"คิง เพาเวอร์" อบรมหลักสูตรพิเศษ ดึง "โค้ชจุ่น" เผยเคล็ดลับ
"คิง เพาเวอร์" จัดอบรมพิเศษ หลักสูตรบริหารจัดการสนาม ฟุตบอลหญ้าเทียม โดยมี "โค้ชจุ่น" อดีตโค้ชทีมชาติไทย ร่วมเผยเคล็ดรับฝึกซ้อม ในครั้งนี้
อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการและรักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการสายงานการตลาด กลุ่มบริษัท "คิง เพาเวอร์" เป็นประธานในการจัด โครงการ อบรมหลักสูตรบริหารจัดการสนาม ฟุตบอลหญ้าเทียม อย่างมืออาชีพ ปีที่ 5 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ กรุงเทพฯ
โดยกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "คิง เพาเวอร์" ไทย เพาเวอร์ พลังคนไทย เพื่อวางรากฐานการบริหารจัดการ สนามฟุตบอล อย่างมืออาชีพ เพื่อเสริมสร้างความรู้ ความเข้าใจในการบริหารจัดการ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม อย่างยั่งยืน รวมไปถึงการดูแล และการบำรุงรักษา สนามฟุตบอล อย่างถูกวิธี เพื่อส่งเสริมให้เกิดประโยชน์ต่อชุมชน ให้กับผู้ที่ได้รับมอบ สนามฟุตบอล ในโครงการ 100 สนามฟุตบอล สร้างพลังเยาวชนไทย ปี 5 จำนวน 11 แห่ง เน้นบทบาทสำคัญในการพัฒนาทักษะด้านกีฬา การบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ และการส่งเสริมสนับสนุนการบริหารจัดการ สนามฟุตบอล อย่างมืออาชีพ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นรากฐาน และเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยพัฒนาศักยภาพของคนไทยไปสู่เส้นทางแห่งความสำเร็จทั้งใน ด้านกีฬา เศรษฐกิจชุมชน อย่างเข้มแข็ง
ทั้งนี้ อภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา กล่าวว่า "คิง เพาเวอร์" ให้ความสำคัญกับการส่งเสริมความรู้ในด้านการบริหารจัดกา สนามฟุตบอลหญ้าเทียม อย่างถูกวิธี เพื่อให้ สนามฟุตบอล อยู่คู่กับโรงเรียน และชุมชนได้อย่างยั่งยืน ตลอดจนต่อยอดไปสู่การพัฒนาศักยภาพคนไทยที่ชื่นชอบกีฬาฟุตบอลให้สามารถเดินตามความฝันได้สำเร็จ สำหรับ 11 สนามที่ได้รับการคัดเลือกในปี 2565 จะก่อสร้างแล้วเสร็จภายในเดือนมีนาคม 2566 พร้อมมีการตรวจสอบคุณภาพสนามตามมาตรฐาน FIFA
โดย วุฒิพงษ์ โภชฌงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนม จังหวัดนครพนม กล่าวว่า เดิมทีเด็ก ๆ ในโรงเรียนอาศัยหญ้าที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ มาดัดแปลงเป็น สนามฟุตบอล พื้นเรียบบ้าง ขรุขระบ้าง ให้เด็กๆ ที่เป็นนักฟุตบอลของโรงเรียนประมาณ 80 คน ไว้ใช้ฝึกซ้อม วินาทีที่รู้ว่าโรงเรียนได้ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม จาก "คิง เพาเวอร์" เด็กๆ ดีใจกันมาก เพราะว่าสนามมาตรฐานสากลไม่สามารถหามาซ้อมได้ง่ายๆ ถ้าเกิดอยากไปซ้อมสนามดี ๆ ในจังหวัดนครพนม ต้องเดินทางกว่า 60 กิโลเมตร เพื่อไปเล่นในอีกอำเภอหนึ่ง เด็ก ๆ รอวันนี้ และอยากเห็นสนามเร็วๆ ครับ ที่สำคัญจะนำประโยชน์ที่ได้จากการเข้าอบรมฯ ไปปรับใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด พร้อมตั้งเป้าหมายว่า หลังจากที่ได้ สนามฟุตบอล แล้ว จะพยายามทำให้นักเรียนของเราติดเยาวชนทีมชาติอย่างน้อย 1 คน ภายใน 2 ปี
ส่วนทางด้าน "โค้ชจุ่น" อนุรักษ์ ศรีเกิด อดีตโค้ช ทีมชาติไทย หนึ่งในวิทยากรในงานนี้ เผยว่า การฝึกซ้อมฟุตบอลให้ประสบความสำเร็จ จะต้องให้ความสำคัญกับการออกแบบการฝึกที่เข้มข้น เพื่อพัฒนาทีมให้ประสบความสำเร็จ ได้แก่ 1) การตั้งเป้าหมายในการฝึกซ้อม เวลาฝึกแต่ละครั้งควรตั้งเป้าหมายว่าเด็กจะได้อะไรกลับไป เช่นฝึกในเรื่องกำลัง, ฟิตเนส ทักษะเบสิค เกมรุก รวมไปถึงเรื่องความคิดการวางแผนการทำงานร่วมกัน เพื่อช่วยให้เยาวชนมีเป้าหมายที่ชัดเจน 2) การจัดตารางการแข่งขัน ควรมีทัวร์นาเมนต์ หรือรายการแข่งขันมารองรับให้เด็ก ๆ รู้สึกว่าซ้อมมาเพื่ออะไร สิ่งที่เราซ้อมมาสัมฤทธิ์ผลขนาดไหน และ 3) พัฒนาทักษะนักกีฬาเฉพาะบุคคล เมื่อเราต้องการทีม ทีมคือผู้เล่นที่ดีที่สุด เราก็ควรจะมองว่าคนที่มาคัดตัว เขายังขาดเรื่องอะไร พร้อมคัดกรองแบ่งเป็นประเภทกลุ่มที่มีคุณภาพอยู่แล้ว ก็ควรทำงานร่วมกัน กลุ่มที่อยู่ระดับปานกลาง เราก็คัดและหาคนที่ดีที่สุด ส่วนคนที่ทักษะช้าที่สุด ควรจะมองว่าจะช่วยเขาอย่างไร และใครที่แข็งแกร่งที่สุดก็จะถูกขยับเลื่อนระดับสูงขึ้น นี่คือการคัดตัวที่มีคุณภาพ
สำหรับโรงเรียนและชุมชน 11 แห่งที่ได้รับมอบสนามฟุตบอลหญ้าเทียมปีที่ 5 ได้แก่ เทศบาลตำบลธรรมมามูล จังหวัดชัยนาท, โรงเรียนบ้านแซววิทยาคม จังหวัดเชียงราย, โรงเรียนบ้านตาก ประชาวิทยาคาร จังหวัดตาก, โรงเรียนกีฬาจังหวัดนครพนม จังหวัดนครพนม, โรงเรียนประโคนชัยพิทยาคม จังหวัดบุรีรัมย์, โรงเรียนบ้านประพาส จังหวัดปราจีนบุรี, โรงเรียนก้านเหลืองดง จังหวัดมุกดาหาร, โรงเรียนศรีธรรมวิทยา จังหวัดยโสธร, โรงเรียนอัมพวันวิทยาลัย จังหวัดสมุทรสงคราม, โรงเรียนเกาะพงันศึกษา จังหวัดสุราษฎร์ธานี และโรงเรียนวิเศษไชยชาญ ตันติวิทยาภูมิ จังหวัดอ่างทอง
ติดตาม คมชัดลึก ที่นี่
เพิ่มเพื่อน Line: https://lin.ee/qw9UHd2
YouTube Official : https://youtube.com/user/KOMCHADLUEK
เช็กรายชื่อศิลปินเข้าชิง "คมชัดลึก ลูกทุ่ง Awards 2565" ใครคือ 6 Candidate กับ 8 สาขา Popular Vote ได้ที่นี่
(https://awards.komchadluek.net/#)