ข่าว

ครอบครัว “เชื่อมจิต” เข้าร้องพม. ถูกใส่ร้ายเป็นลัทธิสร้างความ “อับอาย”

ครอบครัว “เชื่อมจิต” เดินหน้าร้อง พม. ตรวจสอบข้อเท็จจริงหลังอ้างว่าถูกบุคคลไม่หวังดีใส่ร้ายน้องไนซ์ว่าเป็นลัทธิที่สร้างความอับอาย

นายพิชญะ พร้อมด้วย น.ส.นัฐพร และ ด.ช.ไนซ์ อายุ 8 ขวบ พร้อมด้วย ทนายธรรมราช สาระปัญญา เพื่อยื่นหนังสือ ให้ท่าน รมว.พม. ได้ทราบข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น เพราะเชื่อว่า อาจารย์น้องไนซ์ และครอบครัวถูกใส่ร้าย จากสื่อและกลุ่มบุคคลที่ไม่หวังดีใส่ร้ายว่าเป็นลัทธิ ทำให้ได้รับความเสียหาย ทำให้อับอาย อันเป็นการลดทอนศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ พร้อมกับอยากขอให้ พม. มีคำสั่ง คุ้มครองสวัสดิภาพ ให้กับอาจารย์น้องไนซ์ด้วย 

 

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัวของน้องไนซ์ ได้ลงจากรถตู้ส่วนตัว โดยมีทนายธรรมราช เดินนำหน้า ส่วนพ่อและแม่ของ น้องไนซ์ ก็ได้ประกบลูกลูกชายเอาไว้สองฝั่งซ้ายขวา ก่อนที่จะเดินฝ่าเข้าไปภายในศูนย์ช่วยเหลือสังคม ซึ่งในระหว่างที่กำลังเดินเข้าไปนั้น มีสื่อมวลชนเข้ามาร่วมถ่ายรูปของครอบครัวอาจารย์น้องไนซ์เป็นอย่างมาก ทำให้น้องดูตกใจไม่น้อย ด้านพ่อของน้อง จึงได้ตบบ่าเบา ๆ ว่า “พ่ออยู่ตรงนี้” 

ครอบครัว “เชื่อมจิต” เข้าร้องพม. ถูกใส่ร้ายเป็นลัทธิสร้างความ “อับอาย” ในขณะที่ มีแฟนคลับบางส่วนได้นำดอกไม้มามอบเป็นกำลังใจให้กับอาจารย์น้องไนท์อีกด้วยพร้อมกับตะโกนให้กำลังใจเสียงดังก้อง ด้านแม่น้องไนซ์ ก็บอกกับ คนที่มาให้กำลังใจว่า “เดี๋ยวน้องออกมานะคะ ” 

 

ขณะที่นางเอ (นามสมมุติ) ซึ่งเป็นลูกศิษย์ของอาจารย์ไนซ์ ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ว่า อดีต ตนเคยเป็นครูสอนหนังสือมาก่อนและได้มารู้จักกับอาจารย์ไนซ์ผ่านโลกโซเชียลเมื่อช่วงปี 2566 ซึ่งก็ได้เคารพนับถือมาเป็นเวลา 1 ปีกว่าแล้ว ซึ่งตอนที่เห็นอาจารย์ไนซ์ครั้งแรก มันเหมือนความรู้สึก ‘ปิ๊ง‘ เหมือนเรามีแฟนครั้งแรก ความรู้สึกมันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ จากนั้น ก็เลยตัดสินใจ และเคยเข้าคอร์สเชื่อมจิต วิปัสสนาถึง 3 ครั้ง ครั้งละประมาณ 700-900 บาท แต่ก็ยังไม่ได้เข้าถึงการเชื่อมจิตที่แท้จริง ยังไม่เคยเห็นแสงสีทอง หรือประตูสีขาว

โดยคนที่มาชื่อชมอาจารย์น้องไนซ์คนแรก คือ อาจารย์รักคำราม บอกว่าดีอย่างนั้นดีอย่างนี้ เชื่อมจิตได้สามารถไปสวรรค์ ไปนรกได้ แต่เมื่อผู้สื่อข่าวบอกว่า อาจารย์รักคำราม ออกมาขอโทษสังคมแล้ว อีกฝ่ายก็บอกว่า แสดงว่าอาจารย์รักคำรามโกหกสังคม อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีกระแสดราม่าเกิดขึ้นมากมาย ตนก็ยังคงศรัทธาอาจารย์น้องไนซ์ต่อไป 

 

ขณะที่ นายบี (นามสมมุติ) บอกว่าตัวเองตั้งใจนำดอกไม้มามอบให้กับอาจารย์น้องไนท์และอยากจะเจอกับอาจารย์สักครั้งหนึ่งเพราะว่าที่ผ่านมาเคยเห็นแต่ในโลกออนไลน์ส่วนตัวเชื่อว่าอาจารย์น้องไนซ์เป็นเด็กพิเศษเพราะเป็นคนพูดจาฉะฉานและเด็กอายุ 3 ขวบ แต่สามารถสวดมนต์หรือ เข้าถึงทางธรรมะได้ จึงไม่เชื่อกระแสข่าวลือ พร้อมกับจะนับถือต่อไป

ข่าวยอดนิยม