ข่าว

ถกเถียงหนัก "กัญชา" กลับสู่บัญชียาเสพติด

13 พ.ค. 2567

ถกเถียงหนัก "กัญชา" กลับสู่บัญชียาเสพติด จี้รัฐบาลหาทางออก ! เครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย เชื่อรัฐบาลตระหนักถึงภาคประชาชนเป็นสำคัญ

ถกเถียงหนัก \"กัญชา\" กลับสู่บัญชียาเสพติด

 

ถกเถียงหนัก "กัญชา" กลับสู่บัญชียาเสพติด จี้รัฐบาลหาทางออก ! 

ยุคสมัยหนึ่งที่ประเทศไทย มีแนวความคิดในการผลักดันกฎหมายเกี่ยวกับกัญชา โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อจำหน่าย "กัญชา" เป็นวัตถุดิบสำหรับผลิตยารักษาโรค หรือ เพื่อรักษาทางการแพทย์ และหวังก่อให้เกิดรายได้ แก่เกษตรกร จนกระทั่ง    9 มิถุนายน พ.ศ.2565  "กัญชา" ถูกถอดออกจากยาเสพติดประเภทให้โทษ 5 และกำลังกลับมาสู่การเสนอแนวทางให้ "กัญชา"กลับไปเป็นยาเสพติด  

จี้รัฐบาลหาทางออกให้กัญชาไทย 

 

ผู้สื่อข่าวได้ลงพื้นที่ไปที่ฟาร์มปลูกกัญชา ของวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ ต.หนองบัวศาลา อ.เมือง จ.นครราชสีมา พบว่าในฟาร์มมีการลดพื้นที่ปลูกกัญชาลงจำนวนมาก โดยมีการปล่อยพื้นที่ส่วนใหญ่กว่า 90% ทิ้งไว้ให้ว่างเปล่า เหลือเพียงโรงแบบปิด 1 โรง ที่ยังคงปลูกกัญชาสายพันธุ์ต่างประเทศไว้เท่านั้น เนื่องจากที่ผ่านมาได้รับผลกระทบจากการประกาศให้มีการปลูกกัญชาเสรี ทำให้ผลผลิตกัญชาของวิสาหกิจชุมชนต่างๆ ขายไม่ออก 

 

นายมนตรี เยี่ยมสูงเนิน ประธานเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนคนโคราชรักกัญช์ สะท้อนให้อย่างน่าสนใจ ว่าตั้งแต่ประกาศปลดล็อกกัญชา ตั้งแต่วันที่ 9 มิถุนายน 2565 ทำให้มีคนลงทะเบียนปลูกกัญชาทั่วประเทศกว่า 1,100,000 ราย

 

ขณะที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ ต้องไปทำ MOU ร่วมกับส่วนราชการ เพื่อให้ได้รับใบอนุญาต ซึ่งมีอยู่ประมาณ 14,000 รายทั่วประเทศ ทำให้ได้รับผลกระทบอย่างหนัก และมีกัญชาออกมาล้นตลาด จากที่เคยคาดหวังสร้างรายได้ จากการขายช่อดอกกิโลกรัมละเป็นแสน ตอนนี้ลดมาเหลือกิโลกรัมละ 5,000 บาท ส่วนตัวจึงเห็นด้วยที่จะให้การปลูกกัญชาเสรีลดลง ซึ่งทางกลุ่มมองว่าจะช่วยทำให้ราคากัญชากลับมาฟื้นตัว พร้อมทั้งขอให้รัฐบบาลช่วยหาตลาดก็จะดีต่อเกษตรกร
 

CR  มุมมองเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย

 

กัญชาไม่ใช่ยาเสพติด

 

ถึงเวลานี้ ก็ยังมีข้อถกเถียงถึงความเป็นไปได้ที่จะแก้กฎกระทรวงเพื่อนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดประเภท 5 ตามเดิม  

 

นายประสิทธิ์ชัย หนูนวล เลขาธิการเครือข่ายเขียนอนาคตกัญชาไทย ไม่เห็นด้วยกับการรัฐบาลมีนโยบายให้นำกัญชากลับมาอยู่ในบัญชียาเสพติด ไม่ว่าจะเป็นการนำกลับมาใช้ทั้งหมด หรือเพียงบางส่วนก็ตาม ส่วนตัวมองว่ายังสามารถนำกัญชามาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ได้ 

 

และมีความเป็นไปได้ว่าบทสรุปในครั้งนี้รัฐบาลจะมองเห็นประโยชน์จากการใช้กัญชาของภาคประชาชนเป็นสำคัญ