สปอนเซอร์สมาคมว่ายน้ำฯมายกแผงเทงบหนุน ถ่ายสด"ฟุตบอลโลก2022"
ผู้ว่า กกท. แถลงข่าวเปิดตัวการแข่งขัน "ฟุตบอลโลก 2022" ที่คนไทยจะได้ชมสด 64 แมตช์ ชี้ความสำเร็จในภารกิจ มาจากการหนุนช่วยของภาคเอกชนที่ร่วมลงขัน " คมชัดลึก" เปิดรายชื่อองค์กรที่เข้ามา พบส่วนใหญ่เป็นสปอนเซอร์ซึ่ง หนุนสมาคมกีฬาว่ายน้ำ ที่มี"บิ๊กป้อม" เป็นนายกสมาคม
การเปิดตัวผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสด "ฟุตบอลโลก 2022" โดย ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ในการแถลงข่าว " ฟีฟ่า เวิลด์คัพ กาตาร์ 2022 ถ่ายทอดสดทุกแมตช์ เชียร์ให้สนั่น รับชมฟรีทั่วไทย" ซึ่งจัดขึ้นที่เซ็นทรัลเวิลด์ กรุงเทพฯ เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นอกจากจะเป็นการประกาศความมั่นใจ ต่อการถ่ายทอดสด "ฟุตบอลโลก 2022" ครบทุกนัดแล้ว การจัดงานครั้งนี้ยังเป็นการเปิดตัวผู้สนับสนุนการถ่ายทอดสด
ซึ่งถือได้ว่ามีส่วนสำคัญอย่างยิ่ง ที่ทำให้การถ่ายทอดสด เดินหน้าไปได้ โดยเอกชนเหล่านี้ คือผู้ที่ร่วมกันระดมทุน เพื่อใหได้ยอดเงินกว่า 600 ล้านบาท เพื่อเป็นค่าลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสด
การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท. ) ในฐานะผู้รับมอบอำนาจจากรัฐบาล ให้ดำเนินการในส่วนของการเจรจากับผู้ถือสิทธิ์ถ่ายทอดสด "ฟุตบอลโลก 2022" หรือตัวแทนสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ " ฟีฟ่า" โดย กกท. มีงบประมาณก้อนแรกในมือ รวม 600 ล้านบาท ที่ได้รับมาจาก คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ( กสทช.) รวมไปถึงการสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ หน่วยงานในสังกัด การกีฬาแห่งประเทศไทย ทั้งนี้ในส่วนของภาคเอกชนที่เปิดตัวในการเป็นผู้สนับสนุนการถ่ายทอด ฟุตบอลโลก "กาตาร์เวิลด์คัพ 2022" ประกอบด้วย
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง( บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด ( มหาชน) , บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน), บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน), บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน), ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) โดย ภาคเอกชนเหล่านี้ ล้วนเป็นองค์กรธุรกิจเดียวกัน ที่ร่วมให้การสนับสนุน สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกรัฐมนตรี ทำหน้าที่ นายกสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย
ปัจจุบันผู้สนับสนุนสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย ประ กอบด้วย พีทีทีกรุ๊ป หรือ , บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน), บริษัทไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) , คิงเพาเวอร์ หรือ บริษัท คิง เพาเวอร์ อินเตอร์เนชันแนล จำกัด , ซีพีเอฟ หรือ บริษัทซีพีเอฟ ประเทศไทย จำกัด ( มหาชน ) , ซีพีออลล์ หรือบริษัท บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) , ทรู หรือ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน), บางจาก หรือ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) , UTEL หรือ บริษัท ยูไนเต็ด เทเลคอม เซลส์ แอนด์ เซอร์วิสเซส จำกัด , ไทยออยล์ หรือ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน), GC หรือ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำ กัด (มหาชน) และ แกรนด์สปอร์ต หรือ บริษัทแกรนด์สปอร์ตกรุ๊ป จำกัด
สำหรับการสนับสนุนทางการเงินที่มาจากภาคเอกชน ที่ส่วนใหญ่ต่างร่วมให้การสนับสนุน สมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย และเข้ามาร่วมสนับสนุนการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก ต่างจัดสรรเงินตามรายชื่อดังนี้ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด (มหาชน) 300 ล้านบาท , 3. น้ำแร่ธรรมชาติ ตราช้าง (บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จํากัด (มหาชน) 100 ล้านบาท , บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) 100 ล้านบาท , 5.บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ 20 ล้านบาท
6.บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) 20 ล้านบาท , บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) 10 ล้านบาท , บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท : เดิมไม่ได้สนับสนุนสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย , ธนาคาร กสิกรไทย จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท : เดิมไม่ได้สนับสนุนสมาคมกีฬาว่ายน้ำแห่งประเทศไทย และ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) 50 ล้านบาท
ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการ การกีฬาแห่งประเทศไทย ( กกท. ) กล่าวว่า ฟุตบอลโลก เป็น 1 ในมหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กีฬาโอลิมปิกเกมส์ เป็นการแข่งขันกีฬาที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก เป็นรายการกีฬาที่ทุกคนทั่วโลกและคนไทยให้ความสนใจ การที่รัฐบาลและภาคเอกชน ดิ้นรนซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดการแข่งขัน ก็เพื่อต้องการให้คนไทยได้รับชมอย่างเท่าเทียมและทั่วถึง
การถ่ายทอดสดที่เกิดขึ้นได้ ต้องขอบคุณทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง ที่ทุ่มเททำงานอย่างหนัก จนสามารถบรรลุการเจรจาซื้อลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมาให้คนไทยได้ชมกันครบ 64 แมตช์ แบบทันเวลา สามารถจบการเจรจากับทางตัวแทนของสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ "ฟีฟ่า" จนได้ราคาลิขสิทธิ์ที่ลงตัว 33 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1,200 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมค่าภาษีและการดำเนินการต่างๆด้วย ค่าใช้จ่ายทั้งหมดจะอยู่ที่ 1,400 ล้านบาท
สำหรับการชำระค่าลิขสิทธิ์ทางฟีฟ่าให้ประเทศไทยแบ่งชำระ 2 งวด คือ งวดแรกก่อนเกมนัดเปิดสนาม ซึ่งก็ใช้งบประมาณที่ได้รับมาจากกสทช. ชำระไปแล้ว จำนวน 600 ล้านบาท และอีกงวด 600 ล้านบาท ซึ่งจะเป็นเงินสนับสนุนจากภาคเอกชน ที่จะชำระภายในวันที่ 25 พ.ย.นี้ ในส่วนภาคเอกชน ที่เข้ามาร่วมสนับสนุน ถือเป็นคุณูปการ ของ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกรัฐมนตรี ที่เชื้อเชิญภาคเอกชนเข้ามา เพราะลำพัง กกท. เองแล้ว ไม่มีศักยภาพมากพอ ที่จะผลักดันการเจรจาสนับสนุนทางการเงิน ให้ประสบความสำเร็จ ดร.ก้องศักด ระบุ