สมยศ เฉลย"ก้าวข้ามอาเซียน" เปิดโอกาสนักเตะดาวรุ่งสัมผัสเวทีอาเซียน
นายกสมาคมกีฬาฟุตบอล เปิดใจกับวลีที่เคยพูดไว้ เมื่อครั้งเข้าดำรงตำแหน่งประมุขสมัยแรก " ก้าวข้ามอาเซียน" ระบุความหมายแท้จริง คือเปิดโอกาสให้กับนักฟุตบอลดาวรุ่ง สัมผัสฟุตบอลรายการภูมิภาคอาเซียน เพิ่มประสบการณ์ เอื้อต่อการสร้างผู้เล่นขึ้นทีมชุดใหญ่
พล.ต.อ.ดร.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ได้ใช้พื้นที่ในสื่อสังคมออนไลน์ ของ สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ทำความเข้าใจกับสังคม จากการใช้คำว่า "ก้าวข้ามอาเซียน" ซึ่งกล่าวคำนี้ไว้ เมื่อครั้งเข้าดำรงตำแหน่ง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เป็นสมัยแรก หรือ ผ่านมา 6 ปี ซึ่งต่อมาคำกล่าวคำนี้ ถูกนำไปวิพากษณ์ว่า ถึงผลงานฟุตบอลทีมชาติไทย ที่ต้องการก้าวข้ามอาเซียน แต่กลับไม่สามารถทำได้สวนทางกับคำพูดที่เคยกล่าวเอาไว้ ทั้งนี้ความหมายของคำว่า "ก้าวข้ามอาเซียน" สิ่งที่ต้องการสะท้อนก็คือ
"ก้าวข้ามอาเซียน" คือ การเปิดโอกาสให้กับนักฟุตบอลดาวรุ่งทีมชาติไทย
ได้มีโอกาสสัมผัสการแข่งขันฟุตบอลรายการระดับภูมิภาคอาเซียน เพื่อเพิ่มประสบการณ์ ถือเป็นเวทีให้ได้ลงเล่นในแมตช์นานาชาติ อันจะเป็นการ
เพิ่มจำนวนผู้เล่นที่จะขึ้นมาสู่ทีมชาติชุดใหญ่ต่อไป ซึ่งการเปิดโอกาสนั้น ด้วยการใชนักฟุตบอลดาวรุ่ง อาจจะไม่ได้การันตีหรือคาดหวังผลการแข่งขัน ได้เท่ากับการนำผู้เล่นระดับชั้นนำไปแข่งขัน ซึ่งฟุตบอลระดับอาเซียน จะจัดแข่งขันทัวนาเมนต์นอกฟีฟ่าเดย์ หรือถ้าเป็นรายการที่จำกัดอายุก็จะไม่มีผลต่อการนับคะแนน เพื่อจัดอันดับโลก
ขณะเดียวกัน การขอผู้เล่นตัวหลักจากสโมสร จึงเป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือระเบียบ และเป็นสิ่งที่เข้าใจสโมสรในจุดนี้เป็นอย่างดี ขณะเดียวกัน การทำทุกสิ่ง ด้วยการหยุดทุกอย่าง แลกกับการได้มาซึ่งผลการแข่งขันระดับอาเซียน แล้วเป็นว่าระบบฟุตบอลอาชีพต้องได้รับ ผลกระทบ ส่วนตัวก็ไม่เห็นด้วยและนี่คือที่มาของความหมายของคำว่าการ "ก้าวข้ามอาเซียน"
ทั้งนี้จุดหมายของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ขอชี้แจงว่า ไม่ได้มองข้าม หรือ ไม่สนใจการแข่งขันของทีมชาติไทย แต่จะทำให้ดีที่สุด และได้ประโยชน์สูงสุด โดยไม่ได้สร้างผลกระทบให้กับการพัฒนาฟุตบอลอาชีพของไทย " ผมต้องการใช้ฟุตบอลรายการในระดับภูมิภาคเหล่านี้ ให้ทีมชาติไทยได้เรียกตัวดาวรุ่งหรือเยาวชนรุ่นใหม่ ให้ทีมชาติไทยมีจำนวนผู้เล่นที่มีประสบการณ์ในแมตช์นานาชาติมากขึ้นเรื่อย ๆ ในทุก ๆ ครั้ง เพื่อให้ทีมชาติไทยของเรามีตัวเลือกมากขึ้นอยู่เสมอในอนาคต ซึ่งไม่ต่างจากหลายประเทศที่เลือกใช้วิธีการนี้"
พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า เมื่อใช้ผู้เล่นดาวรุ่งในฟุตบอลอาเซียน ทำให้
ทีมชาติไทย ชุดใหญ่ ซึ่งใช้ผู้เล่นหลัก ของสโมสรต้นสังกัดในลีกอาชีพและฟุตบอลถ้วยต่าง ๆ แต่ละฤดูกาลจะต้องลงสนามไม่น้อยกว่า 30-40 นัด ก็จะมีเวลาพอเพียงสำหรับฟื้นฟูร่างกาย สำหรับการเตรียมตัวเพื่อการแข่งขันฟุตบอลรายการสำคัญ ๆ ที่อยู่ในช่วงปฏิทินฟีฟ่า เพื่อเป้าหมายในระดับเอเชีย หรือ สูงกว่านั้น ถือเป็นการแบ่งภารกิจอย่างชัดเจน
"ผมยังยืนยันว่า สมาคม ฯ และ บริษัท ไทยลีก จำกัด ให้ความสำคัญกับสโมสรสมาชิก พร้อมให้การสนับสนุนด้านต่าง ๆ ในทุกมิติ ลดความขัดแย้ง สร้างความร่วมมือกับสโมสร ทุกภาคส่วน เพื่อให้ทุกสโมสรมีการพัฒนา โดยเฉพาะการยกระดับคุณภาพของการแข่งขันฟุตบอลลีกอาชีพ ผู้ตัดสินที่มีคุณภาพ และเทคโนโลยีฟุตบอลต่าง ๆ วีเออาร์ สิ่งเหล่านี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้ฟุตบอลลีกอาชีพของประเทศ เติบโตเป็นศูนย์กลางฟุตบอลในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งจะส่งผลดีต่อทีมชาติไทยในวันข้างหน้า"
พล.ต.อ.ดร.สมยศ กล่าว
ขอขอบคุณภาพจาก สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย