เซ็นสัญญา "ซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลก" 600 ล้าน กสทช.-กกท. เคาะฤกษ์ 14พ.ย.นี้
ชัดแล้ว กสทช. และกกท. เคาะกำหนดการ พิธีลงนาม MOU ควัก 600 ล้าน ซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 20022 วันจันทร์ที่ 14 พ.ย.นี้
มีความคืบหน้าใน การซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) ปี 20022 ที่ประเทศการ์ตา เป็นเจ้าภาพ
โดยล่าสุด วันที่ 11 พ.ย. 65 สำนักสื่อสารองค์กรสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ได้แจ้งกำหนดการกับสื่อมวลชนว่า
ด้วย สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (สำนักงาน กสทช.) ร่วมกับ การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) กำหนดจัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการซื้อลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก (รอบสุดท้าย) ปี 2022
ในวันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน 2565 เวลา 009.00-10.00 น. ณ ห้องประชุมสายลม 5021 อาคารหอประชุม ชั้น 2 สำนักงาน กสทช. ถนนพหลโยธิน 8 (ซอยสายลม) เขตพญาไท แขวงสามเสนใน กรุงเทพ โดยมี ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธาน กสทช. เป็นประธานในพิธี
ผู้สื่อข่าวรายงานการเซ็นเอ็มโอยู ดังกล่าวเป็นการดำเนินการต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวันพุธที่ 9 พฤศจิกายน 2565 ที่ กสทช. มีมติในการประชุมวาระพิเศษ เกี่ยวกับการอนุมัติงบสนับสนุน การกีฬาแห่งประเทศไทย หรือ กกท. เพื่อใช้ในการ ถ่ายทอดสด การแข่งขัน "ฟุตบอลโลก" หรือ FIFA World Cup Qatar 2022 ซึ่งจะมีการจัดการแข่งขันขึ้นในวันที่ 20 พฤศจิกายน - 18 ธ.ค. 2565 ณ กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ นี้
ซึ่งภายหลังการประชุมนัดดังกล่าว นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รักษาการแทนเลขาธิการกสทช. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. โดยกรรมการเสียงข้างมาก มีมติอนุมัติสนับสนุนเงินงบประมาณแก่การกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เพื่อการ ถ่ายทอดสด การแข่งขัน "ฟุตบอลโลก" รอบสุดท้าย FIFA World Cup Qatar 2022 ตามจำนวนค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง ภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณ 600 ล้านบาท
โดยให้คณะกรรมการบริหารกองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ (กองทุน กทปส.) และสำนักงาน กสทช. ดำเนินการตามระเบียบต่อไป
" กสทช. โดยกรรมการเสียงข้างมาก อนุมัติเงินจากกองทุน กทปส. 600 ล้านบาท (รวมภาษีและอากรอื่นใด)เพื่อให้คนไทยทุกคนสามารถรับชมการ ถ่ายทอดสด "ฟุตบอลโลก 2022" ทั้ง 64 นัด ผ่านฟรีทีวีทุกแพลตฟอร์ม เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิของคนพิการ ผู้มีรายได้น้อย และคนด้อยโอกาสให้เข้าถึงหรือรับรู้และใช้ประโยชน์จากรายการของกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ได้อย่างเสมอภาคกับบุคคลทั่วไป" นายไตรรัตน์ กล่าว