'ธกส.' ลงพื้นที่สวนผึ้ง สานต่อ 'ปลูกความรู้ด้านการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน'
ผู้จัดการ "ธ.ก.ส. " นำทีมลงพื้นที่ สวนผึ้ง ราชบุรี ขับเคลื่อน สร้างโมเดลทางการเกษตรในโรงเรียน เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนได้บริโภคอาหารกลางวันที่ปลอดภัย ผ่านโครงการ "ปลูกความรู้ด้านการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน" เผย13 ปี ทำโครงการเข้าถึงสถานศึกษารวม 1,300 แห่ง
ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้ลงพื้นที่ร่วมกิจกรรมการสร้างโมเดลทางการเกษตรในโรงเรียนเพื่อสนับสนุนให้นักเรียนได้บริโภคอาหารกลางวันที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมีตกค้าง และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง โดยเติมหลักสูตรความรู้ด้านการเกษตรและการลงมือปฏิบัติจริง
อาทิ การปลูกผักสวนครัวไร้สารพิษ การเลี้ยงปลาและไก่ไข่ การเพาะเห็ด และการหมักปุ๋ยอินทรีย์ เพื่อพัฒนาทักษะด้านการเกษตรให้กับนักเรียน ในการผลิตและเก็บเกี่ยวผลผลิตไปใช้ในการประกอบอาหารกลางวัน และจำหน่ายผลผลิตที่เหลือไปยังตลาดชุมชน เพื่อสร้างรายได้เสริม พร้อมขยายผลองค์ความรู้ที่ได้จากโครงการ ไปยังครอบครัวนักเรียนและชุมชนให้สามารถต่อยอดไปเป็นอาชีพได้ในอนาคต
ในโอกาสนี้ นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ได้มอบโรงเรือนปลูกผักและอุปกรณ์ในโรงครัว เพื่อใช้ในกิจกรรมของโรงเรียน พร้อมร่วมชมกิจกรรมการทำแปลงผัก การเก็บไข่ไก่จากเล้า การทำอาหารจากผลผลิตของโรงเรียน และจัดเลี้ยงอาหารกลางวันให้กับนักเรียนอีกด้วย
นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส. ได้ขับเคลื่อนภารกิจด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมผ่าน โครงการ ปลูกความรู้ด้านการเกษตรเพื่ออาหารกลางวัน ในโรงเรียนมาต่อเนื่องกว่า 13 ปี โดยมีโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 1,300 โรงเรียน เพื่อสนับสนุนให้นักเรียนมีความรู้พื้นฐานด้านการเกษตร โดยเฉพาะการผลิตอาหารปลอดภัย เพื่อนำมาเป็นอาหารกลางวันในโรงเรียน สร้างสุขภาพ พลานามัยที่ดีให้กับเยาวชน และแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง
กิจกรรมดังกล่าว มุ่งเน้นส่งเสริมให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการเรียนรู้เกี่ยวกับการทำเกษตรอินทรีย์ ภายใต้แนวคิดเศรษฐกิจพอเพียง ทำให้นักเรียนเห็นคุณค่าของสิ่งที่ตนเองผลิต สามารถพึ่งพาตนเองและนำองค์ความรู้ไปต่อยอดสู่การประกอบอาชีพได้ในอนาคต ได้แก่ การปลูกผัก การเพาะเห็ด การเลี้ยงปลา การเลี้ยงไก่ไข่ และการทำน้ำหมักชีวภาพ ควบคู่การจัดทำแผนการผลิต เพื่อให้นักเรียนมีพืชผัก อาหารปลอดภัยมาใช้ในการบริโภคทั้งปี
โดยใช้พื้นที่เล็ก ๆ บริเวณโรงเรียนหรือที่อยู่อาศัยให้เป็นประโยชน์ ใช้เวลาในการผลิตแบบสั้น ๆ ไม่เกิน 45 วัน ตั้งเป้าหมายขยายโครงการปลูกความรู้ตามโมเดลดังกล่าวไปยังโรงเรียนต่าง ๆ ทั่วประเทศ ในปีบัญชี 2567 เพิ่มอีกจำนวน 200 แห่ง จำนวนนักเรียนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 9,000 คน ด้วยแนวทางเพื่อสร้างอาหารปลอดภัย สร้างความรู้และสร้างความเข้มแข็งให้กับโรงเรียนและชุมชนอย่างยั่งยืน
ฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) นำคณะลงพื้นที่ โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนตะโกปิดทอง ต.สวนผึ้ง อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี ร่วมกิจกรรมการสร้างโมเดลทางการเกษตรในโรงเรียน สนับสนุนให้นักเรียนได้บริโภคอาหารกลางวันที่ปลอดภัย ปราศจากสารเคมีตกค้าง และเป็นการช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายผู้ปกครอง โดยเติมหลักสูตรความรู้ด้านการเกษตรและการลงมือปฏิบัติจริง