไหวของการใช่ชีวิตที่มีทั้งเส้นโค้ง ก่อนจะกลับคืนสภาพสู่ตัวเอง คล้ายกับการยกมือเพื่อแกว่งไม้กอล์ฟ อีกทั้งกีฬากอล์ฟต้องอาศัยการแข่งขัน โดยเฉพาะการแข่งกับตัวเอง ส่งผลให้เราได้ฝึกฝนกีฬานี้ ประกอบกับการก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง และก้าวข้ามขีดจำกัดของตัวเอง 

ส่วนกีฬาขี่ม้า เป็นกีฬาที่ช่วยปรับสมดุลของอารมณ์ สมอง ช่วยเสริมสร้างความจำ และฝึกความมั่นใจ การขี่ม้ายังเป็นศิลปะแห่งการสื่อสารที่ไม่จำเป็นต้องใช้คำพูด เพราะการสื่อสารกับม้าต้องใช้ปัจจัยหลายอย่าง และการสื่อสารลักษณะนี้ทำให้จิตใจสงบลง และการปล่อยให้เรากับม้าได้ทำความเข้าใจด้วยใจ ด้วยความไว้วางใจ และร่วมมือกันก้าวข้ามผ่านความล้มเหลว เผชิญกับความท้าทาย และให้โอกาสกับชีวิตได้อย่างกล้าหาญ 

สุดท้ายการยิงธนู สามารถฝึกมุ่งมั่น ตั้งเป้ากหมายในความสนใจ และความสามารถในการจดจ่อ เช่นเดียวกันยังสร้างความอดทน และทะลวงขอบเขตของตัวเองอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ยังช่วยปลดปล่อยความคิด และฝ่าฟันอุปสรรครอบข้าง ทำให้เราเข้าใจว่า ศักยภาพของมนุษย์นั้น ไร้ซึ่งขีดจำกัด และขึ้นอยู่กับความเชื่อ ความอุตสาหะของตนเอง

คุณมาวินอยากแนะนำแนวคิดอะไรให้กับ Start Up รุ่นใหม่ : สิ่งที่ Start Up ควรคำนึงถึงเสมอ คือ 
1. ต้องขยัน เพราะความเกียจคร้านจะทำให้คุณสูญเสียทุกสิ่ง 
2. ต้องมีเป้าหมายในอาชีพ และโครงการที่วางไว้อย่างชัดเจน และทำจนประสบความสำเร็จ สร้างความมั่นใจอย่างต่อเนื่อง 
3. ต้องมีความพากเพียร ยึดมั่นในกับตัวเลือกของคุณเอง ก้าวไปข้างหน้า และเอาชนะทุกความท้าทาย เพื่อก้าวข้ามผ่านความล้มเหลวบนเส้นทางในชีวิตสู่การเจริญเติบโต
4. ต้องมีความมั่นใจ ในตัวเองและทีม 
5. ต้องมีความจริงใจ มีทัศนคติที่ดี รวมถึงทำความเข้าใจกับคนในทีม และช่วยกันสนับสนุนกันอย่างเข้มแข็ง
6. ต้องมีจิตใจที่เปิดกว้าง เปิดรับทุกประสบการณ์ใหม่ๆ สั่งสมองค์ความรู้อย่างมีคุณภาพร่วมกับทีม เพื่อก้าวหน้าและเติบโตไปด้วยกัน
7. ต้องรู้จักประหยัดเงิน การลงทุนทั้งหมดในช่วงแรกของการเริ่มต้นธุรกิจจำเป็นต้องใช้เงิน เวลา และพลังงานอย่างมีคุณค่า
8. ต้องมีความตั้งใจแน่วแน่ ใช้วิจารณญาณอย่างมีเหตุผล ละทิ้งความรู้สึก และตัดสินใจ เพื่อพัฒนาอนาคตอย่างค่อยเป้นค่อยไป
9. ต้องมีประสิทธิภาพ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาทุกสิ่ง ต้องหมั่นปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจได้รับผลลัพธ์ที่ดี อย่าทำแบบครึ่งๆกลางๆ
10. ต้องรู้จักมองโลกในแง่ดี และมีทัศนคติเชิงบวกอยู่เสมอ  สร้างรอยยิ้มแห่งความสุข เพื่อช่วยผ่อนคลายให้กับการทำงานร่วมกับเพื่อนในทีม ซึ่งสิ่งนี้จะทำให้นักลงทุนรอบตัวเล็งเห็น และยินดีที่ช่วยเหลือคุณ